เปิด’เบื้องหลังปฏิบัติการลับ ในสมรภูมิรบ’ บันทึกจากทหารสายลับ ในสงครามมหาเอเชียบูรพา

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่โรงแรมจักรพงษ์วิลล่า ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท สำนักพิมพ์ ริเวอร์บุ๊คส์ จำกัด และมูลนิธิพลตรี จักรชัย ศุภางคเสน เปิดตัวหนังสือ “ปฏิบัติการลับ ในสมรภูมิรบ” โดย ดร.ทิพภานิดา ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา ซึ่งเป็นบันทึกประวัติศาสตร์การทหาร การเมืองไทยที่เพิ่งค้นพบและไม่เคยถูกเปิดเผย ของ พลตรีจักรชัย ศุภางคเสน

ท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล ประธานในพิธี กล่าวว่า เมื่อได้อ่านหนังสือปฏิบัติการลับ ในสมรถภูมิรบ ก็รู้สึกประทับใจในเนื้อหาที่ถูกบันทึกไว้ ขอชื่นชมความกตัญญูที่ ดร.ทิพภานิดา ปาลกะวงศ์ ณ อยุทธยา มีต่อคุณพ่อ หนังสือเล่มนี้เปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์การเมืองและการทหารของไทย นับจากอดีตตั้งแต่ก่อนการเปลี่นแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 จนถึงปัจจุบัน ทั้งสองสถาบันไม่ได้แยกขาดจากกัน เป็นเรื่องราวในอดีตที่เกี่ยวกับการเสียสละอย่างกล้าหาญของทหาร หรือของชาวบ้านที่รวมกลุ่มกันคว้ามี หอก ดาบ และอาวุธ เอาเลือดเนื้อและชีวิตเข้าแลก เพื่อปกป้องเอกราชและอธิปไตยในยามที่ต่างชาติรุกราน ย่ำยี ควรค่าแก่การศึกษา มีมากมายหลายเหตุการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุการณ์สงครามเอเชียมหาบูรพา ประเทศไทยได้เข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 จึงเป็นหน้าประวัติศาสตร์ที่คนไทยควรจะได้รับรูู้ว่าไม่ได้มาด้วยความบังเอิญ และจากเหตุการณ์นั้นมีบุคคลที่น่ายกย่องสดุดีอีกจำนวนมากมาย ซึ่งมิอาจจะกล่าวนามและเชิดชูได้ครบถ้วน หนึ่งในนั้นคือ พลตรีจักรชัย ศุภางคเสน คุณพ่อของผู้เขียนหนังสือฉบับนี้

“ตัวหนังสือทุกตัวอักษรทุกบรรทัดและเรื่องราวในแต่ละบท จะประกอบด้วยภาพที่หาชมได้ยากสมควรที่จะถูกเผยแพร่ให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้ให้ประจักษ์ชัด หนังสือเล่มนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่งดงามให้แก่ประเทศไทย และเป็นส่วนสำคัญในการสร้างแรงบันดาลใจให้้กับคนไทยทุกคน” ท่านผู้หญิงวิระยากล่าว

ดร.ทิพภาณิดา ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา กล่าวถึงประวัติความเป็นมาของหนังสือว่า หนังสือเล่มนี้แตกต่างจากหนัังสือประวัติศาสตร์ทั่วไป เพราะเป็นการเปิดเผยถึงบันทึกประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของไทยโดยผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์จริง ที่น้อยนักจะได้พบในวงการทหาร เป็นเรื่องราวความจริงของทหารหาญกลุ่มหนึ่งที่ทำงานเบื้องหลังปฏิบัติการลับต่างๆ ที่ประวัติศาสตร์มักรู้จักพระเอกและผู้ร้ายไม่กี่คน ทั้งที่ความจริงถูกผลักดันจากน้ำมือของคนจำนวนมาก มีคนมากมายที่เสียสละชีวิตและทุ่มเทแรงกายแรงใจทำงานปิดทองหลังพระ ท่านไม่เคยปริปากประกาศคุณงามความดีของตน แต่กลับเขียนบันทึกความทรงจำและเก็บรักษาไว้โดยที่ลูกและภรรยาไม่เคยรู้

