คอลัมน์เดินไปในเงาฝัน : สตรีทอาร์ต ณ บูธมติชน

ผ่านมา 3-4 วัน แฟนคลับสำนักพิมพ์มติชนส่งเสียงเจื้อยแจ้วผ่านมาให้ได้ยินว่างานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 46 บูธสำนักพิมพ์มติชนจ๊าบมาก

ผมจึงถามกลับไปว่า…จ๊าบอย่างไร ?

พวกเขาบอกว่า…ออกแบบบูธสวยมาก แถมของที่ระลึกอะไรต่างๆ ยังออกแบบไปในคอนเซ็ปต์เดียวกันทั้งหมด เห็นแล้วอยากได้

อยากมีเก็บไว้เป็นของตัวเอง

Advertisement

ผมได้แต่อมยิ้ม

เพราะไม่รู้จะตอบอะไรมากไปกว่านี้…เพราะยังไม่เห็น ยังไม่ได้ไปงานเสียที

ที่สุดความอยากรู้อยากเห็นของผม จึงต้องไปรบกวนฝ่ายประชาสัมพันธ์ของสำนักพิมพ์มติชนให้ช่วยส่งข้อมูลการออกแบบบูธมาให้ดูหน่อย

Advertisement

พอเห็นแล้ว ก็เชื่ออย่างที่พวกเขาบอกทันที

เพราะจ๊าบจริงๆ

เนื่องจากการออบแบบบูธสำนักพิมพ์มติชนครั้งนี้ มีการจับมือกับ อเล็กซ์-พัชรพล แตงรื่น ศิลปินสตรีทอาร์ต ระดับโลก ด้วยการสร้างตัวละครหนูน้อยนักอ่านคนหนึ่งขึ้นมาเป็นตัวชูโรง

หนูน้อยคนนี้ชื่อ มาร์ดี

ลักษณะพิเศษคือเธอมี 3 ตา แถมสีของตาแต่ละดวงยังไม่เหมือนกันอีก ข้างขวาสีแดง ข้างซ้ายสีน้ำเงิน ส่วนตาที่ 3 สีน้ำตาล

สีน้ำตาลอันแสดงความหมายถึงดวงตาแห่งจินตนาการ

ทั้งนั้น เพื่ออยากเชิญชวนเหล่าบรรดาหนอนหนังสือของสำนักพิมพ์มติชนมาร่วมค้นหาจินตนาการแห่งการอ่าน ตลอดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ที่มีขึ้นระหว่างวันที่ 29 มีนาคม-8 เมษายน 2561 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ถึงวันนี้ผ่านมา 3-4 วันแล้ว

ผมทราบข่าวว่าแฟนคลับสำนักพิมพ์มติชนเยอะมากๆ ไม่รู้เป็นเพราะอยากไปถ่ายรูปกับบูธสตรีทอาร์ตที่มีความยาว 27 เมตร สูง 7 เมตร

หรือว่าอยากถ่ายรูปกับหนูน้อยดีมาร์

เพราะหนูน้อยดีมาร์มีลักษณะพิเศษอย่างหนึ่งคือหน้าบึ้ง ถามว่าทำไมเธอถึงหน้าบึ้ง? คำตอบของ อเล็กซ์Ž คือผมต้องการสื่อถึงความครุ่นคิด การตั้งคำถาม เพื่อค้นหาคำตอบให้กับตัวเอง

อันเป็นคำตอบของคนที่มางานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ที่มักจะมาตามหาหนังสืออ่าน บนความสงสัยของตัวเอง เพื่ออยากค้นหาคำตอบว่าการอ่านช่วยทำให้เราเข้าใจอะไรบางอย่างจริงๆ หรือเปล่า

บางคนอาจจริง

บางคนอ่านเท่าไหร่ก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่อ่านนั้น ก่อประโยชน์อะไรกับตัวเองบ้าง

จนเมื่อเวลาผ่านไประดับหนึ่ง

จึงจะเข้าใจ

ก็เหมือนกับหนังสือต่างๆ ของสำนักพิมพ์มติชน โดยปีนี้มีหนังสือออกใหม่หลายเล่มด้วยกันคือ หากหัวใจไม่สามัญ ผู้เขียนคือ Orhan PamukŽ ส่วนผู้แปลคือ นพมาส แววหงส์Ž

กองเรือหาคู่ ผู้เขียนคือ Anne de Courcy ผู้แปลคือ สุภัตรา ภูมิประภาส, อย่าเรียกฉันว่านังแพศยา ผู้เขียนคือ Liu Zhenyun ผู้แปลคือ ศุณิษา เทพธารากุลการ

