วรากรณ์ สามโกเศศ ลั่นสังคมขาดสติ ต้อง ‘อ่านเทียบความคิด’ มุ่งมาจัดหนักปวศ.เล่มดัง สนพ.มติชน ไม่สนบูธอื่น

‘อดีตรมช.ศึกษา’ ลั่น สังคมขาดสติ ต้อง ‘อ่านเทียบความคิด’ มุ่งมาจัดหนักปวศ.เล่มดัง สนพ.มติชน ไม่สนบูธอื่น

เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชั้น LG ฮอลล์ 5-7 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ ภายในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 27 ซึ่งโดยสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ในแนวคิด “Booktopia มหานครนักอ่าน” ตั้งแต่วันที่ 12-23 ตุลาคม เวลา 10.00 – 21.00 น. หลังจากศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ห่างหายจากการจัดงานอีเวนต์ เนื่องจากปิดปรับปรุงไปตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2562 เป็นต้นมา โดยตั้งแต่เวลา 10.00 น. มีทยอยผู้เดินทางมาเลือกซื้อหนังสือ ส่วนมากเป็นวัยรุ่น ที่มาพร้อมประเป๋าผ้า ไปจนถึงกระเป๋าล้อลาก เพื่อเตรียมช้อปหนังสือภายในงานที่ปีนี้จัดเต็ม 306 สำนักพิมพ์ 788 บูธ กิจกรรมเวที และเสวนากว่า 100 รายการ

สำหรับ สำนักพิมพ์มติชน ในปีนี้ได้ พิชัย แก้ววิชิต ศิลปินและช่างภาพผู้มีเอกลักษณ์พิเศษเฉพาะตัว Matichon X Phichai Keawvichit มาร่วมออกแบบธีมบูธ i48 และของพรีเมียม ในแนวคิด “BookPath” (อ่านวิถี) มาท่องมหานครนักอ่าน ที่ใครก็เข้าถึงง่าย มองเห็นได้เหมือนฟุตปาธที่มีอยู่ทุกมุมถนน เปิดพื้นที่ชวนมาหยิบจับ “อ่าน” ได้อย่างเสรีและเท่าเทียม

บรรยากาศ เวลา 12.30 น. ที่บูธสำนักพิมพ์มติชน i48 มีนักอ่านเข้ามาแวะเวียน เลือกซื้อหนังสือในชั้นต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งลดพิเศษสูงสุดถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ก่อนนำใบเสร็จไปแลกรับของพรีเมียม อาทิ กระเป๋าผ้าสุดฮิป เสื้อยืด เสื่อปูนั่ง เป็นต้น

Advertisement

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวพบ รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มาเดินเลือกซื้อหนังสือภายในบูธสำนักพิมพ์มติชน ก่อนนำใบเสร็จไปแลกของพรีเมียม เป็นเสื้อยืด ซึ่ง รศ.ดร.วรากรณ์เขียนบทความตีพิมพ์ในวารสารและหนังสือพิมพ์หลายฉบับ ในมุมเศรษฐศาสตร์ การเงิน คุณภาพชีวิต และยังเป็นหนึ่งในคอลัมนิสต์ มติชนสุดสัปดาห์ อีกด้วย

รศ.ดร.วรากรณ์ เปิดเผยว่า ตนเดินทางมาจากบ้านพัก โดยจอดที่สถานี MRT ใกล้บ้าน แล้วนั่ง ไฟฟ้าใต้ดินมาลงสถานีศูนย์ฯสิริกิติ์ ไม่อยากขับรถมา ใช้วิธีนี้สะดวกกว่า เมื่อมาถึงก็เลือกซื้อหนังสือของตัวเองก่อน แล้วเดี๋ยวจะไปหาซื้อให้แฟน และลูก หลาน ต่อไป

“ผมเขียนให้มติชนสุดสัปดาห์ มา 20 เกือบ 30 ปี ใช้ชื่อว่า ‘โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี’ วันนี้มาซื้อหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ มาที่บูธสำนักพิมพ์มติชนแห่งเดียว ไม่ได้ซื้อที่บูธอื่นเลย ไปเดินดูแต่ไม่ได้ซื้อ ตั้งใจจะมาที่บูธนี้” รศ.ดร.วรากรณ์กล่าว

Advertisement

ถามว่าเพราะอะไรถึงตั้งใจมุ่งมายังบูธสำนักพิมพ์มติชน ?

