ตู้หนังสือ : อยากเก่งธุรกิจ ทำไมต้องคิดแบบจีน

ตู้หนังสือ : อยากเก่งธุรกิจ ทำไมต้องคิดแบบจีน

 

อยากเก่งธุรกิจ

ทำไมต้องคิดแบบจีน

Advertisement

ชาวกรุงได้ผู้ว่าราชการคนใหม่เรียบร้อย จากการรับรองของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่ประวิงเวลาไม่ประกาศอยู่หลายวันจนชาวบ้านเริ่มหงุดหงิด ว่า กกต.เป็น…อะไร ถึงไม่ประกาศรับรองสักที กับเพียงข้อร้องเรียนเหลวไหลที่ชาวบ้านไม่เห็นสาระ จนในที่สุด การเลือกตั้งครั้งสำคัญหลังรัฐประหารก็เกิดผลรูปธรรม

ในการนี้ นอกจากได้รองผู้ว่าราชการ 4 นาม ซึ่งแต่ละคนมีคุณสมบัติน่าทึ่งขนาดเมื่อรู้ว่าไผเป็นไผแล้ว ต้องคิดทันทีว่า หากเมืองหลวงไม่เปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นอีกคราวนี้ ก็คงไม่รู้ว่าจะไปเปลี่ยนคราวไหนแล้ว ยังมีนายทหารนักเขียน พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม มาเป็นที่ปรึกษาผู้ว่าฯอย่างเป็นทางการอีกด้วย นายทหารนักเขียนผู้นี้ให้ความรู้นักอ่านเครือมติชนมากมาย

“ภาพเก่าเล่าตำนาน” ที่อ่านสนุกได้ความรู้เพียบ เมื่อกรกฎาคม 2564 ระหว่างที่โรคระบาดยังคร่าชีวิตผู้คนต่อเนื่อง ก็เขียนเรื่องใครคิดใครเริ่มเข็มฉีดยาให้อ่าน พอไม่กี่วันก่อน 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก็เขียนเรื่องรองเท้า 1,060 คู่ของมาดาม ให้เห็นพิษฉ้อราษฎร์บังหลวง ที่กินเนสส์ บุ๊กถึงกับบันทึกไว้ว่า เป็น “การปล้นประเทศครั้งใหญ่ที่สุดของรัฐบาล” ของครอบครัวมาร์กอสแห่งฟิลิปปินส์

Advertisement

เป็นการคอร์รัปชั่นคดโกงบ้านเมืองและประชาชน ที่ทำให้หวนนึกถึงคำของ เดช บุลสุข แมคไทยผู้ล่วงลับเมื่อกุมภาพันธ์ 2561 ว่า คอร์รัปชั่นร้ายแรงกว่าการที่ฮิตเลอร์ล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวเสียอีก จนสถานทูตยิวในกรุงเทพฯต้องออกมาคัดค้าน แต่ถึงอย่างนั้น ความเลวร้ายของการคอร์รัปชั่นที่ผู้กล่าวอธิบายคำของตัวเองให้เห็นภาพชัดเจนนี้ ก็เป็นความจริงสาหัสของการทำลายบ้านเมือง

หวังว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.คราวนี้ จะสร้างแรงกระเพื่อมขยายไปไกล

● ทุกวันนี้ สาธารณรัฐประชาชนจีนกำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว โดยผนวกธุรกิจเข้ากับนวัตกรรม ไอที จนก้าวขึ้นเป็นประเทศมหาอำนาจของโลก สร้างบทบาทสำคัญขยายไปทั่วโลกโดยเฉพาะมหาอำนาจด้วยกันต้องติดตามมอง เหินห่าว business อยากเก่งธุรกิจต้องคิดอย่างจีน ของ วรมน ดำรงศิลป์สกุล จึงล้วงลับเข้าสมองผู้ประกอบการฉายความคิดมาให้เห็น

