ทีมตบลูกยางสาวไทย ผ่านเข้าไปลุ้นเหรียญทองครั้งแรกในประวัติศาสตร์ หลังจากโค่น “โสมขาว” เกาหลีใต้ 3-1 เซต 25-15, 25-20, 20-25, 25-22 ในการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง รอบรองชนะเลิศ กีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่เกโรลา บัง การ์โน เทนนิส อินดอร์ เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พร้อมการันตีเหรียญเงินแน่นอนแล้ว
เกมนี้ “โค้ชด่วน” ดนัย ศรีวัชรเมธากุล หัวหน้าผู้ฝึกสอนลูกยางสาวไทย ต้องมีการปรับทัพ 6 คนแรก หลังจากที่ “บุ๋มบิ๋ม” ชัชชุอร โมกศรี ได้รับบาดเจ็บในเกมกับเวียดนาม ทำให้รายชื่อ 6 คนแรก ประกอบด้วยปลื้มจิตร์ ถินขาว กัปตันทีม, ทัดดาว นึกแจ้ง, วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์, นุศรา ต้อมคำ, พิมพิชยา ก๊กรัมย์, อรอุมา สิทธิรักษ์ โดยมี ปิยะนุช แป้นน้อย เป็นตัวรับอิสระ
เซตแรกตบสาวไทยออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยม ใช้จังหวะตบทำแต้มหนีห่างเกาหลีใต้ไปได้ 5-1 จากนั้นเกาหลีใต้เริ่มตั้งหลักได้ ค่อยๆ ทำแต้มไล่กลับมาอยู่ที่ 6-8 ทว่าอรอุมาทำ 3 แต้มรวดให้ไทยหนีห่างอีกครั้ง 14-9 จากนั้นยังเป็นฝ่ายไทยที่เล่นได้ดีกว่าไล่ทำแต้มหนีห่างจนปิดเซตแรกไปได้ก่อน 25-15
เซตต่อมาเกาหลีใต้เริ่มออกมาเล่นเกมรับได้เหนียวแน่นกว่าเดิม เป็นฝ่ายทำแต้มหนีไทยไป่ก่อนบ้าง 5-1 ทำให้โค้ชด่วนต้องรีบขอเวลานอกก่อน จากนั้นไทยพยายามลดระยะห่าง แต่ไม่สามารถทำได้ จนต้องส่ง “เพียว” อัจฉราพร คงยศ ที่เจ็บมาตลอดลงเล่นเป็นเกมแรก และกลายเป็นเกมของไทยดีขึ้นจนไล่ตีเสมอได้สำเร็จที่ 16-16 ก่อนจะแซงนำ 18-17 ช่วงท้ายเซต ไทยเป็นฝ่ายเล่นได้ดีกว่าและปิดเซตได้อีกครั้ง 25-20 ขึ้นนำ 2-0 เซต
เซตที่ 3 เกาหลีใต้เป็นฝ่ายออกตัวได้ดีอีกครั้งนำไทยถึง 5-1 จากนั้นไทยพยายามไล่แต่ทีมโสมขาวก็รักษาระยะห่างคะแนนได้ดี ทำให้ไทยยังตามอยู่ 11-16 พอเข้าสู่ช่วงปลายเซต เกมของไทยดีึขึ้นมา จนขยับแต้มตีเสมอได้ที่ 19-19 แต่ก็ถูกเกาหลีใต้ทำ 5 แต้มรวดนำห่างออกไปอีกครั้ง และปิดเซต 25-20 ไล่มาเป็น 1-2 เซตในที่สุด
เซตที่ 4 ต่างฝ่ายเริ่มเล่นแบบระมัดระวังกัน ผลัดกันทำแต้ม ก่อนจะเป็นเกาหลีใต้ที่ทำแต้มหนีไทยได้ก่อน ขึ้นนำ 8-5 จากนั้นยังเป็นฝ่ายตบสาวโสมขาวที่เล่นได้ดีกว่า ทำแต้มนำห่างไทยไปเรื่อยๆ แต่ตบสาวไทยไม่ยอมแพ้ ค่อยๆ ทำแต้มไล่มาจนกลับมาพลิกมาแซงนำ 22-21 จนเอาชนะไปได้ 25-22 ทำให้ไทยเอาชนะไป 3-1 เซต ผ่านเข้าชิงชนะเลิศเป็นหนแรกได้สำเร็จ
โดยสาวไทยจะเข้าไปชิงชนะเลิศกับผู้ชนะระหว่างจีนกับญี่ปุ่น โดยจะแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 1 กันยายนนี้ เวลา 16.30 น.
