‘นิตยสารสารคดี’ ประกาศลดหน้า เหตุโฆษณาสิ่งพิมพ์หด ยืนหยัดเป็นนิตยสารกระดาษต่อไป

เมื่อวันที่ 5 เมษายน เว็บไซต์นิตยสารสารคดี เผยแพร่บทบรรณาธิการโดย สุวัฒน์ อัศวไชยชาญ บรรณาธิการบริหารนิตยสารสารคดี ซึ่งตีพิมพ์ใน สารคดี ฉบับที่ 385 มีนาคม 2560 โดยระบุว่านับแต่ฉบับนี้เป็นต้นไปนิตยสารสารคดีได้ลดหน้าลงจากเดิมราว 192 หน้า เหลือ 136-144 หน้า หายไปประมาณ 48-56 หน้า ซึ่งเป็นผลกระทบจากสถานการณ์ที่โฆษณาสื่อสิ่งพิมพ์หดหาย โดยตั้งใจให้กระทบผู้อ่านน้อยที่สุด โดยทางสารคดีไม่อาจแบกรับต้นทุนในขนาดรูปเล่มเดิมเพื่อจำหน่ายในราคาปกเดิม คือ 120 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ไม่เคยขึ้นมากว่า 10 ปี

โดยบทบรรณาธิการระบุไว้ดังนี้

คุณผู้อ่านที่รักครับ

นี่คงเป็นบทบรรณาธิการที่เขียนยากที่สุดครั้งหนึ่งในระยะเวลา ๖ ปีที่ผมมารับหน้าที่บรรณาธิการบริหาร

Advertisement

ขณะที่นิตยสารสารคดี ฉบับนี้อยู่ในมือคุณผู้อ่าน ทุกท่านคงรับรู้ได้ทันทีว่าเล่มบางลงกว่าปรกติ

และเป็นเช่นนั้นจริง แต่ไม่ใช่เพราะเราพิมพ์หน้าหาย

ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาเราจัดพิมพ์โดยมีจำนวนหน้าเฉลี่ยอยู่ที่ราว ๑๙๒ หน้า แต่ตั้งแต่ฉบับนี้ และฉบับต่อ ๆ ไป นิตยสารสารคดี จำต้องลดจำนวนหน้าลงเหลือราว ๑๓๖-๑๔๔ หน้า หายไป ๔๘-๕๖ หน้า

Advertisement

เพราะไตร่ตรองแล้วว่านี่เป็นวิธีเดียวที่จะยืดอายุนิตยสารสารคดี ให้จัดพิมพ์ต่อไปได้ภายใต้สถานการณ์ที่โฆษณาในสื่อสิ่งพิมพ์หดหาย…โดยส่งผลกระทบต่อคุณผู้อ่านน้อยที่สุด

คำอธิบายที่อยากขอแบ่งปัน คือความจริงที่ว่าตลอดหลายสิบปีของวงการนิตยสารเมืองไทย นิตยสารส่วนใหญ่ล้วนมีสัดส่วนรายได้สำคัญมาจากค่าโฆษณา และเป็นรายได้ซึ่งทำให้นิตยสารเกือบทุกเล่มสามารถตั้งราคาปกต่ำกว่าราคาจริงที่คิดตามต้นทุนบวกกำไร เพราะรายได้จากโฆษณาได้เข้ามาแบกรับต้นทุน และสำหรับหลายเล่มคือรายได้ส่วนที่สร้างกำไร

โดยทั่วไปนิตยสารสี่สี หนาเกือบ ๒๐๐ หน้า กระดาษอาร์ตเกือบครึ่งเล่ม แค่ต้นทุนค่าพิมพ์ ค่ากระดาษ ค่ากองบรรณาธิการ หากไม่มีรายได้จากโฆษณา คำนวณราคาปกที่ต้องตั้งขายแก่ผู้อ่านอาจพุ่งไปถึง ๓๐๐ บาทหรือมากกว่านั้น  เมื่อรายได้จากโฆษณาหนีหาย ข่าวนิตยสารชื่อดังหลายเล่มปิดตัวลงจึงตามมาเป็นดอกเห็ด

เพราะเจ้าของธุรกิจไม่อาจแบกรับความขาดทุนไหว หรือหากคิดจะขึ้นราคาปก คำถามตัวโต ๆ คือจะมีคนยอมซื้อไหม

สำหรับนิตยสารสารคดี หากคุณผู้อ่านสังเกตในฉบับปีที่ผ่านมาก็จะเห็นหน้าโฆษณาที่เหลืออยู่น้อยนิด

ยอมรับตรง ๆ ในปีที่ผ่านมารายได้จากโฆษณาของนิตยสารสารคดีลดลงมาถึงจุดวิกฤตต่อการก้าวเดินขึ้นปีที่ ๓๓  กล่าวคือเราไม่อาจแบกรับต้นทุนในขนาดรูปเล่มเดิม เพื่อจำหน่ายตามราคาปกเดิม ๑๒๐ บาท ซึ่งเป็นราคาปกที่ไม่เคยขึ้นมากว่า ๑๐ ปี

ขณะที่เมื่อเทียบกับสินค้าและบริการอื่นทุกอย่างล้วนปรับราคาขึ้นกันไปหมดแล้วจากเมื่อ ๑๐ ปีก่อน

ถึงกระนั้นเมื่อต้องตัดสินใจเลือก ระหว่างการขึ้นราคาปกใหม่จากต้นทุนเดิม กับการลดต้นทุนลงคงราคาปก ด้วยการลดจำนวนหน้ากระดาษ สารคดีพิจารณาแล้วว่าวิธีหลังน่าจะเป็นทางเลือกที่สมเหตุผล  หนึ่ง ขอไม่ผลักภาระราคาให้ผู้อ่าน  สอง เลือกลดจำนวนหน้าส่วนหนึ่งเพื่อรักษาส่วนใหญ่ หมายถึงคุณผู้อ่านจะยังได้รับเนื้อหาสาระหลักที่เข้มข้นประจำฉบับตามสูตรของสารคดีที่ทำมากว่า ๓๐ ปี แม้จะมีจำนวนหน้าบางลงก็ตาม

ไม่ว่าการตัดสินใจนี้จะสมเหตุผลแค่ไหน ผมต้องขออภัยสมาชิกทุกท่านที่ได้สนับสนุนเรามาตลอด และคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามเรามาอย่างใกล้ชิด จากความเปลี่ยนแปลงที่อาจกระทบความรู้สึกของท่านไว้ ณ ที่นี้

สุดท้าย กับสถานการณ์ของสื่อสิ่งพิมพ์ที่คาดว่าจะรุนแรงยิ่งขึ้นอีก ผมขอเรียนเชิญคุณผู้อ่านที่รักทุกท่านสมัครสมาชิกรายปี เพื่อสนับสนุนให้เราก้าวเดินต่อไปด้วยความมั่นใจ โดยท่านจะได้รับนิตยสาร “๘๙ เรื่องราวพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙” เป็นของกำนัลสุดพิเศษ

ขอรับรองว่า สารคดี จะยืนหยัดเป็นนิตยสารกระดาษสำหรับคนรักการอ่านจนกว่าจะไม่เหลือคนอ่านอยู่เลยจริงๆ

สุวัฒน์ อัศวไชยชาญ
บรรณาธิการบริหารนิตยสารสารคดี
[email protected]

ตีพิมพ์ใน สารคดี ฉบับที่ 385 มีนาคม 2560

ที่มา จากบรรณาธิการ สารคดี ฉบับที่ 385 – หน้าหาย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image