เพื่อผู้อ่านจะได้เข้าใจว่า คิดแบบจีนนั้น พิเศษกว่าตรงไหน สามารถนำมาใช้ประยุกต์กับธุรกิจที่ทำอยู่ได้อย่างไร โดยผู้เขียนเองได้รวบรวมความรู้และประสบการณ์ที่เข้าไปทดลอง กับธุรกิจที่ผนวกตัวเองเข้ากับเทคโนโลยีของจีนที่ทำให้กลายเป็นสังคมไร้เงินสดไปแล้วได้ ตั้งแต่การกินที่ใช้มือถือ “สแกน” ผ่าน “คิวอาร์ โค้ด” ทั้งสิ้น จนลดต้นทุนการจ้างพนักงานลงได้โดยผู้บริโภคเอง

หรือการใช้หุ่นยนต์ “ลู่ปัง” ชื่อช่างนักประดิษฐ์ของจีนโบราณ (เจ้าของสำนวน “ควงขวานต่อหน้าลู่ปัง” หรืออวดเก่งต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญนั่นเอง) อันเป็นกองทัพหุ่นยนต์นักออกแบบซึ่งทำหน้าที่ออกแบบป้ายโฆษณาแทนมนุษย์ได้อย่างพิสดาร ล้วนเป็นแบบธุรกิจในโลกดิจิทัลปัจจุบันของเมด อิน ไชน่าทั้งสิ้น นอกจากนี้ ผู้เขียนยังมีความรู้ดีๆ สำหรับผู้ต้องการร่วมลงทุนกับคนจีนไว้อีกด้วย

● คติผัวเดียวเมียเดียวของไทย เป็นมรดกอาณานิคมด้วยหรือ “ถ้าให้มีเมียคนเดียว ประเทศของเรายังไม่พร้อม จักทำให้คนเดือดร้อน” เป็นคำของผู้ใด ที่คนเดี๋ยวนี้ฟังแล้วคิดเห็นอย่างใดขึ้นมา ต้องหาคำตอบจากหนังสือ ผัวเดียวเมียเดียว อาณานิคมครอบครัวในสยาม ค้นคว้ามาโดย สุรเชษ์ฐ สุขลาภกิจ ให้เห็นภูมิปัญญาการเมืองเรื่องเพศสภาพของชนชั้นนำสยาม

เนื่องจากคติผัวเดียวเมียเดียวนี้เป็นความคิดตะวันตก ที่ถูกนำมายกเป็นวัฒนธรรมแห่งชาติในทศวรรษที่ 2480 ซึ่งน่าสนใจว่าทรรศนะศิวิไลซ์นี้นำเข้ามาอย่างไร ทำให้ชนชั้นนำเห็นว่า “ของนอก” นี้จะสร้างปัญหานานาประการขึ้นอย่างไร เพื่อรักษาสภาพผัวเดียวหลายเมีย จนเกิดเสียงวิจารณ์ในสังคมขึ้นอึงคะนึง ก่อนความคิดนี้จะถูกยอมรับมากระทั่งปัจจุบัน อ่านรายละเอียดต่างๆ ได้ครบครัน

● หากผู้ใดจำได้ว่าเคยอ่านหนังสือสำคัญพากย์ไทยเล่มหนึ่ง อะไรทำให้คุณไม่ใช่พุทธ ก็จะมีอีกเล่มที่ให้ความคิดดีๆ ต่อเนื่องกันจากผู้เขียนคนเดิมคือ ซองซาร์ จัมยัง เคียนเซ ชาวภูฏานวัย 60 ต้นๆ เจ้าอาวาสวัดซองซา และมหาวิทยาลัยซองซาอันเลื่องชื่อ ผู้รับผิดชอบการศึกษาของภิกษุสงฆ์จำนวน 1,600 รูป ในอารามหกแห่งในภูฏานและทั่วเอเชีย รวมถึงองค์กรไม่แสวงผลกำไรอีก

