ตู้หนังสือ : กำเนิดสปีชีส์ ย้อนต้นรากพบปัจจุบัน
กำเนิดสปีชีส์-นับจากมกราคมมา พ้นเมษายนเดือนที่ 4 ไปแล้ว การตั้งรับของสาธารณสุขไทยสร้างความไว้เนื่อเชื่อใจจากผู้คนในประเทศ และได้รับความนิยมยกย่องจากต่างประเทศ ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่สามารถวางใจได้ ตราบเท่าที่ยังคิดค้นยารักษาและวัคซีนป้องกันไม่สำเร็จ การระมัดระวังยังต้องเข้มงวดต่อไป โดยเฉพาะเมื่อต้องผ่อนคลายให้ทุกคนกลับมาทำมาหากินหารายได้เลี้ยงตัว การผ่อนปรนสถานการณ์ต้องประมาทเลินเล่อไม่ได้ ขณะที่ต้องดูแลปากท้องประชาชนไปด้วย
ยามนี้การแสวงความบันเทิงเพื่อผ่อนคลายจิตใจยามสถานการณ์ตึงเครียด เมื่อต้องอยู่บ้าน ไม่ว่าปลูกผักสวนครัว จัดแจงระเบียบบ้านใหม่ กลับมาออกกำลังกาย ทำกับข้าว หัดเล่นดนตรี ฟังเพลง ดูหนัง อ่านหนังสือ ฯลฯ ร้อยแปดพันประการ สำหรับผู้มีทุนทุกลักษณะที่จะทำสิ่งเหล่านี้
และขออภัยต่อผู้ไร้ทุนทำกิจดังกล่าว ที่ต้องกังวลกับการหาเลี้ยงชีพวันต่อวันยิ่งกว่า
อยู่บ้านอ่านหนังสือสัปดาห์นี้ จึงเสนอสาระควบคู่ไปกับการแสวงความเข้าใจในตัวเองแง่มุมอื่นๆ โดยกลับไปศึกษาต้นตอการเป็นมนุษย์จาก กำเนิดสปีชีส์ หรือ ดิ ออริจิน ออฟ สปีชีส์ (The Origin of Species) ของ ชาร์ลส์ ดาร์วิน เจ้าตำรับวิวัฒนาการ
เล่มนี้เป็นหนังสือขายดีระดับโลกที่เสนอแนวคิดทรงพลังทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งก่อความเห็นต่างนานัปการมามายาวนานกว่า 150 ปี เป็นงานของนักวิทยาศาสตร์ นักชีววิทยา นักคิด นักเขียน นักเดินทาง และคนขวางโลก ฯลฯ ซึ่งมีชีวิตอยู่เมื่อศตวรรษครึ่งที่ผ่านมา
เมื่อพบฟอสซิลหอยบนยอดเขา ผู้คนต่างเชื่อว่าพระผู้เป็นเจ้านำขึ้นไป แต่ดาร์วินคิดว่า น่าจะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ ไม่ใช่อำนาจวิเศษ
แม้มีข้อโต้แย้งรุนแรงในทฤษฎีว่า สิ่งมีชีวิตมี “วิวัฒนาการ” ความเปลี่ยนแปรบนโลกดำเนินไป ตามธรรมชาติที่มี “กฎ” ควบคุม ด้วยความเชื่อเรื่องพระเจ้าคือผู้สร้างทุกสิ่ง ยังทรงพลังยิ่งในยุคนั้น
เราจึงน่าจะลองสมมติตัวเองว่า เป็นคนอยู่ในยุคดังกล่าว ที่มีความคิดเห็นดังกล่าว ที่เมื่ออ่านหนังสือเล่มนี้ ซึ่งผู้เขียนตั้งใจศึกษา ค้นคว้าแล้ว ค้นคว้าเล่า ด้วยการเดินทางไปทั่วสารทิศ จากเกาะอังกฤษถึงหมู่เกาะกาลาปาโกส ส่วนหนึ่งของประเทศเอกวาดอร์ (เส้นศูนย์สูตร) ในมหาสมุทรแปซิฟิค เพื่อหาข้อมูลสนับสนุนสมมติฐานของตน จนกลายเป็นหนังสือเล่มนี้