Advertisement

“ความสำเร็จของบ้านเมืองขาดคนทำงานเบื้องหลังไม่ได้ เราไม่เคยได้รับรู้เรื่องราวความคิด ความรู้สึกของคนที่ยอมเอาชีวิตเข้าแลก ที่รักชาติด้วยการกระทำ หนังสือเล่มนี้จึงเกิดขึ้นเพื่อเอาความคิดของคนที่รักชาติคนหนึ่ง และคนที่รู้รสชาติของสงครามและความขัดแย้งจริงออกสู่สาธารณะ หนึ่งในบรรดาทหารกล้ากลุ่มนั้น คือ พลตรีจักรชัย ศุภางคเสน คุณพ่อของดิฉัน”

ดร.ทิพภาณิดากล่าวว่า ยามประเทศเผชิญภัยสงครามอันโหดเหี้ยมและน่าสะพรึงกลัว มีคนไทยทหารไทยผู้กล้าหาญ ทำให้ประเทศขอเรารอดพ้นมือแห่งความเลวร้ายมาได้จนวันนี้ ประวัติศาสตร์การเมืองการทหารไทยที่เพิ่งค้นพบ และปรากฏในหนังสือเล่มนี้ เป็นช่วงที่ไทยต้องเผชิญศึกสงครามมหาเอเชียบูรพา คุณพ่อได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติการลับ โดยไม่มีกองกำลังสนับสนุน ยอมเอาชีวิตเข้าแลก ยอมตกอยู่ในน้ำมือของทหารญี่ปุ่นเพื่อเข้าไปล้วงความลับ ชี้เป้าจุดดยุทธศาสตร์เส้นทางรถไฟสายมรณะ หวุดหวิดจะถูกจับได้ แต่รอดกลับมารายงานข้อมูลให้กองทัพฝ่ายสัมพันธมิตร ทิ้งระเบิดทำลายจนย่อยยับ อีกเหตุการณ์หนึ่ง เมื่อท่านได้รับมอบหมายให้พาพลจัตวาเฮตเตอร์ นายทหารชั้นผู้ใหญ่ฝ่ายสัมพันธมิตร หนีออกจากประเทศไทยผ่านด่านของญี่ปุ่นที่เข้มงวด ความเป็นความตายห่างแค่กระพริบตา ในที่สุดท่านสามารถนำทหารฝ่ายสัมพันธมิตรไปขึ้นเครื่องบินหลบหนีจากประเทศไทยได้อย่างหวุดหวิด ปฏิบัติการลับทุกครั้ง หากถูกจับได้ก็อาจจบลงอย่างไม่ธรรมดา เพราะต้องถูกนำไปทรมานเพื่อรีดข้อมูลจนตาย
“หากประเทศไทยแพ้สงครามมหาเอเชียบูรพา ประเทศไทยจะเป็นอย่างไร และคนไทยทั้งชาติจะทุกข์ทรมาณขนาดไหน คนในยุคสมัยขอเราแทบจะจินตนาการความโหดร้ายของสงครามไม่ออก ภัยอันตรายของทหารทุกสมรภูมิจนถึงสงครามเย็นที่ต่อสู้กับความคิดความเชื่อที่แตกต่าง พวกเขาเหล่านั้นทำให้้ประเทศของเรารอดพ้น”

ดร.ทิพภาณิดากล่าวว่า การต่อสู้ของคุณพ่อไม่ใช่การต่อสู้ทางกระดาษหรือโวหาร แต่คือการเสี่ยงตายต่อสู้ในสนามรบ โดยมีชีวิตเป็นเดิมพัน พลตรีีจักรชัยได้บันทึกไว้ว่า ความสามัคคีเป็นสิ่งประเสริฐสุดที่ทุกคนในชาติต้องกระทำ แม้ด้วยความจำใจ ความคิดนี้มาจากหัวใจของคนที่ผ่านปะสบการณ์การต่อสู้
“คุณพ่อได้เห็นความเป็นไปของบ้านเมือง และเข้าร่วมปฏิบัติการทั้งทางตรงและทางอ้อมตลอด 40 กว่าปีของการเป็นทหาร เป็นครั้งแรกที่เรามองความสามัคคีจากแง่มุมนี้ ความสามัคคีี่เรารู้จักเสมอมาคือความสามัคคีแบบพอใจ หรือสมัครใจ เราจึงสมัครใจที่จะสามัคคีกับคนที่เราพอใจ เมื่อมีความขัดแย้ง ความสามัคคีจึงดูเป็นเรื่่องเพ้อฝัน เพราะไม่มีใครบังคับใครให้รักใครได้ ใครจะจับมือใครให้ยอมแพ้หรือเสียเปรียบ จำใจในที่นี้ไม่ได้มาจากการบังคับ แต่มาจากสำนึกส่วนตนที่มีความรักชาติและความรักส่วนรวมนำทาง เรื่องราวดีๆของคนธรรมดายังน้อยไป เรายังต้องการตัวอย่างและการกระทำอีกมาก หวังว่าปฏิบัติการเสี่ยงชีวิตของเหล่าทหารหาญที่กระทำด้วยความกล้าหาญในหนังสือเล่มนี้จะเป็นตัวอย่างในสังคม สร้างแรงบันดาลใจกระตุ้นจิตสำนึกรับผิดชอบให้คนไทยในยุคนี้ได้ดำเนินรอยตาม” ดร.ทิพภาณิดากล่าว