หนังสือเล่มนี้คือ ยาพิษคือโอสถ : ไขข้อกังขาเกี่ยวกับวัชรยาน แปลให้อ่านราบรื่นโดย นัยนา นาควัชระ เพื่อตอบข้อข้องใจและขจัดความเข้าใจผิด หรือความคิดคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับวัชรยาน ที่เนื่องมาจากข่าวอื้อฉาวในทศวรรษ 2553 เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างคุรุสายวัชรยานกับศิษย์ เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกถ้วน ไม่ใช่หนังสือสำหรับผู้ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับธรรม หรือไม่รู้จักวัชรยานเลย

คนชอบศึกษาเรียนรู้ โดยเฉพาะเรื่องพระศาสนา จะได้รู้เพิ่มมากขึ้นอีก

● สำหรับผู้ศึกษาแนวคิดปรัชญาของ จวงจื่อ ต้องถือว่าอาจารย์ ศริญญา อรุณขจรศักดิ์ แห่งภาควิชาปรัชญา อักษร จุฬาฯ เป็นผู้รู้เรียนมายาวนานต่อเนื่องนานนับทศวรรษ และได้เกิดหนังสือน่าอ่านสำหรับคนช่างคิดเล่มนี้ขึ้น มัจฉา ปักษี ผีเสื้อ : อุปลักษณ์สัตว์และการผดุงชีวิตในปรัชญาของจวงจื่อ เพื่อเข้าใจประเด็น มนุษย์ สัตว์ และธรรมชาติ ในคัมภีร์จวงจื่อประจักษ์เสน่ห์ชัดเจนยิ่งขึ้น

การพิมพ์ครั้งนี้ ผู้เขียนให้บทนำเกี่ยวกับตัวคัมภีร์ และความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับตัวบท เกี่ยวกับปรัชญาของนักคิดนามนี้สำหรับผู้ไม่คุ้นเคย ทั้งยังทำ “อภิธานคำศัพท์” ไว้ท้ายเล่ม เพื่ออธิบายความหมาย กับความเข้าใจเบื้องต้นถึงคำสำคัญต่างๆ ทางปรัชญาจีน และคำทางวิชาการในสาขาปรัชญา รวมทั้งมุมมองเรื่องการผดุงชีวิตที่มิใช่เพียงการรักษาโรค หรือการดูแลสุขภาพร่างกายเท่านั้น

● ผู้คนคงอึดอัดขัดใจหากมีใครบอกว่า อุปสรรคไม่เคยมีอยู่จริง หรืออาจสงสัยว่า จะมาแนวไหน จะลดเลี้ยวหลีกเลี่ยงการพูดถึงรูปธรรมอุปสรรคไปทางใด เมื่อชื่อหนังสือดังกล่าวนั้น เป็นงานของ เปรม ราวัต นักคิด นักพูด และนักเขียนชาวอินเดีย ผู้สร้างแรงบันดาลใจซึ่งใช้เวลา 40 ปี เดินทางทั่วโลก เพื่อสร้างสันติและความสงบสุขแก่คน 250 เมือง ได้คิดในแง่มุมที่แตกต่างเพื่อบำรุงใจ

สิ่งที่เขาได้พูดเหล่านั้น ผ่านการแปลไปแล้วถึง 75 ภาษา เป็นเรื่องเล่าแบบนิทานที่เรียบง่าย ให้แง่คิดมากมาย ไม่ต่างจากนิทานอีสป เพียงนิทานของเปรมมีกลวิธีถ่ายทอดความคิด ทรรศนะ มุมมองต่อโลก และการใช้ชีวิตในแบบที่ควรเป็น ซึ่งตีความได้หลากหลายอันขึ้นกับภูมิหลังและวิธีคิดของแต่ละคน ดังนั้น 42 เรื่องเล่าในหนังสือเล่มนี้จึงมีความหมายยิ่ง สลักจิต นพคุณ แปลให้อ่านซาบซึ้ง

