#อรอุ๋งเขียน … โลกที่เปลี่ยนไปของอร BNK48

แต่จำกันได้ไหม ครั้งหนึ่งในงานหนังสือ เคยมีแฮชแท็กฮิตอย่าง #อรอุ๋งอ่าน ขึ้นมา หลังจากที่เธอไปเดินเลือกหาหนังสือในงาน และมีแฟนๆ ตาดีส่องรูปหนังสือที่เธออ่าน ซึ่งแต่ละเล่มบอกได้เลยว่าไม่ธรรมดา

หลังจากวันนั้น นอกจากความเป็นไอดอลที่เรารู้จัก อร-พัศชนันท์ เจียจิรโชติ ก็ทำให้เรารู้จักเธอในอีกมุม คือมุมของนักอ่าน และสิ่งนั้นก็นำเธอไปสู่การเขียนหนังสือเล่มแรกของเธออย่าง “ORN THE WAY”

#อรอุ๋งเขียน อะไร? อรเขียนประสบการณ์การเดินทางของเธอ ซึ่งมุมมองน่าสนใจมากทีเดียว วันก่อนหอสมุดแห่งชาติได้จัดกิจกรรมขึ้น และอรก็ได้เล่าถึงทุกอย่างที่ทำให้เธอกลายเป็นนักเขียนในวันนี้

อรเล่าว่า ทุกอย่างเริ่มต้นจากการอ่าน อรเคยเป็นเด็กที่ตัวเองบอกว่าหัวช้า และการที่อ่านหนังสือไม่ได้ เลยกลายเป็นแรงผลักดันที่นำไปสู่ความพยายาม

Advertisement

“ตอนเด็กๆ เป็นเด็กหัวช้า อ่านคำว่าโรงรับจำนำไม่ออก ตอนนั้นนั่งรถเมล์ก็ถามมาม้า ว่าคำนี้อ่านว่ายังไง มาม้าก็สอนสะกดคำ ทำให้รู้สึกว่าแค่คำว่าโรงรับจำนำทำไมเราอ่านไม่ได้ ไม่ได้สิ เราต้องอ่านหนังสือได้ เลยฝึกเริ่มอ่านหนังสือพิมพ์ที่พ่ออ่านทุกเช้า เข้าห้องสมุดบ่อยๆ ได้อ่านหนังสือชีวประวัติที่เป็นการ์ตูน อย่างเรื่องเจ้าหญิงไดอาน่า ที่เข้าห้องสมุดเพราะชอบกลิ่นหนังสือ เวลาพักเลยชอบอยู่กับมัน มาอ่านจริงจังตอนประมาณ ป.5-6 ตอนนั้นอ่านไวท์โรดของดอกเตอร์ป๊อป เป็นนวนิยายที่หนาเป็นปึกๆ แล้วมันดูเท่มากที่เพื่อนทุกคนหยิบหนังสือเรียนออกมา แต่เราหยิบหนังสือนิยายออกมา แล้วก็อวดว่าฉันอ่านเล่มนี้ที่หนามากเลยนะ มีความภูมิใจว่าฉันเป็นคนอ่านหนังสือเยอะ แล้วทำให้เพื่อนอ่านหนังสือตามได้ ซึ่งถือว่าโอเคแล้ว แล้วก็อ่านมาเรื่อยๆ ตอนเด็กๆ ก็จะอ่านนิยายแจ่มใสบ้าง แบบสาวน้อยเพ้อฝันนิดหน่อย ซึ่งคิดว่าหนังสือทุกเล่มก็มีเสน่ห์ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นประเภทไหนก็ตาม ตอนนี้กำลังอ่าน Future : ปัญญาอนาคต ของคุณภิญโญ ไตรสุริยธรรมา” อรเล่าด้วยรอยยิ้ม

อ่านมากๆ ก็เริ่มอยากเขียน และเว็บไซต์ Dekdee ก็กลายเป็นพื้นที่แรกๆ ที่ให้อรได้ลองฝีมือ แม้ว่าตอนนั้นกระแสตอบรับจะไม่ได้ดีมากนัก แต่ก็กลายเป็นพื้นฐานสำคัญที่นำไปสู่งานเขียนในวันนี้ “ORN THE WAY” บนเส้นทางสายอิตาลี “ชอบโรมิโอกับจูเลียต ก็เลยอยากตามรอยเผื่อจะเจอโรมิโอบ้าง” อรกล่าวพลางหัวเราะ

Advertisement

 

“พอตัดสินใจว่าเราจะเดินทาง ก็ชวนตาหวาน (ตาหวาน BNK 48) ไปด้วย เพราะเป็นคนอยู่ง่าย ถ่ายรูปง่าย แล้วไม่ค่อยเรื่องมาก เวลาไปเที่ยวกับใครสักคนก็ต้องเลือกไปเที่ยวกับคนที่สบายใจ กับพื่อนที่คล้ายๆ เรา เข้ากับเราได้

แล้วก็วางแผนการเดินทางเลย จดทุกอย่างพบเจอ ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ตอนแรกก็กังวลมากเลยนะ เพราะเราไปกันสองคน พี่ๆ ก็เตือนเรื่องโจร ก็คิดตลอดจะเอายังไงดี นั่งดูยูทูบวิธีป้องกันตัวเลย คือวิตกมาก จนคิดว่าเราวิตกเกินไปหรือเปล่า มันจะทำให้ไม่มีความสุขไหมในการไปเที่ยว สุดท้ายก็เป็นไงเป็นกัน ไปอิตาลีแบบต้องดูแลชีวิตตัวเองกันให้ได้”

อรบอกว่าการเดินทางครั้งนี้แม้จะไม่กี่วัน แต่ก็ทำให้เธอและตาหวานรู้สึกเติบโตขึ้น เพราะต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเองได้ รับผิดชอบเพื่อนได้

ในการถ่ายทอดเรื่องราวของอร สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจมาก ไม่ใช่แค่การเติบโตระหว่างการเดินทาง แต่เธอเลือกที่จะเปิดเปลือยบาดแผลบางอย่างในชีวิตตัวเอง ในชีวิตครอบครัว ผ่านการเดินทาง ซึ่งเป็นสิ่งที่อรบอกว่าตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก

“อยากส่งกำลังใจให้กับคนอื่น เชื่อว่าน่าจะมีอีกหลายคนที่มีชีวิตคล้าย ต้องมีคนเผชิญเหตุการณ์แบบนี้บ้าง ก็เลยอยากให้กำลังใจเขาว่า เขาไม่ได้เผชิญอยู่เพียงลำพัง เขายังมีเราที่เผชิญเหมือนกัน การเผชิญหน้ากับปัญหาครอบครัว ไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่เป็นเรื่องที่เล่ากันได้ และทำให้รู้ว่าเราไม่ได้เจอเรื่องแบบนี้คนเดียว ไม่อยากให้ทุกคนต้องเศร้าโศกเสียใจเพียงลำพัง เลยเลือกที่จะเขียนขึ้นมา เพื่อที่จะเป็นเพื่อนกับเขา” อรอธิบาย แล้วว่าเธอเอง “พยายามที่จะทบทวนตัวเองผ่านการอ่าน การเขียน และการถ่ายทอดเรื่องราวที่เกิดขึ้น

นอกจากจะเป็นแสงสว่างให้ตัวเองแล้ว ก็หวังว่าจะเป็นแสงสว่างให้กับคนอื่นได้เหมือนกัน”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image