ร้าวรานในวารวัน ผู้เขียนคือ Amitav Ghosh ผู้แปลคือ ธีรศักดิ์ จิรรัตน์ไพโรจน์, เดอะ ก๊อดฟาเธอร์ ผู้เขียนคือ มาริโอ พูโซ ส่วนผู้แปลคือ ธนิต ธรรมสุคติ

นอกจากนั้น ยังมีหนังสือชุดประวัติศาสตร์ออกใหม่อีกหลายเล่มด้วยกันคือ อยากลืมกลับจำ สารคดีชีวประวัติลูกสาวจอมพล ป. พิบูลสงคราม โดยมีทีมคณาจารย์ทางด้านประวัติศาสตร์ร่วมกันเขียนทั้งหมด 3 คนด้วยกันคือ ภูริ ฟูวงศ์เจริญ, ศรัญญู เทพสงเคราะห์ และณัฐพล ใจจริง

พระราชวงศ์จักรี สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 (สิ่งที่ข้าพเจ้าพบเห็น สมัยรัชกาลที่ 6) ผู้เขียนคือ ม.จ.พูนพิศมัย ดิศกุล, ราชสำนักรัชกาลที่ 6 ผู้เขียนคือ วรชาติ มีชูบท, อยุธยาในย่านกรุงเทพฯ ผู้เขียนคือ ผศ.ดร.ประภัสสร์ ชูวิเชียร และอีกหลากเล่ม

ที่ล้วนคุณภาพคับแก้วทั้งสิ้น

ฉะนั้น หากใครไปงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติปีนี้ และมีโอกาสซื้อหนังสือต่างๆ ที่มีมูลค่าตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไปจนถึง 3,500 บาท ทุกคนจะได้รับของที่ระลึกประกอบด้วยซองผ้าใส่หนังสือ, ถุงใส่หนังสือ, ผ้ากันเปื้อน, ร่มกันแดด-ฝน และกระเป๋าเดินทาง

ที่ล้วนแต่มีรูปของหนูหน้อยดีมาร์อยู่บนของที่ระลึกเหล่านั้นด้วย

อย่าลืมเก็บไว้ให้ดีนะครับ

เพราะของที่ระลึกเหล่านี้ปีนึงมีครั้งเดียว

แถมยังเป็นของพรีเมียมอีกด้วย

สำคัญไปกว่านั้น ภายในบูธสำนักพิมพ์มติชนตลอดงานทั้งหมด 11 วัน ยังมีนักเขียนมีชื่อเสียงหลากหลายคนมาร่วมแจกลายเซ็นด้วย

ตั้งแต่บ่ายๆ จนจรดค่ำ

ดังนั้น ใครที่ชื่นชอบนักเขียนคนไหน ตรงไปที่มุมนักเขียนแจกลายเซ็น รับรองคุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน นอกจากนั้น บนเวทีเอเทรียมยังมีการเสวนาอีกบางส่วน เฉพาะ วันอังคารที่ 3 เมษายน 2561 ระหว่างเวลา 12.00-13.00 น. เสวนา เปิดบันทึกประวัติศาสตร์ สิ่งที่ข้าพเจ้าพบเห็นสมัยรัชกาลที่ 6 โดยมี วรชาติ มีชูบทŽ ร่วมพูดคุย

ส่วนระหว่างเวลา 19.00-20.00 น. มีการเสวนาเรื่อง Japan Inside ทั้งร้ายทั้งรักŽ โดยมี เกตุวดี MarumuraŽ และ บูม-ภัทรพล เหลือบุญชูŽ มาร่วมพูดคุย

จึงมิควรพลาดอย่างยิ่ง

ยิ่งเฉพาะคอหนังสือประวัติศาสตร์สมัยรัชกาลที่ 6 มิควรพลาดด้วยประการใดๆ ทั้งปวง เพราะอย่างที่ทราบหนังสือเรื่องพระราชวงศ์จักรี สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 (สิ่งที่ข้าพเจ้าพบเห็น สมัยรัชกาลที่ 6) เป็นหนังสือที่น่าอ่านมาก

เพราะนอกจากผู้เขียน ม.จ.พูนพิศมัย ดิศกุลŽ จะเป็นพระอนุวงศ์ฝ่ายในเพียงพระองค์เดียวที่มีโอกาสถวายงานรับใช้รัชกาลที่ 6 อย่างใกล้ชิด นับตั้งแต่เสวยราชสมบัติจนเสด็จสวรรคต

ยังมีส่วนสำคัญต่อการรู้เห็นความเป็นไปในราชสำนักมากมาย

บางเรื่องลึก บางเรื่องลับ

ทว่าอยู่ในหนังสือเล่มนี้ทั้งหมดแล้ว

ลองไปหาอ่านดูนะครับ

แล้วเจอกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image