● ส่วนมากหรือตลอดเวลามา เรามักได้ยินคำว่านั่งสมาธิ จึงทำให้คิดว่าวิธีดีที่สุดในการทำสมาธิคือนั่งทำ แต่หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้เรามีวิธีที่กว้างขึ้น ด้วยมุมมองที่ไกลขึ้น โดยเฉพาะมนุษย์เรามักหกล้มหกลุกจากการเดินอยู่ตลอดเวลา การเดินจึงเป็นเรื่องสำคัญ ยิ่งอายุมากหากเดินไม่ถูกต้อง ล้มลงครั้งเดียวอาจลุกไม่ได้อีก ดังนั้น เดินสมาธิ เล่มนี้ของ โชลโต้ แรดฟอร์ด จึงน่าเรียนรู้ยิ่ง

หนังสือเล่มนี้พูดถึงแต่ต้นว่า ทำไมเราต้องเดิน, การเคลื่อนไหวและสุขภาพ, มีวิธีเดินที่ถูกต้องหรือไม่, การเดินด้วยสติ, เดินสมาธิ, ทัศนคติที่จะช่วยเราให้เจริญสติ, การเจริญสติและศิลปะการอยู่กับปัจจุบัน ล้วนพยุงให้เราได้ดำเนินชีวิตประจำวันมั่นคงขึ้น ฝึกการตระหนักรู้ เปิดใจรับประสาทสัมผัสต่างๆ ใคร่ครวญความเชื่อมโยงระหว่างเรากับโลกรอบตัว มีสมาธิ และสติเป็นสำคัญ ญาณพล มุสิเกตุ แปลให้อ่าน เพื่อเข้าใจความหมายที่แท้ของผู้เขียน

● หนังสืออีกเล่มที่มุ่งไปยังสติว่าสำคัญเพียงใดกับการดำรงชีวิต แต่คราวนี้ลดวัยของเป้าประสงค์ลงไปอีก ที่บรรดาวัยรุ่น อันเป็นวัยที่หลายคนคิดว่าเป็นวัยของปัญหา และที่มาของความเดือดร้อนนานาของพ่อแม่ ซึ่งไม่จริงและไม่เสมอไปเช่นนั้น เพราะแต่ละวัยก็มีปัญหาที่แตกต่างกันไป มิใช่ปัญหาที่ผู้ใหญ่กำหนดให้เด็กแต่ฝ่ายเดียว ดังนั้น อ่านหนังสือเล่มนี้ดู จัดการวิตกกังวลวัยรุ่น

หนังสือของ เรจีน กาลันตี นำวิธีบำบัดความคิดและพฤติกรรมกับการฝึกสติ มาออกแบบ
แบบฝึกหัดและเทคนิคต่างๆ เพื่อรับมือกับความเครียด กังวล ย้ำคิดย้ำทำ จนอาจจะกลัว และกลายเป็นโรคซึมเศร้าในที่สุดสำหรับวัยรุ่น ที่กลัวว่าจะเก่งไม่เท่าเพื่อน, กังวลเมื่ออยู่กับคนไม่สนิท, ไม่สบายใจเมื่อต้องทำอะไรตามลำพัง, พอเครียดก็หายใจไม่ออก วิงเวียน ตัวสั่น ฯลฯ เพื่อจะได้คิดแก้ปัญหา พลอยแสง เอกญาติ แปลให้เป็นประโยชน์กับวัยที่ต้องการความเข้าใจ

● นิตยสารการเมืองประจำบ้านฉบับครอบครัว มติชนสุดสัปดาห์ ปก พล.อ.ประวิตร ตัวละครการเมืองสำคัญขณะนี้ อ่านการเมืองเรื่องกล้วยกล้วยของใคร ชาวบ้านจะกล้วยด้วยหรือไม่ ตามไปดูนักการเมืองรุ่นใหม่ พริษฐ์ วัชรสินธุ กับบทบาทในก้าวไกล และติดตามกิจกรรมประจำวันตามหน้าที่ของผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ กับพลานุภาพที่กำจายออกมากขึ้นเรื่อยๆ และอ่านปัญหาพุทธไทยของอาจารย์ นิธิ เอียวศรีวงศ์

ฝีดาษลิงว่าร้าย จะร้ายเท่าฝีดาษคนในวงการเมืองไหม ถามคนไทยได้

บรรณาลักษณ์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image