หยุดท้ายปีหลายวัน คอหนังสือไม่น้อยได้โอกาสหาสถานที่สงบสงัด อากาศดี อ่านหนังสือที่หมายตาให้เพลิดเพลิน ยังมีอีกไม่น้อยที่ไม่ออกจากบ้าน หอบหนังสือกองไว้ข้างๆ เก้าอี้เอนหลัง อ่าน “ชุดที่สุดแห่งปี” ให้สำราญ
อะไรคือชุดที่สุดแห่งปี กี่เล่มที่รวมอยู่ในชุดที่สุดแห่งปีได้ ชุดที่อ่านเองหรือเป็นของขวัญที่ผู้รับพึงใจสุดสุดมีอะไรบ้าง
ความสำเร็จดีใจได้วันเดียว ของนักธุรกิจผู้บุกเบิกการเกษตรและเลี้ยงสัตว์ จากแผ่นดินไทยสู่แผ่นดินจีนอันกว้างใหญ่ ขยายสาขาออกสู่เทคโนโลยีการสื่อสาร และการค้าปลีก ธนินท์ เจียรวนนท์ ซึ่งยุคหนึ่งคนอยากให้เป็นนายกฯ
แต่ทำไมมหาเศรษฐีที่ยังมีเรี่ยวแรงบุกบั่นไปข้างหน้าผู้นี้ จึงบอกว่า ความสำเร็จดีใจได้เพียงวันเดียว
หนังสือเล่มแรกของผู้เขียน ที่ใช้เวลาถึง 8 ปี เรียบเรียงเบื้องลึกเบื้องหลังทั้งชีวิต ทุกแง่มุมที่ทุกคนก็อยากรู้ ถ่ายทอดประสบการณ์บนเส้นทางธุรกิจอันยาวนานกว่า 50 ปี ด้วยเรื่องเล่าอันเรียบง่าย แฝงแนวคิดและปรัชญาการทำงาน จนพบความสำเร็จ เพื่อส่งต่อการเดินทางอันยาวนั้น เป็นแบบสู่ลูกหลานนักธุรกิจรุ่นหลัง
อ่านแล้วจึงเข้าใจ หรือไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำไมความสำเร็จจึงดีใจได้เพียงวันเดียว ถึงกับไม่มีเวลานอนฝันหวาน
อีกเล่มในชุด ฟาสท์ฟู้ดธุรกิจ ซึ่งมาถึงเล่มที่ 31 แล้ว ของผู้เขียนซึ่งคอยปลุกเร้าความคิดคนทำกิน ให้ตื่นความ รู้ตลอดเวลา หนุ่มเมืองจันท์ ผู้สามารถที่หลายสถาบันต่างจองตัวไปเล่าประสบการณ์ความคิด จากการเรียนรู้ในฐานะคนทำงานสื่อซึ่งใกล้ชิดแหล่งข่าวในวงการธุรกิจอันเก่งกาจสาขาต่างๆ ถ่ายทอดเรื่องราวด้วยลีลาฮาเงินล้านเป็นประจำ อยู่ในนิตยสาร มติชนสุดสัปดาห์ จนกลายเป็นงานชุดที่พลาดไม่ได้ ทั้งสำหรับนักอ่านและผู้ประกอบการสัมมาชีพ
แค่เริ่มต้นใหม่ไม่ใช่พ่ายแพ้ หนังสือเล่มล่าที่ให้กำลังใจคนสู้ชีวิตตั้งแต่ปกหน้า เพื่อเดินหน้าต่อไปไม่ท้อถอย
เพราะชีวิตเหมือนกับการวิ่งมาราธอนระยะยาวไม่สิ้นสุด ไม่มีเส้นชัย ไม่มีชนะไม่มีแพ้ มีแต่การเปลี่ยนแปลงและเริ่มต้นใหม่ ไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ตราบเท่าที่ยังชีวิตก็สุดที่จะหยุดลงยอมโบกมืออำลาเส้นทางชีวิตนั้นได้ วันนี้คือวันหน้าร่ำไป
เพราะฉะนั้น มีแต่เราเท่านั้นที่จะฉุดดึงเราขึ้นมาทุกครั้งที่ล้มลงได้ เพื่อเริ่มต้นใหม่
อีกเล่มที่น่าอ่านคือ เมื่อความจนเฆี่ยนตีผม โดยผู้เขียนมือฉมังจาก สารคดี ที่คร่ำอยู่กับตัวหนังสือมายาวนาน วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ มาเรียบเรียงชีวิตของคนไม่ยอมแพ้อีกราย ที่มานะและบากบั่นฟันฝ่าอุปสรรคจนวันนี้จึง เป็นที่รู้จักในฐานะผู้สร้าง “โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง” ตั้งแต่ริเริ่ม พัฒนา มาจนยืนหยัดอยู่กว่าสองทศวรรษได้ มิใช่เรื่องบังเอิญหรือโชคช่วย แต่เป็นความสำเร็จซึ่งได้มาจากการทุ่มเท จึงเป็น “ความภูมิใจที่ล้ำค่า”
