| ผู้เขียน | เดินหน้าชน |
|---|
เดินหน้าชน : ลุงตู่สู้ๆ-สู้(ตาย) โดย ศุกร์ มังกร
เสียงตะโกน “ลุงตู่สู้ๆ” จากชาวบ้านเมื่อ 7 ตุลาคม ในวันที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์ดิจิทัลชุมชน ที่ ต.มะม่วงสองต้น อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
“เราเป็นคนชาติเดียวกัน ใครมาแบ่งแยกไม่ได้ นี่คือสิ่งที่ตนคาดหวังจากทุกคนขอแค่นั้นเอง ให้สัญญากับผมได้หรือไม่ หากได้ขอให้ปรบมือ ซึ่งจะเป็นกำลังใจให้กับผมและคณะทั้งหมด เพื่อทำงานให้ประชาชนให้ดีที่สุด ทั้งนี้ทุกอย่างต้องใช้เวลาและต้องแก้ไขทั้งหมดผมคิดว่าใน 5 ปีข้างหน้าหลายอย่างต้องดีขึ้นจากโครงสร้างที่ทำใหม่ทั้งหมด” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ทำไมต้อง 5 ปี หาก “สแกน” ความหมายจาก “นัย” ดังกล่าวจะพบว่า หลังสภาครบเทอม 4 ปี ในอีก 1 ปีเศษๆ ข้างหน้าลุงตู่จะลงสมัครรับเลือกตั้งถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกฯและจะกลับมาเป็นผู้นำประเทศอีกครั้งเพื่ออยู่ไปจนครบเทอม 4 ปี รวมกันแล้วก็จะเป็น 5 ปี
การพูดที่นครศรีฯ เสมือนเป็นการ “ฝึกซ้อม” หาเสียงขอกำลังใจ ขอคะแนนเสียง ด้วยการขอเสียง “ปรบมือ”
เสียงตะโกน ลุงตู่สู้ๆ ของคนนครศรีฯ แต่ดังไปทั่วประเทศผ่านการนำเสนอข่าวสารของสื่อ ย่อมทำให้ลุงตู่ “คึกคัก-มั่นใจ” ในตัวเอง
แต่ “พรรคประชาธิปัตย์” ซึ่งในอดีตเคยครองที่นั่ง ส.ส.ที่นครศรีธรรมราชและภาคใต้จะคิดอย่างไร?
สำหรับพรรคการเมืองอื่นๆ โดยเฉพาะพรรค “ฝ่ายค้าน” ก็คงต้องวางแผนทางการเมืองว่าใน 1 ปีที่เหลือนับจากนี้จะแสดง “บทบาท” อย่างไร เพื่อ “เอาชนะ” การเลือกตั้งและเพื่อ “ปิดประตู” มิให้ลุงตู่หวนคืนเก้าอี้นายกฯอีกสมัย
กระนั้นก็อย่า “ประมาท” หรือ “ปรามาส” ลุงตู่โดยเด็ดขาดว่า “ไร้น้ำยา” บริหารประเทศ “ล้มเหลว” จะต้องพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งอย่างแน่นอนไม่มีทางได้เป็นนายกฯ
อย่าลืมว่าลุงตู่มีมือ “ส.ว.250” เสียงที่เปรียบได้กับพรรคการเมืองพรรคหนึ่งที่มีความเป็น “เอกภาพ” คอยโหวตให้เป็นนายกฯคอย “ปกป้อง-คุ้มครอง” ชนิด “ถวายหัว”
ในจำนวนนี้มี 6 คนเป็นผู้นำเหล่าทัพบก-เรือ-อากาศ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ปลัดกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
และนั่นย่อมหมายความว่าระบบ “การเลือกตั้ง” จะใช้ “บัตร 2 ใบ” ใบหนึ่งเลือก ส.ส.เขต 400 คน อีกใบเลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน ที่ขณะนี้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทูลเกล้าฯไปแล้ว
ความหวังของลุงตู่ที่จะ “ทำลายสถิติ” การนั่งเก้าอี้นายกฯยาวนานถึง 13 ปี นับจากนายกฯจากการรัฐประหาร 2557 จนถึงเลือกตั้งครั้งหน้าอยู่ครบวาระปี 2570
แต่อาจพลิกล็อก “เกิดอุบัติเหตุ” ทางการเมืองขึ้น ทำให้กระเด็นหล่นจากตำแหน่งก่อนก็เป็นได้
ลุงตู่และชาวบ้านที่ตะโกนลุงตู่สู้ๆ ควรเผื่อใจไว้บ้างก็ดี!?
หนึ่ง การเมืองใน “รัฐบาลผสม” นั้น ตราบเท่าที่ผลประโยชน์แบ่งปันส่วนกันลงตัว ก็จะอยู่ร่วมกันได้ แต่คราใดขัดผลประโยชน์และแยกตัวออกมาก็พัง
หนึ่ง กลเกมการเมือง “ศึกในสภา” ที่พรรคฝ่ายค้านถล่มเล่นงานอาจปะทุขึ้นเมื่อ “เนื้อใน” รัฐบาล “เกิดสนิม” ก็ยากที่จะฝ่าฟันต่อไปได้
หนึ่ง กลุ่มมวลชน เยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษาผู้ที่ไม่พอใจลุงตู่พยายามชุมนุมขับไล่มาหลายปี ก็ไม่ยอมลดละ หวัง “สั่นคลอน” เสถียรภาพให้ได้
บ้านเมืองใน 5 ปีข้างหน้า นับจากนี้ ภายใต้ “ผู้นำ” ที่ชื่อลุงตู่ จะดีขึ้น หรือทรงตัว หรือแย่ลง ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง?
แต่การหาเสียงก็ต้องพูดในสิ่งที่จะเป็น “ผลดี” กับตัวเองและพรรค เพื่อให้ได้ “คะแนนนิยม” จากชาวบ้าน
ลุงตู่สู้ๆ คือ “การให้กำลังใจ” ย่อมแตกต่างกับ “ลุงตู่สู้ตาย”
ซึ่งในระหว่างการ “ต่อสู้” นั้น อาจเกิด “บาดเจ็บ-ล้มตาย” ขึ้นได้ เพราะมันคือการขับเคี่ยวเพื่อ “เอาชนะ” ไม่ว่าสงครามด้วย “อาวุธ” หรือ “สงครามการเมือง”!?!