ด้าน นายไพศาลย์ เปี่ยมเมตตาวัฒน์ ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด สำนักพิมพ์ริเวอร์บุ๊คส์ กล่าวว่า เราได้พิจารณาเนื้อหาและภาพประกอบที่ส่งมาแล้วเห็นว่าเป็นหนังสือแนวประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยจัดพิมพ์มาก่อน เพราะเป็นหนังสือประวัติศาสตร์ยุคหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองถึงยุคที่คอมมิวนิสต์มีอิทธิพลในภาคอีสาน ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาทางสำนักพิมพ์ไม่เคยพิมพ์หนังสือแนวนี้มาก่อน จึงเป็นปรากฏการณ์ใหม่ในสื่อสิ่งพิมพ์ที่จะมีหนังสือประวัติศาสตร์ยุคใหม่ที่เรียบเรียงจากบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์จริง ปฏิบัติการเสี่ยงชีพจริง ไม่ใช่เรื่องที่แต่งขึ้นจากคำบอกเล่าหรือจากการค้นคว้าจากแหล่งต่างๆ นอกจากนี้ยังมีภาพประกอบที่เป็นภาพถ่ายเก่าจากเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์จำนวนมากซึ่งหาชมได้ยากกว่า 200 รูป


สำนักพิมพ์เล็งเห็นว่า เนื้อหาสาระสำคัญที่ พลตรีจักรชัย ศุภางคเสน ได้บันทึกไว้ทำให้สังคมไทยมีความสามัคคี มีความรักชาติ อันเป็นแนวทางหนังสือที่ปัจจุบันสำนักพิมพ์อื่นไม่ได้ตีพิมพ์หรือหาได้ยากยิ่ง ทางสำนักพิมพ์จึงตัดสินใจจัดพิมพ์และจัดจำหน่ายหนังสือเล่มนี้ด้วยความภูมิใจ เพื่อจุดประกายให้สังคมไทย เยาวชนไทยรุ่นใหม่ได้ตื่นตัวในการรักชาติยิ่งชีพ และเฉกเช่นที่ พลตรีจักรชัยได้บันทึกไว้เป็นอนุสรณ์อาชีพราชการของท่าน
“หนังสือเล่มนี้ได้ร่วมกันจัดและออกแบบจากหลายฝ่าย โดยใช้เวลาหลายเดือน จัดพิมพ์ด้วยกระดาษอย่างดี ที่ในโรงพิมพ์ที่ถือว่าใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยวางจำหน่ายในร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป เช่น ร้านเอเชียบุ๊คทุกสาขา ร้านคิโนคุนิยะ และร้านนายอินทร์ ทางสำนักพิมพ์หวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือเล่มนี้จะถูกเผยแพร่ในสารณชนเป็นวงกว้าง เพื่อให้หนังสือเล่มนี้จุดประกายเรื่องความสามัคคีและความรักชาติกับประชาชนรุ่นปัจจุบันต่อไป” นายไพศาลย์กล่าว

จากนั้นในเวลา 15.40 น. มีการเสวนาพิเศษในหัวข้อ “เหลียวหลังแลหน้า หาคำตอบการทหาร-การเมืองไทย” ดำเนินการเสวนาโดย นายบุญเลิศ คชายุทธเดช มี พล.อ.จรัล กุลละวณิชย์ พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ และรศ.สุขุม นวลสกุล ร่วมการเสวนา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image