เอ็มดีงานดี-สนพ.มติชน ปลื้มมหกรรมหนังสือ 12 วันสุดปัง ปวศ.ยอดพุ่ง-พรึบสมัครนิตยสารรายปี

เอ็มดีงานดี-สนพ.มติชน ปลื้มมหกรรมหนังสือ 12 วันสุดปัง ปวศ.ยอดพุ่ง-พรึบสมัครนิตยสารรายปี

เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ที่บูธสำนักพิมพ์มติชน ภายในมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 27 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายนฤตย์ เสกธีระ กรรมการผู้จัดการบริษัท งานดี จำกัด ในเครือมติชน ให้สัมภาษณ์ถึงผลตอบรับจากงานมหกรรมหนังสือว่า ภาพรวมถือว่าประสบความสำเร็จดีและประสบความสำเร็จทุกบูธ ต้องขอแสดงความยินดีกับสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ผู้จัดงานในครั้งนี้ เพราะมีคนเข้าร่วมงานจำนวนมากตั้งแต่วันแรก ทำให้รู้สึกว่าคนอ่านหนังสือเขากลับมาแล้ว ซึ่งไม่ใช่แค่งานนี้ สังเกตเห็นได้ตั้งแต่งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติและงานหนังสือในต่างจังหวัดที่จัดขึ้นตลอดปีจนถึงงานนี้

นายนฤตย์กล่าวว่า เมื่อก่อนเรามีการแยกคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นเก่า แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว คนทุกรุ่นออกมาหาหนังสือไปอ่านกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าดีใจ

“บูธสำนักพิมพ์มติชนก็มีคนทุกรุ่นเข้ามา สิ่งที่น่าสังเกตคือคนที่มาซื้อเขาศึกษาหาข้อมูลมาก่อนว่าอยากจะมาซื้อหนังสือเล่มไหน และมีทั้งคนที่ซื้อ 1-2 เล่ม และคนที่หลายเล่ม ซื้อเป็นชุด เหมือนอยากจะเรียนรู้เรื่องนั้นๆอย่างจริงจัง ก็ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ดี” นายนฤตย์กล่าว

เมื่อถามว่า คิดเห็นอย่างไรกับการที่คนรุ่นใหม่หันมาอ่านหนังสือแนวศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์การเมืองมากขึ้น นายนฤตย์กล่าวว่า พื้นฐานของคนทุกคนใฝ่รู้ อยากรู้ อยากแสวงหาข้อมูล อะไรที่เป็นของใหม่ที่ยังไม่รู้ หนังสือจะเป็นตัวที่ตอบโจทย์

Advertisement
นฤตย์ เสกธีระ กรรมการผู้จัดการบริษัท งานดี จำกัด ในเครือมติชน

“เมื่อก่อนเราคิดว่าการหาข้อมูลข่าวสารสามารถหาจากอินเตอร์เน็ตก็ได้ แต่ในปีที่ผ่านมาคนรุ่นใหม่และนักอ่านหน้าใหม่เขาต้องการมากกว่าข่าวสารที่ผิวเผิน ต้องการข่าวสารที่เจาะลึก หรือมีอาจารย์ นักวิชาการ นักเขียนที่ไปศึกษาและนำมาถ่ายทอดในรูปแบบที่อ่านง่ายแต่มีความรู้ครบถ้วน ถือเป็นนิมิตหมายดีที่คนไทยอ่านหนังสือเพื่อศึกษาหาข้อมูลมากขึ้น

“หนังสือของสำนักพิมพ์มติชนครั้งนี้มีออกใหม่ 9 เล่ม ซึ่งได้รับการตอบรับดีทุกปกที่เน้นๆ ก็คือ รสไทย(ไม่)แท้ : ถอดรูปทิพย์อาหารไทยในสนามการเมืองวัฒนธรรม ผู้เขียน อาสา คำภา ซึ่งเป็นเรื่องของอาหารที่มีการสะท้อนวัฒนธรรมเกี่ยวกับที่มาของอาหาร ข้อถกเถียงที่ว่าเป็นอาหารไทยจริงหรือไม่ จึงทำให้ขายดีติดอันดับหนึ่งหลายวัน

“เล่มที่สองคือ รัฐสยดสยอง ผู้เขียน ภัทรนิษฐ์ สุรรังสรรค์ ได้รับการตอบรับดี เพราะเป็นการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องอารมณ์ และมาตรการของรัฐที่ใช้ในการดูแลและปรับเปลี่ยนทัศนคติของคนในสังคม ส่วนหนังสือ Amidst the New World Order ไทยในระเบียบโลกใหม่ ผู้เขียน รศ.ดร. ปิติ ศรีแสงนาม และ MORE เปิดประวัติศาสตร์เศรษฐกิจหมื่นปี ผู้เขียน Philip Coggan แปลโดย พลอยแสง เอกญาติ ก็กลายเป็นหนังสือที่ได้รับความสนใจ ในเล่มอื่นๆ ก็ได้รับความนิยม ติดใน 10 อันดับหนังสือขายดีทั้ง 9 เล่ม ซึ่งน่าดีใจแทนสำนักพิมพ์มติชน” นายนฤตย์กล่าว