ชีวิตของ สุพจน์ ธีระวัฒนชัย ผู้ใช้เวลาลองผิดลองถูกกว่า 40 ปี จึงสร้างอาณาจักรโรงเบียร์ที่ผู้คนนิยมขึ้นได้
เล่มที่ 4 ในชุดที่สุดแห่งปีคือ ลงเรือแป๊ะ ของผู้ชำนาญกฎหมายซึ่งสื่อขนานนามว่าเป็นเนติบริกร ที่ได้รับก้อน อิฐและดอกไม้อยู่ประจำตลอดชีวิตการทำงาน วิษณุ เครืองาม ที่ไม่กี่วันมานี้ ยกโคลงสุภาษิตพระราชนิพนธ์รัชกาลที่ 5 มาอ้างสำทับกับสื่อมวลชนให้นิ่งอึ้งตะลึงตะไลไปถ้วนหน้า โดยเฉพาะ “สุจริตคือเกราะบัง ศาสตร์พ้อง”
แต่สถานการณ์ก็ว่าไปตามสถานการณ์ ในฐานะคนเขียนหนังสือ นักกฎหมายนามนี้สามารถอย่างเอกอุในงานเขียน โดยเฉพาะเล่าเรื่องอาหารจนแทบจะได้กลิ่นโอชะระเหิดระเหยขึ้นจากหน้ากระดาษ และเบื้องหลังการเมืองเรื่องยากจะรู้
นับจากก้าวแรกของรัฐบาลหลังรัฐประหาร 2557 ชุดที่ 1 จนชุดที่ 2 เล่าเบื้องหลังนาวาแป๊ะให้อ่านเพลิดเพลิน ด้วยเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยและเบื้องหลังนานา ในฐานะหน้าที่ที่ต้องให้ข้อมูลแนะนำต่างๆ แต่เมื่อลงเรือแป๊ะไปแล้ว ก็ต้อง ตามใจแป๊ะเป็นธรรมดา ใครจะว่าอะไรก็ต้องเอาสุจริตเป็นเกราะบัง ศาสตร์พ้องไว้ก่อน อ่านดู อย่างน้อยได้รู้หลายอย่าง
เล่มสุดท้ายในชุดเป็นความรู้รอบ ที่หากมิใช่ผู้คลุกคลีอยู่กับเรื่องราวดังกล่าว ก็ยากจะมาเล่าให้เกิดรสชาติและสาระอันบันเทิงได้ ยิ่งคนนิยมญี่ปุ่นด้วยแล้ว ไม่เฉพาะเรื่องธุรกิจทำกิน แต่ว่าด้วยวิถีชีวิตที่น่าหลงใหลก็ชวนให้ใคร่รู้ไม่น้อย
จาปองนิสเหมะ (japonisme) ดินแดนซึ่งครองใจคนทั่วโลกมายาวนาน ด้วยเอกลักษณ์ที่ฉายผ่านวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ บ้านช่องห้องหอ อาหารการกิน งานศิลปะ และวัฒนธรรมป๊อปนานา ตลอดจนธรรมชาติที่งดงาม จนทำให้ชาวตะ วันตกศตวรรษที่ 19 ตื่นรู้ต่ออัตลักษณ์ของญี่ปุ่นจนเกิดอาการ “จาปองนิสเหมะ” ขึ้น อันแสดงออกถึงความนิยมชมชื่น หลงใหล คลั่งไคล้ ต่อศิลปะ ปรัชญา และวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างแพร่หลาย
ผู้เขียนคือ เอริน นิอิมิ ลองเฮิร์สท์ ผู้มีพ่อเป็นอังกฤษกับแม่ชาวญี่ปุ่น ที่ซึมซาบวัยเด็กกับญาติพี่น้องฝ่ายแม่และผูกพันกับวัฒนธรรมรอบตัวอย่างลึกซึ้ง เป็นผู้ถ่ายทอดประสบการณ์อันละเอียดนุ่มนวลให้ซาบซึ้ง เข้าใจได้โดยกระจ่าง
อย่างน้อยได้รู้เรื่องหลักๆ ที่สำคัญกับความคิดอ่านของคนญี่ปุ่น เช่น ความคิดเกี่ยวกับเป้าหมาย การพบความงาม ในความไม่สมบูรณ์แบบ เป็นการสำรวจทางใจ ส่วนทางกายนั้นมีตั้งแต่การกินชา จัดดอกไม้ เขียนตัวอักษร อาบน้ำร้อน สุดท้ายเป็นการสร้างนิสัย อันเป็นบุคลิกสำคัญที่ชาวโลกเห็นคนญี่ปุ่นชัดเจน จากการประสบภัยธรรมชาติในภาวะต่างๆ
นั่นเป็น 5 เล่มในชุดที่สุดแห่งปี ซึ่งประกันความพอใจของนักอ่าน และผู้ได้รับเป็นของขวัญปีใหม่ได้
