| ผู้เขียน | เดินหน้าชน |
|---|
ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นรายบุคคลเป็นที่เรียบร้อย สำหรับพรรคร่วมฝ่ายค้านที่นำโดย พรรคเพื่อไทย (พท.)
โดยศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ครม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมรัฐมนตรีอีก 9 คน
ได้แก่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
หากสแกนรายชื่อรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ครั้งนี้กลุ่มพี่น้อง 3 ป. พล.อ.ประวิตร พล.อ.อนุพงษ์ และ พล.อ.ประยุทธ์ โดนกันครบถ้วน
ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาล ทั้งพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) รายชื่อที่ถูกล็อกเป้าอภิปราย ล้วนเป็นระดับหัวหน้าพรรค
คือ “อนุทิน ชาญวีรกูล” และ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” 2 หัวหน้าพรรคหลักของรัฐบาลพรรคผสม 20 พรรค
ส่วนไทม์ไลน์การอภิปรายที่คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) และวิปฝ่ายค้าน ตกลงกันในเบื้องต้น
การอภิปรายจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 16-19 กุมภาพันธ์ และลงมติไว้วางใจ หรือไม่ไว้วางใจในวันที่ 20 กุมภาพันธ์
ขณะที่ข้อกล่าวหาและพฤติการณ์ของนายกฯ และ 9 รัฐมนตรี ในญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แม้จะดูร้ายแรงและหนักหน่วง
เป็นเรื่องธรรมดาของการยื่นญัตติของฝ่ายค้าน เพราะไม่ไว้วางใจให้นายกฯและรัฐมนตรีตามรายชื่อข้างต้นได้ทำหน้าที่บริหารประเทศอีกต่อไป
โดยขุนพลฝ่ายค้าน พร้อมประกาศกันมาตั้งแต่ต้นว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้พร้อมจัดหนัก ใส่เต็มที่ มีหมัดเด็ดให้ได้ดูกันทุกวัน ไม่มีมวยล้มแน่นอน
แต่สิ่งที่ประชาชนรอติดตามการทำหน้าที่ตรวจสอบของฝ่ายค้านต่อฝ่ายบริหาร นั่นคือ หลักฐานและข้อเท็จจริงในแบบที่มีคุณภาพมากกว่าปริมาณ
ขณะที่่ฝั่งของรัฐมนตรี หากมั่นใจในความบริสุทธิ์ต่อการทำหน้าที่บริหารประเทศของตัวเอง ต้องชี้แจงข้อกล่าวหาด้วยข้อเท็จจริง และหลักฐานที่น่าเชื่อถือ
มากกว่าการใช้สำนวนโวหาร ไม่ต้องพึ่งบริการของบรรดาองครักษ์ มาคอยประท้วงระหว่างการอภิปรายให้เสียเวลาของท่านผู้ชม
เพราะท้ายที่สุดด้วยเสียงข้างมากของรัฐบาลที่มีอยู่ถึง 276 เสียงต่อ 212 เสียง หากไม่มีแอ๊กซิเดนต์อะไร ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลคงจะลงมติโหวตให้รัฐมนตรีทั้ง 10 คน
ได้ทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนข้อมูลและหลักฐานของฝ่ายค้านจะสั่นคลอนความชอบธรรม และความน่าเชื่อถือของรัฐบาลและรัฐมนตรีที่มีชื่อได้แค่ไหน
ประชาชนเขารอดูการทำหน้าที่ของผู้ทรงเกียรติกันอยู่นะท่าน
จตุรงค์ ปทุมานนท์
