คำต่อคำ ‘บทกวีคือการทรยศ’ ที่ผู้คนย้อนแชร์หลังการจากไปของ ‘วาด รวี’

นับเป็นความสูญเสียอีกครั้งของวงการวรรณกรรม สำหรับการเสียชีวิตของ รวี สิริอิสสระนันท์ หรือ วาด รวี นักเขียนชื่อดังที่มีจุดยืนชัดเจนในฟากฝั่งประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา (อ่านข่าว สวดอภิธรรมนักเขียนดัง ‘วาด รวี’ คืนแรก วงวรรณกรรม-นักเคลื่อนไหวยกย่องจุดยืนชัด ไม่แปรเปลี่ยน)

บทกวีคือการทรยศ ที่ วาด รวี อ่านในเทศกาลบทกวีที่น่าน ครั้งที่ 1 ในจังหวัดน่าน เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2561 ซึ่งเจ้าตัวยืนอ่านอย่างทรงพลัง ถูกนำมากล่าวถึงในแวดวงนักคิด นักเขียน นักวิชาการ นักเคลื่อนไหว ฯลฯ

ต่อไปนี้ คือ ถ้อยคำจากปาก วาด รวี

‘บทกวี คือการทรยศ’

Advertisement

… แต่ผมจะบอกว่าบทกวี คือการทรยศ

คนบอกว่าบทกวี คือบุคลิกภาพ
คือการสร้างสรรค์จังหวะของความงาม
คือสิ่งที่เกิดจากจักรวาลภายในของมนุษย์
คือความรู้สึกราวกับยอดหัวถูกตัดออก
แต่ผมจะบอกว่า
นั่นแหละ คือการทรยศ

คนบอกว่าบทกวี คือคณิตศาสตร์
คณิตศาสตร์ คือบทกวีของตรรกะ
ความรัก คือบทกวีของพันธะ
บทกวีคือการเต้นรำ ของแขนขา
คือภาพวาด ที่เงียบงัน
คือศรัทธา ศาสนา
คือดอกไม้ หอม หอม หอม
คือไวน์หวานชโลมลิ้น กำซาบคอ
คือบทเพลง
คือการตั้งชื่อเด็กทารก
คือปุยฝ้ายบางเบา
คือโครงร่างสถาปัตยกรรม ของชีวิต
แต่ผมจะบอกว่า
มันคือ ‘การทรยศ’

Advertisement

คนบอกว่าบทกวีคือการเปิดประตู
คือการนำพาผู้คนออกจากวิถีจำกัด ของการเห็น และรู้สึก
คือสิ่งที่เปิดผนึกความเร้นลึก
คืออะไรที่เชื่อมต่อกับอารมณ์ของมนุษย์

คนบอกว่า บทกวีคือสัจจะที่เผาไหม้จากหัวใจ
คือคำโกหกที่พูดความจริง
คือมิตรภาพที่แท้

คนบอกว่าบทกวีคือเสียงก้องสะท้อน
คือการโค้งคำนับเงา เพื่อขอเต้นรำ
คือการหลีกหนีจากอารมณ์ และบุคลิกภาพ
บทกวี คือการออกแบบ
บทกวี คือทุกอย่างของการกระทำที่อยู่ตรงข้ามกับอำนาจ
บทกวี คือเหนือเส้นขอบฟ้า ขั้วโลกมีแนวสีหลายสีดูประหลาด
แต่ผมจะบอกว่า
บทกวี คือ ‘การทรยศ’

คนเปรียบสิ่งมากมายกับบทกวี เพื่อจะบอกว่าพวกเขาดื่มด่ำกับสิ่งนั้น
บทกวีเป็นเหมือนเงา ที่ขยับในความนึกคิดของผู้คน
คนคิดถึงบทกวีในความหมายของสิ่งที่เขาไม่เคยสัมผัส
บทกวีกลายเป็นสมบัติของคนที่ไม่ได้เป็นของมัน
เป็นมงกุฎที่ลองลอย ร่อนลม สวมใส่อะไรก็ได้
เพื่อที่จะทำให้สิ่งนั้น เป็นราชา

บทกวี คือด้านที่บอกไม่ถูกของสิ่งที่รู้จักเป็นอย่างดี
บทกวี คือการเรียงตัวของความไร้ระเบียบ
คืออารมณ์ของตรรกะ
พอๆ กับที่เป็นตรรกะ ของอารมณ์