โดยเฉพาะด้วยราคาพิเศษ จากราคาปก 1,555 บาท เหลือเพียง 1,200 บาท คุ้มค่าคุ้มเวลาอ่านสุดสุด
การมีชีวิตอยู่เป็นเรื่องยากลำบาก มากบ้างน้อยบ้าง หลายคนคร่ำครวญถึงโชคชะตา แต่อีกไม่น้อยไม่มีเวลาคิด ถึงโชคชะตาเพราะปากท้องของลูกเมียเร่งรัดแต่ให้หาทางทำกิน วิธีคิดจึงเป็นกำลังขับเคลื่อนสำคัญที่จะผลักดันชีวิต
7 เหตุผลที่โชคชะตาทำร้ายคนอย่างคุณไม่ได้ หรือ ออน ไฟร์ (on fire) เรื่องของชายที่ถูกไฟไหม้จนไม่มีใคร คิดว่าจะรอด แต่สิ่งที่ทำให้ชีวิตของเขาดำเนินต่อมาได้คือคำถามของแม่ที่ว่า ลูกอยากตายไหม เมื่อตอบว่าไม่ แม่จึงตอบ กลับมาว่า ลูกต้องสู้ สู้อย่างที่ไม่เคยสู้มาก่อน นี่คือชีวิตอันหนักหนาสาหัสของคนคนหนึ่ง ซึ่งแม้เราอ่านแล้วก็ไม่แน่ว่าจะทำ เช่นเดียวกันได้
จอห์น โอเลียรี่ เขียนเรื่องนี้ให้เห็นว่า เมื่อตั้งใจสู้เพื่อตัวเอง เพื่อคนรอบข้าง ชีวิตก็ไม่ได้ขึ้นกับโชคชะตา แต่อยู่ในน้ำมือเราเองที่จะบันดาลปาฏิหาริย์ให้เกิดขึ้นได้ เราเองที่สามารถกำหนดความเป็นตายแม้ในโอกาสที่อาจเป็นศูนย์
วิกันดา จันทร์ทองสุข แปลให้อ่านอย่างซาบซึ้งในความเด็ดเดี่ยวของมนุษย์ผู้หนึ่งซึ่งไม่ยอมให้โชคชะตาพาไป
เล่มนี้ต้องถูกใจคนนอนดึกส่วนมากทีเดียวเชียว แหม นอนดึกไม่ดีสารพัด สมองเสื่อมบ้างล่ะ ความจำเสื่อมบ้างล่ะ คราวนี้ญี่ปุ่นอีกแล้ว ที่มาคัดง้างเรื่องดังกล่าว ให้อ่านเพื่อพิจารณาชั่งน้ำหนัก และแยกแยะให้ถูกประเด็น อย่างมงาย ไปทางหนึ่งทางใดเสียทีเดียว จนสุขภาพเสื่อมโทรม แล้วจะว่ามาหนุนให้ใช้ชีวิตผิดลู่ผิดทาง
สมองฉับไว สไตล์คนนอนดึก ที่ผู้เชี่ยวชาญการนอนดึกชื่อดังของญี่ปุ่น(โอ้โฮ) “ทะกะชิ ไซโตะ” มาให้วิธีเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนและการทำงานให้สูงขึ้นอีกเป็นเท่าตัว ทั้งๆ ที่นอนดึก เพราะไม่มีช่วงเวลาไหนที่จะกระตุ้นความใฝ่รู้ และ พลังจินตนาการได้เท่ากลางคืนอีกแล้ว นี่ต้องเร่งหามาอ่านพิสูจน์ เพื่อค้นเวลาทองของตัวเองให้พบ
ผู้เขียนเป็นคนต้องตื่นมาทำงานเช้า แต่เป็นคนนอนดึก ในที่สุดจึงค้นพบและพัฒนาเทคนิคแจ่มๆ ในวิถีดังกล่าวขึ้นได้
ความจำจะแม่นยำตอนกลางคืน, ดูหนังกลางคืนเป็นขุมทรัพย์แห่งภูมิปัญญา (ไชโย้ ขนหนังชุดเกาหลีมาอีก), กลางคืนเป็นเวลาที่พลังจินตนาการกระพือปีก, ความลุ่มลึกของคำพูดจะเปลี่ยนไป ด้วยการอ่านหนังสือช่วงเวลาทองตอนกลาง คืน เพราะฉะนั้น ผู้เขียนจึงสำทับว่าจะทนทำงานในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมกับตัวไปทำไม ทำงานในเวลาที่จะใช่ย่อมดีกว่า
กิษรา รัตนาภิรัต คุโด แปลให้อ่านอย่างสมใจคนนอนดึก หรือคนชอบใช้ชีวิตกลางคืน ให้ถูกวิถีถูกวิธีไปเลย
และท้ายเล่มประจำอาทิตย์ นิตยสารการเมืองฉบับครอบครัว มติชนสุดสัปดาห์ อ่านสนุกนั่งลุกสบาย มีความสุข ได้ตามอัตภาพโดยไม่ต้องรับคืนจากตู้ เอทีเอ็ม ไหน นอกจากเงินคืนภาษี
เอ้าเฮ ติดตามดูเรือแป๊ะฝ่าคลื่นลมกัน
บรรณาลักษณ์