ชัชชาติ เผย ‘นิ้วกลม’ ชวนเขียนหนังสือ อยากเล่าชีวิต-เรื่องลูกชาย แนะอย่าลืม ‘ระหว่างบรรทัด’

ชัชชาติ เผย ‘นิ้วกลม’ ชวนเขียนหนังสือ อยากเล่าชีวิต-เรื่องลูกชาย แนะอย่าลืม ‘ระหว่างบรรทัด’

เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ที่สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ ชั้น 5 ห้างสรรพสินค้าสามย่านมิตรทาวน์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศภายในงาน “นายอินทร์สนามอ่านเล่น”

โดยเวลา 11.15 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) ร่วมงานนายอินทร์สนามอ่านเล่น ตอนสนามกระชับมิตร ก่อนขึ้นเวทีเสวนาในหัวข้อ “Inspire Talk สนามบันดาลใจ” เพื่อแชร์ประสบการณ์ บอกเล่ามุมมองในฐานะนักอ่านตัวยง พร้อมสร้างแรงบันดาลใจในการอ่านให้แก่เยาวชน นิสิต นักศึกษา ประชาชน ที่เดินทางมาร่วมงานคับคั่ง ตั้งแต่เวลา 10.00 น.

นายชัชชาติกล่าวถึงหนังสือ แพลตฟอร์ม เรโวลูชั่น (Platform Revolution) ว่าเป็นการปฏิวัติของแพลตฟอร์ม ซึ่งอ่านเมื่อ 8 ปีมาแล้ว ว่าสามารถเอามาใช้ได้เลย ก็คือ Traffy Fondue (ทราฟฟี่ฟองดูว์)

“แต่ก่อนธุรกิจไกด์ไลน์เป็นท่อ ทุกคนเจอปัญหาก็เขียนร้องเรียนที่ผู้ว่าฯ ผู้ว่าฯก็บอกรองผู้ว่าฯ รองผู้ว่าฯก็บอกปลัด ปลัดก็บอกรองปลัด มันจะมีท่อที่สั่งการอยู่ ธุรกิจก็เดินเป็นท่อ พอมีเทคโนโลยีเปลี่ยนจากท่อเป็นแพลตฟอร์ม เป็นเหมือนตลาดนัด เป็นกระดานกลาง เราต้องการอะไรก็โยนเข้าไปในแพลตฟอร์ม

Advertisement

เป็นสิ่งที่เอกชนทำมานาน พอเปลี่ยนมาใช้ในระบบราชการ อย่างทราฟฟี่ฟองดูว์ที่ให้คนแจ้งเหตุเข้ามา เมื่อสำนักงานเขตมาเห็นก็ต้องเข้ามาแก้ไข ถ้าไม่ทำก็จะเห็นเรื่องร้องเรียนที่ค้างอยู่

อย่างเราจะกินบะหมี่ร้านนายบ๊วยในแพลตฟอร์ม ก็จะมีไรเดอร์ที่เห็น ก็จะเข้ามาเซอร์วิสทันที เอาไปส่งให้ แพลตฟอร์มสร้างพลัง สามารถขยายสเกลได้ ดิสรัปต์การเปลี่ยนวิธีกินบะหมี่ ไม่ต้องไปกินที่ร้าน

ในหนึ่งเดือนมันเป็นการปฏิวัติแพลตฟอร์ม หนังสือที่เราอ่านเมื่อ 8 ปีที่แล้ว มันมีผลกับชีวิตคนกรุงเทพฯในวันนี้จริง ซึ่งมีคนแจ้งปัญหามาแล้วกว่า 1 แสนเรื่อง แก้ไขไปแล้ว 4 หมื่นเรื่อง โดยที่ผมไม่ต้องสั่งการเลย” นายชัชชาติกล่าว

