เดินหน้าชน : หัวใจทำด้วยอะไร

เดินหน้าชน : หัวใจทำด้วยอะไร

ความมั่นคงตอนนี้คือ ประเทศที่มีวัคซีนและบริการสาธารณสุขที่เพียงพอ แต่ประเทศนี้งบกระทรวงกลาโหมยังได้สูงขึ้นเรื่อยๆ เรายังมีงบประมาณจัดซื้ออาวุธและเรือดำน้ำ สุขภาพของประชาชนงบบัตรทองไม่ได้เตรียมไว้รับรองผู้ประกันสังคมที่กำลังจะจากประกันสังคมมาใช้บัตรทองอีกหลายล้านคน งบความมั่นคงของวัคซีนก็ไม่มีŽ ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งข้อสังเกตการตั้ง
งบปี 64 ไว้อย่างน่าสนใจ

จึงอยากตั้งคำถามว่า วันนี้ความมั่นคงทางสุขภาพและปากท้องของประชาชน สำคัญกว่าความมั่นคงทางการทหารหรือไม่Ž

ถ้าหยุดซื้ออาวุธสักปีสองปีคงไม่ได้กระทบอะไร อาวุธเก่าคงไม่ได้ทำให้ประชาชนรู้สึกไม่มั่นคงŽ เสียงของ ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบปี 64 ออกมาแฉว่า กองทัพกำลังจัดซื้อเรือดำน้ำจากจีนอีก 2 ลำ มูลค่า 22,500 ล้านบาท เวลานี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องจัดซื้อเพิ่มหรือไม่ ควรนำเงินในส่วนนี้มาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาปากท้อง กำลังล้มละลายจากวิกฤตโควิดจะดีกว่า

เพราะขณะนี้เงินเยียวยาเพื่อช่วยเหลือประชาชนกลุ่มคนต่างๆ ก็ให้ไม่ทั่วถึง รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม บอกว่า ไม่มีเงินพอที่จะช่วยเหลือทุกคนได้ เมื่อไม่มีเงิน และที่สำคัญรัฐบาลยังกู้เงินมาใช้จ่ายจนหนี้สาธารณะกำลังจะชนเพดานกู้ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว แต่ทำไมยังจะเดินหน้าซื้อเรือดำน้ำ

Advertisement

จึงอยากถามใจ พล.อ.ประยุทธ์ว่าทำไมถึงไม่คิดถึงชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน หัวใจท่านทำด้วยอะไรคิดแต่จะซื้ออาวุธ

ระหว่างคนกำลังจะเดือดร้อนอดตายจากพิษเศรษฐกิจ กับยุทธศาสตร์ทางทะเลที่อ้างมา สิ่งไหนมันสำคัญกว่ากัน

ยิ่งเห็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กชำแหละงบประมาณปี 64 ไว้น่าสนใจ โดยระบุว่า งบเสริมสร้างกำลังกองทัพทั้ง 3 เหล่าทัพของกระทรวงกลาโหม ตั้งผูกพันตั้งแต่ปี 61-66 ณ ปี 64 ยังเหลืออยู่ตั้ง 117,000 ล้านบาท ยังมาตั้งงบใหม่ในปี 64 อีกเกือบ 30,000 ล้านบาท รวมทั้งงบสร้างเสริมยุทโธปกรณ์ บวกซ่อมแซมอีกกว่า 10,000 ล้านบาท

เอาเงินกว่า 40,000 ล้านบาทนี้ ไปจ้างเกษตรกรปลูกพืชปรับปรุงดิน และช่วยค่าปรับปรุงการผลิตให้ใช้สารเคมีน้อยลง เพื่อปูพื้นฐานไปสู่การผลิตอาหารปลอดภัยครัวเรือนละ 15,000 บาท

จะได้ประโยชน์คุ้มค่ากว่าจะช่วยเกษตรกรได้เกือบ 3 ล้านครอบครัว ให้ผลิตอาหารปลอดสารพิษ ได้ทั้งการช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ใหม่ให้เกษตรกร และช่วยให้คนไทยได้บริโภคอาหารที่ปลอดภัย

จากนี้ไปคนไทยกำลังเจอกับสึนามิเศรษฐกิจครั้งยิ่งใหญ่ ที่จะนำมาซึ่งความทุกข์ยากอย่างแสนสาหัส การจัดงบประมาณแผ่นดินปี 64 จะจัดงบปกติอย่างทุกปีไม่ได้ ต้องทุ่มทุกบาททุกสตางค์ไปกู้วิกฤตเศรษฐกิจให้ได้ก่อน โดยควรจัดงบไปลงทุนในโครงการที่ทำให้เกิดการสร้างงานและรายได้ใหม่ให้ประชาชน

แต่การจัดงบประมาณปี 64 ยังจัดกันแบบเดิมๆ นายกฯยังไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับทุกข์ของคนไทย ยังแจกจ่ายงบแบ่งเค้กกันอย่างสนุกสนาน ระหว่างผู้มีอำนาจกับพ่อค้า บนความทุกข์ยากของประชาชน

อย่างงบที่ควรตัดในปี 64 ของกลาโหมแต่ พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะรัฐมนตรีกลาโหมไม่ยอมตัด

หยุดซื้ออาวุธ หยุดสร้างอาคารใหม่ หยุดเช่ารถใหม่สักปีจะได้ไหม ?

เพื่อนำเงินจำนวนนี้มาช่วยเกษตรกร และคนตกงาน 8.3 ล้านคนจะดีกว่า ในยามที่ประเทศกำลังเผชิญสึนามิเศรษฐกิจ

ซึ่งเชื่อว่า พี่น้องทหารมืออาชีพส่วนใหญ่เห็นด้วยที่จะยอมเสียสละ หยุดซื้ออาวุธ หรือหยุดสร้างอาคารสัก 1-2 ปี แต่คนที่ไม่ยอมตัดงบเหล่านี้มาช่วยชาวบ้าน น่าจะเป็นพวกที่มีอำนาจใช่หรือไม่ ?

วันนี้ประเทศเรามีนายกฯที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับทุกข์ของคนไทย แต่อาจเป็นโชคดีที่ยังมี ส.ส.ในสภาที่มักอ้างว่ายึดโยงกับประชาชน วันนี้ไม่ว่าคุณจะอยู่ซีกไหน ฝ่ายค้านหรือรัฐบาล โดยเฉพาะ ส.ส.ที่นั่งในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบปี 64 ต้องทำงานให้สมราคาเพื่อเป็นตัวแทนของชาวบ้าน แสดงสำนึกรู้ร้อนรู้หนาว ร่วมทุกข์กับคนไทยกันบ้างแล้ว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image