เปิดใจ ‘ศานนท์’ รองผู้ว่าฯ วัย 33 รับ ‘กดดัน’ แต่พร้อมลุยงานในวันที่คนรุ่นใหม่อยากย้ายประเทศ

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับทีมงานที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพีของ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

หนึ่งในคณะทำงานที่ได้รับความสนใจอย่างมาก คือ ศานนท์ หวังสร้างบุญ 1 ใน 4 รองผู้ว่าฯ ด้วยวัยเพียง 33 ปี นับเป็นคนรุ่นใหม่ที่น่าจับตา

แม้อายุยังน้อย ทว่าโปรไฟล์เข้มข้น ต่อสู้เพื่อชุมชน คนจนเมือง เคียงข้างประชาชนรากหญ้าที่ประสบชะตากรรมจากแนวนโยบายภาครัฐ อาทิ ‘ชุมชนป้อมมหากาฬ’ ซึ่งถูกไล่รื้อเมื่อ 4 ปีก่อน เพื่อสร้างสวนสาธารณะ

ช่วงเที่ยงกว่าๆ ของวันที่ 1 มิถุนายน ศานนท์ ปรากฏตัวในสูทสีเข้ม เคียงข้างชัชชาติในร้านข้าวแกงตรงข้ามวัดเทพธิดาราม ข้างร้านข้าวต้มเป็ดประตูผี ก่อนพากันเดินเท้ามุ่งหน้าศาลาว่าการ กทม. เสาชิงช้า ระหว่างนั้น ผู้ว่าฯกทม.กล่าวแนะนำศานนท์ต่อคนที่สอบถาม โดยกล่าวติดตลกในช่วงหนึ่งว่า

ADVERTISMENT

“มีอะไรก็ด่าคนนี้นะ ไม่ต้องด่าผม เพราะยังเป็นคนรุ่นใหม่ รับคำติชมได้เยอะ”

ศานนท์ ยิ้มรับ ครั้นเมื่อถูกยิงคำถามว่า พร้อมไหม ?

ADVERTISMENT

เจ้าตัวตอบสั้นๆ ทว่าหนักแน่น พยางค์เดียว “พร้อม” และ “เต็มที่ครับ”

ย้อนกลับไปในค่ำคืนวันที่ 31 พฤษภาคม ก่อนวันเปิดตัว ศานนท์เปิดใจกับ ‘มติชน’ ยอมรับว่า

‘กดดัน’  แต่ก็พร้อมทำงานอย่างเต็มความสามารถ หวัง ‘เปิดพื้นที่ของคนรุ่นใหม่’ ในวันที่ผู้คน ‘อยากย้ายประเทศ’

“กดดันครับ แต่ไม่มีเวลาไหนที่ดีกว่านี้อีกแล้ว ผมอยากเปิดพื้นที่ของคนรุ่นใหม่ ในช่วงเวลาที่คนรุ่นใหม่อยากย้ายประเทศ”

อย่างไรก็ตาม คงไม่ใช่เพียงเหตุผลที่เจ้าตัวคือคนรุ่นใหม่โปรไฟล์แน่น แต่ยังเป็น ‘พ่อ’ ของลูกน้อยวัยน่ารักที่เพิ่งยกครอบครัวไปเยี่ยมชมสวนสัตว์ในวันหยุด ลูกน้อยที่ต้องเติบโตเป็นพลเมืองไทยในวันพรุ่งนี้

ศานนท์ หวังในสิ่งที่ดีกว่า ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อคนกรุงเทพฯและคนไทย

รู้จักกรุงเทพฯ เป็นอย่างดี คุ้นเคยพื้นที่รอบศาลาว่าการฯเสาชิงช้าแบบทุกซอกทุกมุม แวะคุยชาวบ้านได้แทบทุกร้านรวงรอบด้านในย่านประตูผี เพราะเป็นผู้ก่อตั้งกิจการ Once Again Hostel เยื้องกำแพงวัดเทพธิดาราม

บุคลิกเป็นคนอัธยาศัยดี สุขุม อ่อนโยน และรับฟัง 

ศานนท์ กับแผนภาพบนกำแพงป้อมมหากาฬ ครั้งร่วมเคียงข้างชุมชนที่กำลังถูกไล่รื้อ

เส้นทางชีวิต จบการศึกษาจากภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยเป็นอดีตนายกสโมสรนิสิต พ.ศ.2553 เคยเป็นวิศวกรประจำภายในโรงงานราว 5 ปี ก่อนก่อตั้ง Once Again Hostel ในย่านประตูผี ด้วยความสนใจเรื่องการท่องเที่ยวชุมชน มาสู่การชนะเลิศ One Young World ปี 2558