Advertisement

นายชัชชาติกล่าวว่า คำว่า สตาร์ตอัพ (Startup) ผมได้อ่านหนังสือ Lean Startup มี 2 ความหมายสำคัญคือ Disrupt (ดิสรัปต์) เป็นการทำลายโมเดลธุรกิจเดิม กับมีการขยายผล (Scale) เช่น เราสั่งอาหารผ่าน Grab นี่คือดิสรัปต์โมเดลธุรกิจเดิม และสามารถขยายผลได้ ที่มีร้านค้ามาร่วมเป็นแสนร้าน

ได้อ่านหนังสือ Nonviolent Communication ประโยคที่ดีมากๆ คือ ‘อย่าตัดสินคนอื่น เพราะคุณไม่รู้ว่าเขาผ่านอะไรมาบ้าง’ คนพูดอะไรไปอย่าเพิ่งไปเกลียดเขา โกรธเขา ชีวิตเขาอาจจะผ่านอะไรมาเยอะแยะเลยที่เราไม่รู้ ที่เขาพูดกับเราเป็นแค่ส่วนหนึ่ง แต่เราเอาไปตัดสินกับคำพูดแค่นี้ มันก็ไม่ดีทั้ง 2 ฝ่าย

“หนังสือหนึ่งเล่มอ่านดีๆ ประโยชน์มีอยู่ไม่กี่คำพูด แต่มันมีผลกับชีวิตเราได้” นายชัชชาติกล่าว

นายชัชชาติยังกล่าวถึงกรณีที่มีคนเขียนเนื้อหาฉบับย่อของหนังสือว่า มันก็ดีสำหรับคนไม่มีเวลา แต่บางทีหลายสิ่งหลายอย่างจะหายไป บางคำพูดระหว่างบรรทัด ที่มันเป็นเนื้อหาสำคัญเหมือนกัน อาจจะไม่ได้สำคัญสำหรับคนสรุป แต่สำคัญสำหรับเรา แต่ละคนมีชีวิตที่ต่างกัน ความหมายที่ซ่อนอยู่ระหว่างบรรทัดผมว่ามีความหมายเหมือนกัน ถ้ามีเวลาอ่านเล่มเต็ม แล้วก็ใช้เวลาคิดระหว่างบรรทัด เนื้อหาที่ซ่อนระหว่างบรรทัด

นายชัชชาติกล่าวว่า การอ่านหนังสือเหมือนเพิ่มจุดในชีวิต เหมือนที่สตีฟ จ็อบส์ บอกว่า “You can connect dot in the past.” เราไม่สามารถเชื่อมต่อจุดในอนาคตได้ เมื่อคุณเจอปัญหา อยากจะสร้างคำตอบ คุณต้องเอาจุดที่มีอยู่แล้วในสมองมาตอบ คือจุดที่คุณสะสมไว้แล้ว คุณไม่สามารถเอาจุดในอนาคตมาทำได้ หนังสือเป็นหนึ่งในวิธีสะสมจุดในชีวิต อย่างการอ่านหนังสือ แพลตฟอร์ม เรโวลูชั่น เมื่อ 8 ปีที่แล้ว มีจุดสะสมไว้ในหัวพอเราเห็นปัญหา เราก็เอาจุดพวกนี้มาเป็นคำตอบได้

“แต่ถ้าชีวิตเรามี 2 จุด ก็มีคำตอบเดียวเป็นเส้นตรง มี 3 จุด ก็ต่อเป็นสามเหลี่ยมได้ ถ้ามี 10 จุด เราต่อได้หลายรูปแบบ การอ่านหนังสือเหมือนเป็นการสะสมจุดในชีวิต บางทีไม่ได้ใช้ในตอนนี้ แต่ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า เอามาประกอบร่าง เป็นคำตอบในชีวิตเราได้” นายชัชชาติกล่าว