บทกวี คือความดิบเถื่อน
คือความจริงที่จริงกว่าประวัติศาสตร์
คือสัจจะที่ไม่ต้องการเครื่องแบบ
คือปัญญาที่ใส่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้น
คือกระดูก ของความคิด
คือเส้นประสาทและโลหิตของความรู้สึก
คือรอยเขียนบนผนังกำแพงในหัวใจของทุกคน

บทกวี คือความทรงจำ
คือหลักฐานของชีวิต
คือสิ่งที่ทำให้ร่างกายอุ่นร้อน และพัดผ่าน
คือเถ้าถ่านหลังการมอดไหม้
คือประจักษ์พยานของการดำรงอยู่

คือการทำให้รู้ ว่าตัวเองอยู่ในโลกที่ไม่มีใครรู้จัก
คือการแบ่งปันโดยลำพัง
คือการทำให้โลกส่วนตัวปรากฏอยู่กลางแจ้ง
คือสิ่งที่โลกไม่รับรู้และรับรองการมีอยู่
คือการสำรวจความฉงนสนเท่ห์ ของมนุษย์

บทกวี คือความรัก
คือภาวะอันเล่นหลง ระเริงรื่น
คือการทะเลาะกับตัวเอง
และคือความเข้าใจตัวเองในส่วนลึก
คืออัตชีวประวัติที่สัตย์ซื่อ

บทกวี คือภาพเงาสะท้อน
คือมายาเสมือนว่าได้ล่วงผ่านภาพลวงตาที่ทำให้คนรู้สึกว่ามีประสบการณ์ ทั้งที่ไม่มี
บทกวี คือการฟังก้อนหิน ฟังเมฆ ฟังน้ำ ฟังคนอื่นๆ
บทกวี คือการได้ยินจิตวิญญาณของตัวเอง และทุกคน
บทกวี คือการฟังเสียงของโลก
บทกวี คือสันติ
คือสัตว์ทะเลที่อยากจะท่องไปในบกและบินไปในอากาศ
บทกวีแรกของมนุษย์ คือคนที่ออกจากถ้ำ แหงนหน้ามองฟ้า แล้วร้อง อ้า!

บทกวี คือการเปิดเผยจุดซ่อนเร้น
คือการลูบไล้ปม ประเด็น
คือชื่อของสิ่งที่ไร้ชื่อ
คือการชี้จุดอ่อน เลือกข้าง
เปิดข้อโต้แย้ง จัดรูป และยุติการหลับใหล
บทกวี คือน้ำแข็งที่ร้อนลุ่ม
คือการควบขี่ไปบนการหลอม ละลาย
บทกวีเป็นหลายสิ่ง

แต่วันนี้ผมจะพูดว่า
บทกวี คือ ‘การทรยศ’

ผมไม่ได้บอกว่า บทกวีคือความไม่ซื่อสัตย์
แต่ผมกำลังบอกว่า ‘มันคือการทรยศ’
ผมไม่ได้พูดว่าไม่ซื่อสัตย์
ผมกำลังพูดว่า บทกวี ‘คือการทรยศ’ (กระซิบ)

ผมไม่ได้บอกว่า บทกวีคือการบิดพริ้ว
หักหลัง บิดเบือน ผิดสัญญา หรือว่าป้ายสี
แต่ผมกำลังบอกว่า ‘มันคือการทรยศ’
ฟังให้ดีนะ ผมกำลังพูดว่า
‘บทกวี คือการทรยศ’ (กระซิบ)

คือตอนเด็กๆ เคยฟังไหม ?

‘นั่งรถไฟไปหัวหิน
จับเจ้าหญิง มาทรมาน
จับเจ้าชาย มาทรยศ
จับแม่มด มาดึงสะดือ
จับกิ้งกือ มาทำก๋วยเตี๋ยว
จับแมวเหมียว มาเต้นระบำ
จับแมวดำ มาเป่ายิงฉุบ’

ตอนเด็กผมมักเคยสงสัยนะว่า ทำไมต้องจับเจ้าชายมาทรยศด้วย
จนวันนี้ก็ยังไม่รู้ว่าทำไม แต่วันนี้อาจจะสงสัยกันนะว่า ทำไม ‘บทกวีถึง ทรยศ’ ?

