สกลธี ชูโปรโมตแหล่งเที่ยวกรุงเทพฯ รับนโยบายรัฐบาลเปิดประเทศ 1 พ.ค.

สกลธี ชูโปรโมตแหล่งเที่ยวกรุงเทพฯ รับนโยบายรัฐบาลเปิดประเทศ 1 พ.ค.

วันนี้ (24 เมษายน 2565) นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.หมายเลข 3 ลงพื้นที่หาเสียง พบปะประชาชนในตลาดย่านฝั่งธนบุรี ได้แก่ ตลาดศาลาน้ำเย็น ตลาดรถไฟ ตลาดศาลาน้ำร้อน ตลาดวังหลัง ตลาดน้ำตลิ่งชัน ตลาดน้ำคลองลัดมะยม และตลาดสดธนบุรี โดยระหว่างเดินพูดคุยกับผู้ค้าและประชาชนที่ตลาดวังหลัง ยังคงได้รับร้องเรียนปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะขอให้ช่วยเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจหากได้เป็นผู้ว่าฯกทม. เนื่องจากผู้คนจับจ่ายซื้อของลดน้อยไปมาก

นายสกลธีกล่าวว่า วันนี้เดินทางไปหลายพื้นที่ของตลาดในย่านฝั่งธน ซึ่งเห็นศักยภาพของแต่ละพื้นที่ว่าสามารถพัฒนาได้ เช่น ที่ตลาดวังหลัง ตอนที่ตนเป็นรองผู้ว่าฯกทม. เคยมีแผนพัฒนาให้เป็นเหมือนถนนข้าวสาร

“เราเป็นชุมชนดั้งเดิมและเป็นพื้นที่จับจ่ายใช้สอย ทั้งคนในพื้นที่และบุคลากรศิริราช รวมทั้งนักศึกษาจากธรรมศาสตร์ คือแนวของผมเน้นที่จะพัฒนาพื้นที่ พื้นที่ใดก็ตามที่สามารถเพิ่มศักยภาพที่ดีขึ้น ค้าขายได้ดีขึ้น และไม่กระทบต่อการเดินเท้า เพราะต้องสมดุลกันระหว่างการค้าขายในพื้นที่ และสิทธิของคนที่ใช้ทางเท้าร่วมกันด้วย” นายสกลธีกล่าว และว่า จากที่เดินตลาดทุกวันพบว่ามีจุดเด่นเรื่องอาหารที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นข้าวเหนียวมะม่วง หมูปิ้ง หรือขนมไทยต่างๆ ที่เป็นอาหารง่ายๆ ที่จะสามารถดึงจุดเด่นออกมาโปรโมตได้ ซึ่งตนก็ได้ทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญมาช่วยงานด้านนี้อยู่แล้ว

Advertisement

นายสกลธีกล่าวว่า สำหรับทีมของตนมี นายกฤษณะ แก้วธำรงค์ อดีตรองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่มีความสามารถด้านการท่องเที่ยวในประเทศมาช่วยโปรโมตการท่องเที่ยวให้บูมขึ้น ทั้งนี้ ตนคิดว่ายังมีอีกหลายพื้นที่ที่สามารถเข้ากันได้ระหว่างวิถีชุมชนกับการท่องเที่ยวสมัยใหม่ อาจจะไม่ได้ทำแค่ถนนคนเดิน แต่อาจจะมีการใช้จัดงานศิลปะในชุมชน ต้องใช้วิธีหลายๆ วิธีมาฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโรคโควิด-19 คลี่คลาย

“จากนโยบายของรัฐบาลที่จะเริ่มเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ หากผมได้เป็นผู้ว่าฯกทม. สิ่งที่จะทำได้อย่างรวดเร็วเพื่อให้ทันการเปิดรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่ทำได้ทันทีอาจจะเป็นการนำรถบัสไฟฟ้าไปรับส่งนักท่องเที่ยวที่บริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญ และนักท่องเที่ยวสามารถเดินชื่นชมดื่มด่ำกับวัฒนธรรมของชุมชนต่างๆ นับเป็นแผนที่ทำได้เลยไม่ต้องรองบประมาณใดๆ และเชื่อว่าสำนักงานเขต และผู้ประกอบการเองก็มีความพร้อมที่จะช่วยกันอยู่แล้ว สิ่งที่ต้องเพิ่มเติมอาจจะเป็นเรื่องของการคิดไอเดียต่างๆ ที่จะทำให้เกิดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวให้มากขึ้นเท่านั้น” นายสกลธีกล่าว

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image