สกลธี เปิดไอเดียแก้ปากท้องคนกรุงเทพฯ ด้วยเกษตรวิถีใหม่ ค่าไฟ 0 บาท

สกลธี เปิดไอเดียแก้ปากท้องคนกรุงเทพฯ ด้วยเกษตรวิถีใหม่ ค่าไฟ 0 บาท

วันนี้ (12 เมษายน 2565) นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 3 เปิดเผยถึงแนวคิดแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนด้วยการใช้ระบบจัดการ Smart Farm เพื่อการทำพื้นที่การเกษตรในกรุงเทพมหานครที่ได้ผลและยั่งยืน ในระหว่างร่วมเวทีเสวนาที่ เรส-คิว ฟาร์ม | Res-Q Farm เขตคลองสามวา ว่า เรส-คิว ฟาร์ม ของ นายวีระ สรแสดง เป็นฟาร์มทดลองขนาด 9 ไร่ เป็นต้นแบบเกษตรกรรมวิถีใหม่ที่ไม่ใช้สารเคมี สามารถลดต้นทุน และสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ

“ผมมองว่าพื้นที่รอบนอกกรุงเทพฯ หลายแห่ง ยังเป็นพื้นที่เกษตรกรรม ซึ่งมักประสบปัญหาด้านต้นทุนและผลผลิต การส่งเสริมให้เกษตรกร รวมไปถึงคนทำงานที่สนใจการเกษตรวิถีใหม่ได้มีความรู้และเข้าใจการทำเกษตรกรรมแบบ Smart Farming ที่สามารถทำได้ไม่ยาก จะช่วยลดปัญหาตรงนี้ลงได้ ซึ่งผมได้เลือก เรส-คิว ฟาร์ม เป็นฟาร์มต้นแบบ ซึ่งสามารถเปลี่ยนพื้นที่ที่มีปัญหา ทั้งที่ดินต่ำกว่าถนน น้ำท่วม ไม่มีไฟฟ้า และดินไม่ดี ให้เป็นฟาร์มแบบออร์แกนิค ไม่ใช้สารเคมี และเน้นพลังงานสะอาดในการบริหารจัดการ โดยนำวัสดุเหลือใช้ อย่างเช่น มอเตอร์เครื่องซักผ้า มอเตอร์ตู้เย็น อุปกรณ์รถยนต์ มาประยุกต์สร้างสรรค์เป็นเครื่องมือต่างๆ และใช้พลังงานจากโซลาร์เซลเป็นหลัก ทำให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดค่าไฟฟ้า ทั้งยังสร้างรายได้ด้วยการส่งขายและแปรรูปเป็นอาหาร” นายสกลธีกล่าว

Advertisement

ทั้งนี้ นายสกลธีกล่าวว่า เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม. ได้นำแนวคิดนี้ไปทดลองทำเป็นแปลงเกษตรและบรรจุสอนเป็นวิชาที่โรงเรียนฝึกอาชีพของกรุงเทพมหานคร (หนองจอก) พร้อมกับทำเป็นศูนย์การฝึกอาชีพของคนพิการทุกประเภทด้วย ซึ่งคาดว่าจะทำการเรียนการสอนได้ในเร็ววันนี้

“โมเดล Smart Farming นี้ ผมจะต่อยอดไปสู่การสนับสนุนให้พี่น้องชาวกรุงเทพฯ นำความรู้เรื่อง Smart Farming ไปใช้ในการปลูกพืชผักในพื้นที่ของตัวเอง อาจจะเป็นสวนหลังบ้าน ระเบียงบ้าน หรือในลานจอดรถ เพื่อสร้างรายได้จุนเจือครอบครัว เน้นปลูกผักไฮโดรโปนิกส์หลายชนิด รวมถึงพืชผักที่มีราคาดี เช่น โรสแมรี ออริกาโน ผักเคล เห็ด ชาทาร์รากอน ฯลฯ โดยมีฝ่ายพัฒนาชุมชนของ กทม.ทั้ง 50 เขต ให้การสนับสนุนช่วยเหลือ ทั้งการให้ความรู้ สนับสนุนเมล็ดพันธุ์ และหาช่องทางการจำหน่ายให้ เป็นการให้ให้ทุกบ้านสามารถทำการเกษตรเป็นอาชีพ ทั้งอาชีพหลักและอาชีพเสริมได้อย่างครบวงจร” นายสกลธี กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเสวนาและนำเสนอนโยบายครั้งนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนในพื้นที่ ตลอดจนคนรุ่นใหม่ที่สนใจวิถีเกษตรกรรมแบบ Smart Farming เข้าร่วมรับฟังจำนวนมาก พร้อมทั้งได้นำเสนอปัญหาที่อยากให้ กทม.ดำเนินการแก้ไข โดยเฉพาะปัญหาเกี่ยวกับปากท้อง ซึ่งนายสกลธีได้รับฟังและร่วมถกถึงหนทางแก้ไข เพื่อนำไปบรรจุลงในนโยบายในการพัฒนากรุงเทพฯ ให้ดีกว่านี้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image