แล้วลองถามตัวเองว่า คิด และรู้สึกอย่างไร
นี่คือหนังสือเล่มหนึ่งของมนุษยชาติที่ต้องอ่าน ถูกแปลมากกว่า 40ภาษา มากกว่า 400 สำนวน จนกลายเป็นพากย์ไทยวันนี้โดย นำชัย ชีววิวรรธน์ และคณะ
นี่คือหนังสือวิทยาศาสตร์เล่มเยี่ยม สร้างความสั่นสะเทือนต่อทั้งวงการวิทยาศาสตร์ ศาสนา สังคม และการเมือง สะเทือนไม่แพ้ครั้งเกิดความรู้ว่าโลกกลม และโลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ เนื่องเพราะงานชิ้นนี้แสดงพลังอำนาจในความพยายามเข้าใจธรรมชาติ ชนิดไม่ยอมจำนนต่ออำนาจวิเศษใดๆที่อยู่เหนือตรรกะของเหตุและผล
จึงไม่อ่าน – ไม่น่าจะได้
แถมต้องบอกให้ลูกหลานยุคไวรัสโควิด-19 อ่านต่อด้วย
๐ หนังสือที่ยอดเยี่ยมอีกเล่มซึ่งอยากจะแนะนำ หลังจากอ่านเอาเรื่องไปเล่มหนึ่งแล้ว หากคิดหวังว่า หนังสือภาพจะผ่อนคลายสมองลงบ้าง อาจจะเจ็บหนักขึ้นอีกหน่อย (โอ๊ย) เพราะเป็นงานของ วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล คนหนุ่มซึ่งทำสารคดีตั้งคำถามเรื่องพระพุทธศาสนาได้อย่างชวนคิดและน่าประทับใจ
คราวนี้มากับ เถื่อน 100 หรือ เซเรนิตี้ อิน เคออส (Serenity in Chaos)
จาก เถื่อนเจ็ด ผจญภัยในดินแดนเถื่อนเจ็ดแห่ง และ เถื่อนแปดกับอีกแปดการเดินทางไปสถานที่ที่พ่อแม่ใครก็ไม่อยากให้ไป ซึ่งรอดมาได้ต้องถือว่าเป็นบุญ มาถึงเถื่อนร้อยเล่มนี้ ที่เป็นหนังสือรวบรวมภาพถ่ายและความเรียงสองภาษา จากประสบการณ์การเดินทาง 11 ปี ผ่าน 38 ประเทศทั่วโลก บรรจุเรื่องราว 100 เรื่อง
แบ่งเป็น 4 หมวด มนุษย์ – Human พิภพ – Nature สงคราม – War และอารยธรรม – Civilization
ผู้เขียนจะนำไปสู่ใจกลางป่าดิบลึกลับ ประเทศที่ซ่อนตัวเอง เขตสงคราม ยอดเขาเหนือเมฆ จนถ้ำใต้พิภพ ผ่านภาพถ่ายและตัวหนังสือ ภาพที่ไม่ได้ถ่ายในฐานะช่างภาพ แต่เป็นคนทำสารคดี
ผู้เลือกเฟ้นเรื่องเล่าด้วยจุดประสงค์สองประการ ตอบสนองความใคร่รู้ และเผยแพร่สู่ผู้อื่น
ภาพถ่ายและเรื่องเล่าที่จะกระตุ้นจินตนาการ ตื่นตา น่าตื่นเต้น ทั้งหดหู่ สิ้นหวัง และให้ความคิด
“ การเดินทางเปรียบเหมือนการซึมซับและบันทึกโลกไว้ในตัวเรา “ นี่คือโลกที่เขาประกอบขึ้น
แดนเถื่อนที่น่าตามไปล่มหัวจมท้ายด้วย