นายชัชชาติกล่าวว่า มีหนังสือที่สร้างแรงบันดาลใจ อ่านหนังสือชีวประวัติอย่าง เนลสัน แมนเดลา เป็นนักต่อสู้ มีหลักการในชีวิตมาก มีคนเคยถามตนว่าความเป็นผู้นำคืออะไร ตอนนั้นที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ไม่ได้เป็นเรื่อง Leadership เลย แต่คือ Lead Your Life คือการนำชีวิตเรา ถ้านำชีวิตเราได้ เราก็นำอย่างอื่นได้

“เนลสัน แมนเดลา เป็นประธานาธิบดีประเทศแอฟริกาใต้ ได้รับรางวัลโนเบล แต่เมื่ออ่านประวัติเขาแล้ว ความเป็นผู้นำไม่ได้อยู่ตอนเป็นประธานาธิบดีเลย ตอนที่เขาติดคุกอยู่ 27 ปีต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน ไม่ยอมเสียอุดมการณ์ ออกมาก็ยังต่อสู้ต่อจนเป็นประธานาธิบดี ความเป็นผู้นำไม่ได้อยู่ที่ตอนจบ มันคือความเป็นผู้นำชีวิต” นายชัชชาติกล่าว

นายชัชชาติกล่าวต่อไปถึง ‘โถแก้วของชีวิต’ ว่า ทุกคนมีโถแก้วเหมือนกัน ต้องเอา หิน กรวด ทราย ใส่ลงไป หินเป็นเรื่องสำคัญ กรวดรองลงมา ทรายเป็นเรื่องไร้สาระ หลายคนเอาทรายไปเต็มเลย ทั้งเล่นไลน์ เล่นเฟซบุ๊ก ดูติ๊กต็อก สุดท้ายไม่มีที่ใส่หิน เช่น การดูแลสุขภาพ การดูแลครอบครัว การอ่านหนังสือ

“แค่ถ้าเราสร้างนิสัยเอาหินใส่ลงไปก่อน ตื่นขึ้นมาออกกำลังกายครึ่งชั่วโมง อ่านหนังสือ 15 นาที แล้วค่อยเอากรวด เอาทรายใส่ตามลงไป มันมีที่เหลือเสมอ หรือถ้าไม่มีเวลาอ่านก็ใช้วิธีการฟังพอดแคส หรืออ่านที่เขาสรุปมาก็ได้ สุดท้ายขึ้นอยู่กับใจเรา คือถ้าใจรักการอ่าน เดี๋ยวเราหาอ่านได้” นายชัชชาติกล่าว

เมื่อถามว่าอยากเขียนหนังสือเองหรือไม่ นายชัชชาติตอบว่า มีคนชวนเขียน แต่ยังไม่เคยเขียน ตอนนี้ยังไม่มีเวลา ‘นิ้วกลม’ เคยชวนเขียนหนังสืออยู่ โดยเรื่องที่อยากเขียนคงเป็นเรื่องชีวิตเรา ชีวิตเราก็มีหลายรูปแบบที่ต่างกัน มีบางจุดที่เป็นประโยชน์กับหลายคน อย่างเรื่องลูกชาย ที่มีอาการหูหนวก จนไปผ่าตัดแล้วพูดได้ นึกถึงคำของ เนลสัน แมนเดลา เป็นบทกวีที่เขียนไว้ตอนติดคุกว่า “ฉันเป็นเจ้านายของชะตาชีวิต ฉันเป็นกัปตันของจิตวิญญาณ” สุดท้ายแล้วชีวิตเป็นตัวเรากำหนด ขึ้นอยู่กับว่าเราสู้แค่ไหน บทกวีนี้เหมือนเราพาลูกผ่านช่วงที่โหดร้ายมาได้ รวมไปถึงการไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ที่ทำให้น้องคนหนึ่งบรรเทาอาการโรคซึมเศร้าได้ ถ้าเราสร้างความหวัง สร้างแรงบันดาลใจให้ใครสักคนได้ ตนว่ามันก็เกินคุ้ม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image