รศ.ดร.วรากรณ์เปิดเผยว่า เพราะหนังสือของสำนักพิมพ์มติชนมีคุณภาพ มีแต่หนังสือที่ดีๆโดยเฉพาะหนังสือแนวประวัติศาสตร์และการเมือง ดีมาก

“ครั้งนี้ก็จัดร้านดี มีคนรู้จักที่เขียนด้วยหลายคน ดี มีหนังสือคุณภาพ หลากหลาย และเป็นตลาดบน ไม่ใช่ตลาดนวนิยาย ก็เลยไม่ค่อยวุ่นวายเท่าไหร่ในความรู้สึกของผม สำหรับมติชนผมคิดว่า หนังสือของสำนักพิมพ์มติชน เป็นหนังสือสำหรับคนที่สนใจเรื่องบ้านเมือง และประวัติศาสตร์วัฒนธรรม เป็นไปในแนวศิลปะวัฒนธรรม ซึ่งก็เป็นตลาดใหญ่ของมติชนมาโดยตลอด” รศ.ดร.วรากรณ์กล่าว

ถามว่าหนังสือเล่มยังสำคัญหรือไม่ในยุคนี้ ? รศ.ดร.วรากรณ์กล่าวว่า ‘ชัวร์’

“หนังสือเล่มผมว่าไม่มีวันที่อย่างอื่นจะทดแทนได้หรอก ใครจะไปคิดว่าอีบุ๊คจะมาทดแทน เป็นไปไม่ได้หรอก ต่อให้คนเคยชินกับดิจิทัล แพลตฟอร์ม อย่างไรก็แล้วแต่ คนก็ยังอยากสัมผัสถึงกระดาษเพราะมันมีความเป็นมนุษย์มากกว่า”

“วันนี้ผมซื้อประวัติศาสตร์การเมืองเป็นส่วนใหญ่ และหนังสือเกี่ยวกับภาษาสเปนไป 1 เล่ม แล้วเดี๋ยวจะซื้อหนังสือเด็ก ที่แปล 5 ภาษา หนังสือของสำนักพิมพ์มติชนซื้อไปเกือบ 20 เล่มได้ ซื้อไปทั้งเล่มใหม่ และเล่มเก่าด้วย อย่างวันนี้ซื้อหนังสือ ‘บันทึกของทูตญี่ปุ่น ผู้เห็นเหตุการณ์ปฏิวัติ 2475’ เป็นบันทึกของคนญี่ปุ่นและคนต่างชาติที่เห็นการอภิวัฒนาสยาม พ.ศ.2475 และมีเรื่องของประวัติศาสตร์สมัยรัชกาลที่ 5 ด้วย” รศ.ดร.วรากรณ์กล่าว

เมื่อถามว่า ทำไมถึงสนใจอยากรู้ว่าคนต่างประเทศเขามองเราอย่างไร ? รศ.ดร.วรากรณ์ระบุว่า เพราะมันเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น และตนก็อยากจะทำให้มันชัดเจนขึ้นในหัว

“เรามองไปในอดีต เราเห็นตัวเองชัดเจนหรือเปล่า ซึ่งก็มีหลักฐานเพิ่มขึ้นทุกที อย่างในต่างประเทศก็มีเพิ่มขึ้นด้วย เพราะคนไทยมีความรู้สึกที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย เราก็อยากจะรู้ว่าความจริงเป็นอย่างไรในสิ่งที่ต่างประเทศเขามองเราในสมัยนั้น เพื่อที่จะเปรียบเทียบกับสิ่งที่เราคิดว่าเราเปลี่ยนไปตลอดเวลาในความคิดเรา มันถูกต้องแค่ไหน” รศ.ดร.วรากรณ์เผย

คนเรามองตัวเองไม่ชัดเท่ากับให้คนอื่นช่วยมอง ?