๐ อ่านเรื่องจริงที่อึกทึกครึกโครม ด้วยการฉ้อฉลทางวิทยาศาสตร์ ที่แม้แต่ บิล เกทส์ ยังออกปากว่า “ เหลือเชื่อยิ่งกว่าที่คิดไว้เสียอีก อ่านแล้ววางไม่ลง หนังสือเล่มนี้มีครบทุกรสจริงๆ “
ปี 2546 เอลิซาเบท โฮล์มส์ วัย 19 ปี ลาออกจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด มาตั้งบริษัทที่จะเป็นเพชรเม็ดใหม่แห่งวงการเทคโนโลยีชีวภาพ ด้วยอุปกรณ์ล้ำยุคเหมือนห้องทดลองเคลื่อนที่ ตรวจวิเคราะห์เลือดคนไข้ได้ในบ้าน แค่เลือดจิ๋วเดียว
งานนี้รวบรวมทุนได้หลายร้อยล้านเหรียญ ดีงคนสำคัญในวงการมาร่วมได้นับไม่ถ้วน บริษัทเติบโตไม่หยุดยั้งจน 10 ปีต่อมาเธอได้ชื่อว่าเป็น สตีฟ จ๊อบส์ หญิง และการขุดค้นได้เริ่มขึ้น
ความจริงน่าตกตะลึงพรึงเพริดในวงการเทคโนโลยีจึงถูกเปิดเผย
เลือดชั่ว ซึ่งนักเขียนนักแปล สฤณี อาชวานันทกุลอ ทำจาก อแบ้ด บลัด (Bad Blood : Secrets and Lies in a Silicon Valley Startup) ความลับกับเรื่องโกหกของธุรกิจเกิดใหม่ในซิลิคอน วัลเลย์ สารคดีที่เขียนโดยนักหนังสือพิมพ์ จอห์น แครี่รู (John Carreyrou)
พลาดไม่ได้อีกเล่มหนึ่งแล้ว อยากรู้คือทำได้อย่างไร และค้นหาความจริงมาเผยได้แบบไหน
๐ หนังสือช่วยตัวเองและช่วยคนใกล้เคียงได้อีกเล่ม คินสึงิ ความงามของบาดแผลแห่งชีวิต คินสึงิ คือปรัชญาการซ่อมแซมภาชนะที่แตกบิ่นเสียหายของญี่ปุ่น ด้วยรักสีทอง เพราะเชื่อว่าถ้วยชามที่เสียหายไม่ควรทิ้งขว้าง แต่ควรซ่อมแซมด้วยรักทองให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง
เนื่องจากเราทุกคนย่อมมีชีวิตที่หลีกหนีความเจ็บปวดทางใจไม่พ้น ด้วยเรื่องราวอันเกิดจากสาเหตุนานัปการ บาดแผลเหล่านั้นควรได้รับการเยียวยาสมานกลับมาให้ได้ ปรัชญาคินสึงิจึงถูกนำมาใช้เพื่อหวนคืนมามีชีวิตที่สุขขึ้น เข้มแข็งขึ้น และเข้าใจผู้เจ็บปวดอื่นๆ
โธมัส นาวาร์โร จิตแพทย์ชาวสเปนผู้เยียวยาคนไข้ซึ่งเกิดบาดแผลทางใจ มานานหลายสิบปี เขียนหนังสือเล่มนี้ด้วยประสบการณ์จากตัวอย่างจริงมากมาย ที่จะช่วยให้ผู้อ่านรู้สึกดีขึ้นที่ยังมีชีวิต
วุฒิชัย กฤษณะประกรกิจ แปลให้อ่านอย่างราบรื่น เข้าอกเข้าใจ
๐ หนังสือพิศดารอีกเล่ม แก่ช้าลงแน่ แค่ปล่อยให้ท้องหิว เหวอ ไม่น่าเชื่อ ทำได้ไง หมอผู้เขียนคนนี้ โยะชิโนะริ นะงุโมะ อายุ 56 ปี แต่อายุหลอดเลือดแค่ 26 อายุกระดูกแค่ 28 และสมองเยาว์วัยเหมือนคนอายุ 38 เกิดขึ้นได้อย่างไร คำตอบบอกว่าแค่ปล่อยให้ท้องหิว