เพราะมนุษย์ ไม่ใช่สัตว์เลี้ยง
และคนไม่ได้เกิดมาเพื่อภักดีกับเจ้าของ
คนไม่จำเป็นต้องรับใช้คน
คนไม่ต้องการมีเจ้าของ
คนไม่จำเป็นต้อง ‘เชื่อง’

ความเชื่อง คือการยอมจำนนต่อความเป็นนาย
คือการทำลาย
คือการทำตามคำสั่งโดยปราศจากข้อโต้แย้ง
ไม่มีเจตจำนงของตนเอง

ความเชื่อง คือการยกชีวิตไปให้กับความพอใจของนาย
ความเชื่อง คือการว่านอนสอนง่าย
คือการไม่ต้องมีความคิด
ความเชื่อง คือไม่ต้องตัดสินใจ
ความเชื่องไม่ต้องการศีลธรรม

เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับความพอใจของนาย – สัตว์เลี้ยง
ความเชื่องคือกดตัวเองลง หมอบราบและกระดิกหาง
รอรับการลงโทษหรือให้รางวัล
มันคือการเป็น ‘สัตว์เลี้ยง’

เพราะสัตว์เลี้ยงไม่สามารถอยู่โดยไม่มีนาย
สัตว์เลี้ยงไม่ต้องการแรงจูงใจในชีวิต
ความเชื่อง ไม่ใช่ความผูกพัน แต่คือการผูกมัด
คือการไร้อิสระ ไร้วุฒิภาวะ ไร้คุณธรรม ไร้ความรับผิดชอบ
นอกจากหน้าที่ และผู้เป็นนาย
ความเชื่อง ไม่รู้จักเสียงหัวเราะ ไม่รู้จักความเศร้า
ความเชื่อง ไม่รู้จักความรัก
สัตว์เลี้ยงรู้จักแต่ความภักดี
ผมกำลังจะบอกว่า
‘บทกวี คือการทรยศ’ (กระซิบ)

……..
เพราะคนไม่ใช่สัตว์เลี้ยง
คนไม่ได้เกิดมาเพื่อรับใช้ใคร
คนจะต้องรู้จักเรียนรู้ชีวิตด้วยตัวเอง
ไม่ต้องเอาชีวิตไปถวายคนอื่น
คนไม่ต้องจงรักภักดี
เพราะคนต้องไม่ถูกล่าม
คนต้องรู้จักศีลธรรม
และศีลธรรมไม่มีอยู่ในหมู่ที่ทาส
ที่รู้จักเพียงรางวัล หรือบทลงโทษจากเจ้านาย
คนจะต้องรับผิดชอบการกระทำของตนเอง
ไม่ใช่เพียงกระทำตามคำสั่งของคนอื่น

คนจะต้องไม่ถูกล่ามไว้กับคน
คนไม่ใช่สิ่งที่ต้องมีเจ้าของ
คนจะต้องไม่ถูกตีตรา
คนไม่ใช่วัตถุไว้ครอบครอง
กำหนด และนาบเหล็ก ตีตรวน กล้อนผม สักเลก
นับจำนวน เกณฑ์แรง ไล่ต้อน เฆี่ยนตี
กราบกราน คลานสี่ขา ตาเหลือก
คนไม่ใช่สัตว์เลี้ยง
ผมกำลังบอกว่า ‘บทกวีต้องทรยศ’

………

เพราะการทรยศ คือการทำตามแรงปรารถนา
คือการเผาไหม้ ตอกตรวน ตีออก ลอกลบรอยตาปี
คือเชื้อเพลิงชีวิตขับจิตวิญญาณให้เคลื่อนไหว ความคิดบังเกิดมี
คือการระเบิดจากจักรวาลภายใน รู้สึกรู้สา
เสายอดหัว ถูกตัด ยอดใจ ถูกขยี้

การทรยศ คือคณิตศาสตร์
มันคือสมการแห่งความเท่า
คือการปลดปล่อยตัวเอง
จากการแบ่งชั้นและแผ่นดินที่ต้องเช่า

คือความเงียบงัน
คือดอกไม้ป่าดิบเถื่อน
กองไฟมอดไหม้จนเป็นเถ้า
คือเหล้าถอนเหล้า ถอนความเมา
คือประตูสู่อิสระ
คือการออกไปจากข้อจำกัดที่ลวงตา
คือการพูดความจริง ด้วยคำโกหก
คือการรื้อสร้างบุคลิกภาพ
คือการพยศต่ออำนาจ
คือความจริงที่จริงกว่าประวัติศาสตร์

…….

…….

เพราะบทกวีต้องทวงคืนความเป็นมนุษย์
สุดแสนเลี้ยวลด เหลือกำหนด
และมนุษย์ไม่อาจกำหนด
เพราะมนุษย์มีบทกวี
และบทกวีคือการ
‘ทรยศ’

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image