‘วิโรจน์’ ควงผู้สมัคร ส.ก.ลุยชายทะเลบางขุนเทียน ลั่นหากเป็นผู้ว่าฯจะทำงบตอบโจทย์พื้นที่

‘วิโรจน์’ ควงผู้สมัคร ส.ก.ลุยชายทะเลบางขุนเทียนหนุนโครงการคันหินกั้นคลื่น แก้น้ำกัดเซาะ สัญญาหากเป็นผู้ว่าฯ จะจัดทำงบตอบโจทย์พื้นที่

เมื่อวันที่ 5 เมษายน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) เบอร์ 1 พรรคก้าวไกล (ก.ก.) พร้อมด้วย นายวิเชียร กันทาทรัพย์ ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตบางขุนเทียน เบอร์ 1 เดินตลาดเช้าพบปะพี่น้องประชาชน และชมโครงการสะพานรักษ์บางขุนเทียน ซึ่งเป็นสะพานที่เชื่อมต่อกับเส้นทางจักรยานและป่าชายเลน ก่อนจะถึงแนวคันหินที่ป้องกันการกัดเซาะของน้ำทะเล โดยปัญหานี้เป็นปัญหาเรื้อรังยาวนานหลายสิบปี

นายวิโรจน์กล่าวว่า ตนกังวลกับระยะเวลาของโครงการ เกรงว่าจะกลายเป็นโครงการเมกะโปรเจ็กต์เจ็ดชั่วโคตร หากได้รับเลือกให้บริหารงาน กทม.จะเร่งดำเนินการ เร่งรัดปรับลดระยะเวลาการทำงานให้สั้นลง ขณะเดียวกันก็จะเน้นผลักดันการปลูกป่าชายเลนไปพร้อมๆ กับการทำโครงสร้างอ่อนอย่างไม้ไผ่ที่ใช้เป็นแนวกันคลื่น เพื่อลดความแรงของคลื่นในการกัดเซาะชายฝั่ง เสริมกับคันหินที่กำลังก่อสร้างด้วย นายวิโรจน์ย้ำกับผู้สื่อข่าวว่า ที่ผ่านมาประชาชนได้บริจาคที่ดินให้ กทม.เพื่อทำแนวคันหิน แต่สุดท้าย กทม.กลับยังไม่ดำเนินการทำอะไร อีกทั้งยังขอให้มีการบริจาคเพิ่มอีกเรื่อยๆ ดังนั้น กทม.ต้องเร่งดำเนินการไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน

Advertisement

นายวิโรจน์กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังพบปัญหาที่ประชาชนร้องเรียน เช่น การก่อสร้างสะพานและโครงการเลียบป่าชายเลน แม้จะเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่ แต่สิ่งก่อสร้างกลับไม่ได้คำนึงถึงการใช้สอย ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ เช่น สะพานและทางเลียบป่าชายเลนที่มีขนาดกว้างราวๆ 2 เมตร ผู้สูงอายุก็ไม่สามารถเดินบนทางเท้าได้

เมื่อถามว่าจำนวนผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ที่มีมากถึง 31 คน คะแนนก็จะกระจาย จะมีกลยุทธ์อย่างไร นายวิโรจน์กล่าวว่า ตนก็ต้องแสดงจุดยืนและนโยบายให้ชัดเจน การบริหารเมืองไม่ได้ใช้แค่การบริหารจัดการ แต่ต้องพูดถึงการจัดสรรงบประมาณอย่างเหมาะสมด้วย รวมถึงการตรากฎกติกาที่เป็นธรรม ซึ่งจะนำเมืองไปสู่ความเป็นธรรมได้ ส่วนวิธีการโน้มน้าวคนที่เห็นตรงข้ามนั้นตนคิดว่าเราจะต้องแสดงความจริงใจ ทุกคนอยากเห็น กทม.ดีขึ้น ถูกพัฒนาอย่างตรงไปตรงมา และงบประมาณถูกใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ทุกคนไม่เห็นด้วยกับการคอร์รัปชั่นอยู่แล้ว ถ้าหากเรามีจุดยืนที่ชัดเจนที่จะทำให้งบประมาณทุกบางทุกสตางค์ตกถึงมือประชาชน ตนคิดว่าเป็นโอกาสที่เขาจะพิจารณาพวกเรา

Advertisement

เมื่อถามว่าจากโพลคะแนนยังเป็นรองตัวเต็งอีกหลายคน นายวิโรจน์กล่าวต่อว่า เราก็ต้องทำงานเต็มที่ นำเสนอนโยบาย 12 ข้อ ที่เราพยายามสร้างเมืองที่เป็นธรรม เมืองที่คนเท่ากัน เพื่อให้ประชาชนรับทราบถึงความตั้งใจของเรา

ด้านนายวิเชียรกล่าวว่า พื้นที่นี้ประสบปัญหาหนักเรื่องการสร้างสิ่งก่อสร้างที่ประชาชนไม่ได้ต้องการ บวกกับการออกแบบที่ไม่คำนึงถึงการใช้ประโยชน์ เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นคลองที่เชื่อมกับทะเล เส้นทางและสะพานที่ใช้เชื่อมบ้านเรือนไม่สามารถนำรถพยาบาลเข้าไปได้ ทำให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวกเวลาเจ็บป่วยฉุกเฉิน ซึ่งสะท้อนการใช้งบแบบราชการ ไม่เข้าใจความต้องการประชาชน หากนายวิโรจน์ได้เป็นผู้ว่าฯกทม. ตนเชื่อว่าการใช้งบแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก เพราะทีมนายวิโรจน์มีนโยบาย “งบที่ประชาชนออกแบบได้” ซึ่งเป็นการกันงบประมาณจำนวนหนึ่งของ กทม.ให้ประชาชนเลือกได้ว่าจะใช้งบทำประโยชน์อะไรในชุมชน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image