ท้องร้องจ้อกๆนี่แหละ ยิ่งหิว ยิ่งสุขภาพดี ยิ่งคืนวัยเป็นหนุ่มเป็นสาวได้จริงจัง ทั้งช่วยให้นอนหลับสนิททุกคืน ตื่นอย่างกระปรี้กระเปร่า ผิวพรรณไร้ริ้วรอย หน้าท้องแบนราบ ไม่เป็นสิว ไม่มีกลิ่นตัว โวว ญี่ปุ่นนี่ช่างค้น ช่างศึกษา ช่างทดลอง พิศดารดีแท้
ลองหาอ่านดู โยะซุเกะ แปล
๐ พบเรื่องพิศดารที่ปฏิบัติเพื่อสุขภาพได้แล้ว อ่านนิยายพิศดารบ้าง จากฝีมือนักหนังสือพิมพ์ ที่ปรึกษาทางโทรทัศน์ ชาวสวีเดน ที่เปลี่ยนงานมาเป็นนักเขียน โจนาส โจนาสซอน ด้วยเค้าโครงเรื่องชวนติดตาม ชายร้อยปีผู้ปีนออกทางหน้าต่างแล้วหายตัวไป จากชื่ออังกฤษที่แปลได้ตรงเป๊ะเหมือนกันนี้ ส่วนผู้พากย์ไทยคือมือเก๋า นพดล เวชสวัสดิ์ เจ้าเก่า
เรื่องของชายชราเจ้าของงานวันเกิด 100 ปีที่สถานดูแลคนชราจัดให้ แต่เจ้าของงานกลับปีนหนีออกทางหน้าต่าง ไม่ขอร่วมงาน แล้วหายตัวไป กลับเกิดการเดินทางอันพิลึกกึกกือขึ้น ที่ไปเกี่ยวข้องกับบรรดาอาชญากร กระเป๋าเดินทางที่อัดแน่นด้วยเงินสด กับตำรวจไม่มีน้ำยา ซึ่งเผยอดีตของชายชราอายุ 100 ปีออกมา การมีส่วนสร้างระเบิดปรมาณู เพื่อนอดีตประธานาธิบดีสหรัฐ เคยพบจอมเผด็จการรัสเซียกับผู้นำจีน
โอ้โฮ ท่าจะต้องหาอ่านแล้ว
๐ ท่ามกลางสถานการณ์ที่บีบเค้นของโควิด แต่ต้องผ่อนปรน การเมืองก็รุกเร้า อ่าน มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับฮังกรี้ เกม ตั้งหลักไว้ท่าจะดี อย่าพลาดวรรณะ “จนฑาล” อ่านชำแหละ cptpp ถ้าไม่ “อุ้มทุนหนา ฆ่าทุนน้อย” ต้องเปิดเนื้อหาให้สภาตรวจสอบ, อุบัติใหม่ ส.ว. เปิดศึกปะทะนักศึกษา, ยึด พ.ร.ก. ฉุกเฉินสยบการเมือง น้องยึดทำเนียบ พี่ยึดพรรค พี่รองคุมท้องถิ่น เกมพลังประชารัฐ คุณตู่คุณป้อม มีอะไรในกอไผ่ ฯลฯ
อ่านความสุขอนุทิน คนไข้โควิดลด ยิ่งมีความกดดัน ยิ่งต้องพิสูจน์ตัวเอง ปากเสียเพื่อหยุดแพร่เชื้อเข้าประเทศ, จากคุณหญิงหน่อยถึงพล.อ.ประยุทธ์ ท่านและดิฉันไม่ใช่คนใช้หนี้ก้อนนี้ ช่วยเฉือนเนื้อตัวเองก่อนได้ไหม,
ต่ออายุ พ.ร.ก. 1 เดือน คลายล็อค เดิมพันประเทศไทยชนะโควิด เดินเครื่องเศรษฐกิจ แรงงานกลับเข้าระบบ และภาษาอนุสาวรีย์ของอาจารย์นิธิ
เจ้าประคุณเอ๊ยยย… ขอให้ทุกคนแคล้วคลาดปลอดภัยจากโรคด้วยเทอะะะ… รักษาโรคแล้ว จะได้กลับมารักษาบ้านเมืองให้เห็นสติปัญญากัน.
———————————————-
บรรณาลักษณ์