ส.ส.ปชป.ชี้ ‘บิ๊กตู่’ ไปคลองโอ่งอ่าง ทำคนปักใจเชื่อ ช่วย ‘อัศวิน’ หาเสียงชัด

‘พนิต’ ส.ส.ปชป.ชี้ ‘บิ๊กตู่’ ไปคลองโอ่งอ่าง ทำคนปักใจเชื่อ ช่วย ‘อัศวิน’ หาเสียงชัด

เมื่อวันที่ 2 เมษายน นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อเขียนเรื่อง “บิ๊กวิน” ในเงา “บิ๊กตู่”? แสดงความเห็นกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถูกวิจารณ์การลงพื้นที่คลองโอ่งอ่าง รับฟังปัญหาพี่น้องประชาชนในช่วงเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. โดยมีรายละเอียดดังนี้

ผมเชื่อว่า มีคนตั้งคำถามถึงท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ ในช่วงไม่กี่วันมานี้ โดยเฉพาะการลงพื้นที่และให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

โดยเฉพาะในวันที่ 30 มีนาคม พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แม้จะระบุว่า ไม่ได้เชียร์ใคร แต่คนส่วนใหญ่ที่ได้ยินได้อ่าน ต่างตีความว่า หมายถึง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

“ฉะนั้น ถ้าจะหาเสียงลองถามต่อไปสิว่าของเดิมที่ทำมาแล้วมีอะไรบ้าง เขารู้หรือยัง และจะทำอะไรต่อตรงนั้น หรือจะทำอะไรใหม่ ถ้ามารื้อทิ้งทั้งหมดถามว่าจะไปได้อย่างไร” คำว่า “จะทำอะไรต่อ” มันสอดรับกับสโลแกนของ พล.ต.อ.อัศวิน ที่ว่า “กรุงเทพฯต้องไปต่อ” อย่างบังเอิญ?

Advertisement

อีกวันต่อมา ช่วงเย็น 31 มีนาคม พล.อ.ประยุทธ์ ควงแขน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่คลองโอ่งอ่าง รับฟังปัญหาพี่น้องประชาชน โดยเป็นภารกิจที่ไม่ได้อยู่ในกำหนดการอีกครั้ง

การลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรีของประเทศนี้คงไม่แปลกอะไร หากแต่การเลือกลงพื้นที่คลองโอ่งอ่างในช่วงนี้ และวันเดียวกับที่มีการรับสมัครเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครวันแรก มันยิ่งทำให้คนปักใจเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ กำลังช่วย พล.ต.อ.อัศวิน หาเสียงทางอ้อม แม้ไม่ได้มีประโยคไหนสื่อถึงก็ตามที

เพราะการปรับปรุงภูมิทัศน์คลองโอ่งอ่าง จนได้รับรางวัลต้นแบบในการปรับปรุงภูมิทัศน์ในเขตเมืองของเอเชียประจำปี ค.ศ.2020 (2020 Asian Townscape Award) จากโครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ (United Nations Human Settlements Programme : UN-HABITAT) ซึ่งประกาศรางวัลไปเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2563 เป็นสิ่งที่ พล.ต.อ.อัศวิน ใช้เป็นผลงานมาโดยตลอดและนำมาหาเสียงในครั้งนี้ด้วย

Advertisement

พอเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นตั้งแต่วันแรกที่รับสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มันจึงสร้างความหวาดระแวง และไม่ไว้วางใจเจ้าหน้าที่ของรัฐว่า จะจัดการเลือกตั้งได้บริสุทธิ์ยุติธรรมจริงหรือไม่ และจะมีการใช้กลไกฝ่ายอำนาจมาเอื้อให้กับผู้สมัครคนใดคนหนึ่งเป็นพิเศษหรือไม่ ในเมื่อผู้นำยังทำตัวสองแง่สามง่ามลับๆ ล่อๆ

การที่ผู้มีอำนาจไม่ได้วางตัวเป็นอิสระตามหน้าที่ของตัวเอง ย่อมสร้างความได้เปรียบเสียเปรียบให้กับผู้สมัครคนอื่นๆ การกระทำแบบนี้ มันไม่เพียงทำลายบรรยากาศการเลือกตั้งที่คนกรุงรอมา 9 ปี หรือเป็นการตัดสิทธิคนกรุงให้ได้รับสิ่งดีๆ เท่านั้น แต่มันยังทำให้รู้สึกว่า มีใครพยายามที่จะรักษาอำนาจของตัวเองไว้ โดยทำทุกอย่างให้คนจากฝ่ายตัวเองชนะ

เมื่อทำกันแบบนี้ มันจะยิ่งตอกลิ่มให้การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ แบ่งเป็นสองฝ่าย และเป็นการต่อสู้ระหว่างฝ่ายเผด็จการกับฝ่ายประชาธิปไตยด้วย พล.ต.อ.อัศวินจะสลัดภาพ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เป็นคนตั้งมากับมือไม่ออก รวมทั้งก่อนหน้า ที่ได้รับการแต่งตั้งด้วยคำสั่ง คสช. และดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.มา 5 ปีเศษ แม้จะพยายามทำตัว และลงแข่งในนามอิสระ

และผมไม่แน่ใจว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ ทำแบบนี้มันจะช่วยกระตุ้นคะแนนให้กับ พล.ต.อ.อัศวินได้จริงหรือไม่ อาจเป็นดาบสองคม ทำลายคะแนนของ พล.ต.อ.อัศวิน เสียด้วยซ้ำ เพราะคนกรุงไม่ชอบอะไรที่มันไม่แฟร์

ระวังคนจะไม่เอา พล.ต.อ.อัศวิน เพราะกลัวจะได้ พล.อ.ประยุทธ์ ที่มีภาพของการสืบทอดอำนาจนะครับ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image