Advertisement

นอกจากนี้ นายนฤตย์ยังกล่าวอีกว่า ภายในงานมีผู้ให้ความสนใจสมัครสมาชิกนิตยสารในเครือมติชนแบบรายปีจำนวนมากอีกด้วย ทั้งมติชนสุดสัปดาห์ เทคโนโลยีชาวบ้าน และศิลปวัฒนธรรม โดยส่วนใหญ่เป็นวัยผู้ใหญ่

ด้าน นายมณฑล ประภากรเกียรติ ผู้จัดการสำนักพิมพ์มติชน กล่าวว่า ภาพรวมของงานหนังสือปีนี้คือคนค่อนข้างมาร่วมงานเป็นจำนวนมากตามที่คาดไว้ น่าจะเป็นเพราะสถานที่ที่คนคุ้นเคยและการเดินทางที่สะดวกมากขึ้น แต่ยังมีช่วงวันเสาร์และอาทิตย์ในสัปดาห์แรกที่คนยังน้อยกว่าที่คาด จากการถามภาพรวมจากเพื่อนๆ สำนักพิมพ์อื่นก็ถือว่าผลประกอบการเป็นที่น่าพอใจในช่วงหลายวันที่ผ่านมา สำหรับบูธของสำนักพิมพ์มติชนมีคนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก

“จุดเด่นของเราในหลายๆ ปีมีอยู่ 3 จุด จุดแรกคือ บูธของเราที่ตกแต่งอย่างเต็มรูปแบบ มีคอนเซ็ปต์ชัดเจนในการนำเสนอ เพราะฉะนั้น หลายๆ คนที่มาบูธก็จะมีการถ่ายภาพร่วมกับบูธ จุดที่สองคือ หนังสือที่เราคัดสรรมาก็ตอบโจทย์เรื่องของเทรนด์ในปัจจุบันที่หลายๆ คนอยากอ่านประวัติศาสตร์ที่อ่านง่าย ไม่หนักเกินไป แต่ก็มีบ้างที่เขาอยากอ่านประวัติศาสตร์ใกล้ตัว เราก็นำมาเสิร์ฟ จุดที่สามคือ ของพรีเมียมที่แทบจะเป็นจุดเด่นของงานหนังสือทุกๆ งานที่เราจัดหนักจัดเต็มจริงๆ หากถามว่านักอ่านให้ผลตอบรับอย่างไรก็คือ 3 จุดนี้ที่ถูกพูดถึงในโซเชียลมีเดีย” นายมณฑลกล่าว

นายมณฑลกล่าวต่อไปว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่าลูกค้าของสำนักพิมพ์มติชนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนวัยทำงานกับกลุ่มคนที่อายุประมาณ 40-50 ปีขึ้นไป แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าหลายงานที่ผ่านมาในระยะช่วง 2-3 ปี มีกลุ่มนักเรียน นักศึกษาที่เริ่มมาซื้อหนังสือประวัติศาสตร์ มองว่าเป็นการตื่นรู้ในการที่จะแสวงหาคำตอบที่ใกล้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้นกับสภาพสังคมบ้านเมือง เราจะหาคำตอบไม่ได้เลยหากเราไม่เรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นคนรุ่นใหม่พยายามหาคำตอบ หาความรู้ที่สามารถหาได้จากในหนังสือไม่ใช่ในแบบเรียนหรือตำราเรียน

“เล่มที่ขายดีที่สุดคือ รสไทย(ไม่)แท้ : ถอดรูปทิพย์อาหารไทยในสนามการเมืองวัฒนธรรม เพราะชื่อเสียงของคุณอาสา คำภา เรื่องของเนื้อหาที่เล่มนี้พูดถึงประวัติศาสตร์ที่ใกล้ตัว อ่านง่าย ย่อยง่าย และเรื่องของอาหาร สำนักพิมพ์มติชนทำตลาดมาตลอดตั้งแต่ ต้นสาย ปลายจวัก ผู้เขียน กฤช เหลือลมัย, ปฏิวัติที่ปลายลิ้น ผู้เขียน ชาติชาย มุกสง จนกระทั่งเล่มนี้ที่เกี่ยวกับเรื่องของประวัติศาสตร์อาหารการกิน โภชนาการ ทุกๆ เล่มเราได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีหมด และเรื่องของความเป็นศิลปะ การจัดหน้า การนำเสนอในรูปแบบของการอ่านง่าย ย่อยง่าย ไม่หนักหน่วงจนเกินไป มันช่วยให้คนอ่านสนใจและสามารถหยิบจับและอ่านได้ง่าน” นายมณฑลกล่าว

มณฑล ประภากรเกียรติ ผู้จัดการสำนักพิมพ์มติชน
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image