นายกพัทยา ลั่นพร้อมลุยทันที หลัง กกต.รับรอง สานต่องานชุดเก่า-กระตุ้นเพิ่มคนมาเที่ยว

พัทยา-เบียร์ ปรเมศวร์ พร้อมทำงานทันทีหลังมีประกาศรับรองนายกเมืองพัทยา

จากกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยที่ประชุม กกต.ได้พิจารณาผลการตรวจสอบเบื้องต้น และเห็นควรประกาศรับรองให้ นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ ผู้สมัครหมายเลข 1 จากกลุ่มเรารักพัทยา ซึ่งได้รับผลคะแนนสูงสุดเป็นนายกเมืองพัทยา เนื่องจากมีเหตุอันควรเชื่อว่าผลการเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ตามมาตรา 17 พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 นั้น

ย้อนอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ล่าสุด (13 มิ.ย.) นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา กล่าวภายหลังได้รับรองผลถึงงานที่จะเข้าไปดำเนินการเป็นเรื่องแรก ว่าจริงๆ แล้วสมาชิกเมืองพัทยาในทีมทั้ง 24 คน ที่ได้รับการรับรองไปก่อนหน้านี้ ได้เข้าไปดำเนินการในหลายๆ เรื่องแล้ว โดยภายหลังที่เข้าไปทำงาน เรื่องที่จะเข้าไปทำทันนี้นั้นไม่ว่าจะเป็นเรื่อง 4 เป้าหมาย นโยบาย เรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจ การยกระดับคุณภาพของชีวิต การแก้ปัญหาน้ำท่วม สานต่อวิสัยทัศน์นีโอพัทยา ปฏิรูปรูปแบบการศึกษา และพัฒนาเทคโนโลยี

“แต่เรื่องสำคัญที่เร่งด่วนจริงๆ แน่นอนเรื่องเศรษฐกิจ ก็จะมีกิจกรรมต่อเนื่องที่ได้วางไว้ในแผนเดิมอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลมิวสิกเฟสติวัลที่เลื่อนมาจากเดือนมีนาคม รวมถึงปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนของการใช้ถนนหนทาง ก็มีการประสานงานกับทางปลัดเมืองพัทยา และผู้รับเหมา ให้นำรายละเอียดของโครงการต่างๆ ที่ดำเนินการอยู่ และที่ดำเนินการแล้วเสร็จไปแล้วมาดูว่าดำเนินการเป็นอย่างไร แล้วก็ต้องเข้าไปดูผู้รับเหมาต่างๆ ว่าดำเนินการรัดกุมปลอดภัยอย่างไร รวมถึงต้องมีภาพว่างานเสร็จแล้วจะเป็นอย่างไรให้ประชาชนได้รับรู้ ซึ่งปัจจุบันทำอยู่ถนนวอล์กกิ้งสตรีทที่มีนักท่องเที่ยวกลับมาแล้ว”

Advertisement

นายปรเมศวร์กล่าวต่อว่า เรื่องที่สำคัญอีกเรื่องคือปัญหาเศรษฐกิจ อย่างที่ทราบดี 2 ปีกว่าได้รับผลกระทบหนัก เราต้องเข้าไปดู เราสามารถเปิดพื้นที่ข้อบัญญัติในที่สาธารณะในการขายของได้ การจัดระเบียบชายหาด ซึ่งปัจจุบันมีข่าวสับสนของเทศบาลนาจอมเทียนสวยงามขึ้น มีพ่อค้าแม่ค้าไปจับจองพื้นที่โดยไม่มีการจัดระเบียบ ซึ่งเข้าใจว่าเป็นเขตของเมืองพัทยา ซึ่งเราต้องเข้าไปปรับความเข้าใจกับสถานการณ์ซึ่งต้องคงไว้กับชายหาดที่สวย

ส่วนแนวทางของเศรษฐกิจต้องกระตุ้นให้คนเดินทางมาที่พัทยา ไม่ว่าจะเป็นคนต่างชาติหรือคนไทย ซึ่งในปัจจุบันเราได้เห็นว่าเมื่อเรื่องโควิดเริ่มคลี่คลายก็จะเห็นนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย อาหรับ เวียดนาม เริ่มเข้ามา ซึ่งต้องรอทัวร์จีน หรือปัญหาสงครามยูเครน รัสเซีย ซึ่งเป็นปัญหาพื้นฐานที่ต้องทำให้กลับเข้ามา และต้องมีการจัดกิจกรรมให้สอดคล้องให้มากขึ้น รวมทั้งในเดือนกรกฎาคมที่มีการจัดกิจกรรมวิ่งมาราธอน ซึ่งเราต้องประสานกับทางอีอีซีในการที่จะทำให้เมืองนี้เป็นเมืองที่พลังงานสะอาด เป็นสมาร์ทซิตี้เกี่ยวกับการจัดประชุมใหญ่ๆ หรือกิจกรรมต่างๆ ของมูลนิธิใหญ่ๆ โดยจะมีต่างชาติกว่า 5,000 คน มาร่วมกิจกรรม นอกจากนั้นจะต้องเข้าไปดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องรถโดยสารต่างๆ

“ซึ่งจะเข้าไปทำการต่อยอดเรื่องต่างๆ จากผู้บริหารชุดเก่า รวมทั้งเกี่ยวกับการปฏิรูปรูปแบบการศึกษา แนวคิดให้เด็กๆ มีกิจกรรมร่วมกันทั้ง 11 โรงเรียน นอกจากนั้นเกี่ยวกับผู้สมัครที่มีการร้องเรียนซึ่งจริงๆ เราก็รู้จักกันดี ซึ่งเรื่องร้องเรียนดังกล่าวไม่ได้เป็นประเด็นหนักใจอะไร ซึ่งเราก็สามารถชี้แจงได้ทุกเรื่อง” นายปรเมศวร์กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image