รศ.ดร.วรากรณ์กล่าวว่า เราเปลี่ยนไปตามค่านิยม เราเปลี่ยนไปเรื่อยๆ

แล้วตอนนี้สังคมไทยขาดอะไรอยู่?

รศ.ดร.วรากรณ์ชี้ว่า สังคมไทยตอนนี้ก็เหมือนกับหลายสังคมอื่นๆ ในโลกนี้ ที่ขาดสติ

“บางทีก็หวือหวาไปตามสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น จนกระทั่งไม่ได้ดูว่าความจริงเป็นอย่างไร เมื่อย้อนกลับมาดูประวัติศาสตร์ใหม่ ทำให้ประวัติศาสตร์เก่าที่รู้สึกว่าค่อนข้างจะถูกต้อง พลิกเปลี่ยนไปอีกครั้งหนึ่ง เป็นวิธีการมองปัญหาใหม่ที่อาจจะผิดไปจากเก่าก็ได้ หรืออาจจะถูกก็ได้ ผมอยากจะได้ความจริงก็เลยต้องไปหาจากที่ฝรั่งเขาพูดถึง ว่าคนต่างชาติเขาพูดถึงเราว่าเป็นอย่างไร” รศ.ดร.วรากรณ์กล่าว

ถามต่อว่า ความถูกต้องเป็นเรื่องที่ต้องช่วยกันค้นหา หรือไม่ ?

รศ.ดร.วรากรณ์กล่าวว่า ประวัติศาสตร์ ยากที่จะถูกต้อง ไม่มีใครรู้ว่าถูกต้อง หรือไม่ถูกต้อง แต่มันมีความมีเหตุมีผลในตัวของมันเอง ทั้งในบริบทของต่างประเทศ และประเทศไทย

“นี่คือสิ่งที่เราต้องการหา ต้องมีข้อมูลมาเพื่อที่จะได้ช่วยกันคิด และหาความจริงว่าสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นได้อย่างไรบ้าง” รศ.ดร.วรากรณ์กล่าว

แล้วหนังสือเล่มไหนที่คนไทยควรจะได้อ่าน ?

รศ.ดร.วรากรณ์เผยว่า โอโห เยอะมาก นึกชื่อไม่หมด

“ผมว่าคนไทยควรจะต้องอ่านประวัติศาสตร์เพื่อที่จะได้รู้ความเป็นมาของตัวเราเองว่าเรามาถึงตรงนี้ได้อย่างไร และความฝันของคนสมัยก่อนเป็นอย่างไร และเราต้องฝันอย่างไรบ้าง จากที่สังคมเราต้องก้มหน้าต่อไป มีหลายเล่มมาก เยอะแยะไปหมด” รศ.ดร.วรากรณ์ระบุ

พร้อมเปิดเผยด้วยว่า จะจัดส่งหนังสือที่ซื้อวันนี้ทางไปรษณีย์ ตนแบกขึ้นรถไฟไม่ไหว วางแผนไว้เรียบร้อยแล้ว

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถมาเลือกชมหนังสือได้ที่ บูธมติชน i48 ในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 27 ระหว่างวันที่ 12-23 ตุลาคมนี้ เวลา 10.00 – 21.00 น. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชั้น LG ฮอลล์ 5-7 สนใจสั่งซื้อคลิก: https://bit.ly/371vqCq หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักพิมพ์มติชน ไลน์ : @matichonbook ยูทูบ: Matichon Book ติ๊กต็อก : @matichonbook ทวิตเตอร์ : matichonbooks อินสตาแกรม : matichonbook

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image