หลังจากเริ่มก่อตั้งโฮสเทลดังกล่าวราว 6 เดือน เริ่มมีประเด็นการกลับมาไล่รื้อชุมชนป้อมมหากาฬที่ต่อสู้กับภาครัฐมานานกว่า 2 ทศวรรษ ศานนท์ร่วมเคียงข้างชุมชน ทั้งยังผลักดัน ‘มหากาฬโมเดล’

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2559 ศานนท์ให้สัมภาษณ์ ‘มติชน’ เกี่ยวกับความพยายามผลักดัน ‘มหากาฬโมเดล’ เปลี่ยนแปลงป้อมมหากาฬให้เป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิต โดยกล่าวว่า ไม่ได้ปฏิเสธที่จะให้ กทม.เข้ามาพัฒนาพื้นที่อยู่แล้ว ถ้าเข้าไปเห็นชุมชน ทุกคนจะเห็นในสิ่งเดียวกันว่ามีศักยภาพ แม้ว่าจะไม่ถึงขนาดที่เป็นสถานที่ดีเลิศแก่การเยี่ยมชม ดังนั้น การที่ กทม.จะปรับปรุงพื้นที่ เราไม่เคยปฏิเสธเลย แต่การที่เข้ามาไล่และรื้อบ้านคนทั้งหมดออก มันเป็นวิธีที่พวกผมรู้สึกเสียดาย เสียดายโอกาสในการสร้าง คือเหมือนว่าเรามีของดีอยู่ในมือ ทำไมเราจึงต้องทำลายมันลงไปเพื่อสร้างอะไรไม่รู้ขึ้นมาใหม่

ศานนท์ (คนที่ 3 จากซ้าย) ขณะร่วมถกปัญหาแก้ปม ‘ชุมชนป้อมมหากาฬ’ ในยุคพลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม.จากการแต่งตั้งของ คสช.

“สิ่งที่เราพยายามพูดกันอยู่เราไม่ได้ช่วยให้คนผิดเป็นถูก เรากำลังบอกให้ทุกคนเคารพกฎหมายเหมือนเดิม แต่ในขณะที่เราเคารพกฎหมาย เราพยายามสร้างสิ่งที่มันดีให้กับทุกคนได้หรือไม่ ดีกับทุกคนหมายถึง 1.เราต้องมองไปที่ศักยภาพของพื้นที่ก่อนที่จะฟันธงว่าพื้นที่นี้ควรที่จะเป็นอะไร ปัจจุบันเราฟันธงมันไปแล้วว่ามันต้องเป็นสวนสาธารณะ แต่คำถามคือ คุณเคยเห็นหรือไม่ว่ามันมีบ้านไม้โบราณกี่หลัง แต่ละหลังมีศักยภาพอย่างไร รวมไปถึงเสน่ห์อะไรในพื้นที่ที่ควรดำรงเอาไว้ 2.ศักยภาพของบุคคล ชุมชน ที่สามารถเป็นคนบอกเล่าเรื่องราวของประวัติศาสตร์และสามารถทำงานให้กับรัฐได้” ศานนท์กล่าวในวันนั้นก่อนนั่งเก้าอี้ ‘รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร’ ในวันนี้

ศานนท์ ร่วมวงเสวนาที่สวนสันติชัยปราการ (ป้อมพระสุเมรุ) กับตัวแทนชุมชนในกรุงเทพฯ

ไม่เพียงเท่านั้น ศานนท์ยังมีประสบการณ์ร่วมพัฒนาเมืองในฐานะภาคประชาสังคม ไม่ว่าจะเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง SATARANA (สาธารณะ) เครือข่ายภาคประชาสังคมที่ทำงานเรื่องการพัฒนาเมือง และเป็นหนึ่งในทีมกลุ่มเมล์เดย์ (Mayday) ผู้ออกแบบปรับปรุงป้ายหยุดรถเมล์รูปแบบใหม่ ทั้งยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่ม Trawell และ Luk Hostel ย่านเยาวราช และ Locall.bkk แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ร้านอาหารบริเวณ 3 ย่าน เสาชิงช้า-ประตูผี ย่านเยาวราช ย่านนางลิ้นจี่

ปี 2562 ได้รับรางวัล JUMC STAR 2019 Excellence โดยสมาคมนิสิตเก่าเอ็มบีเอ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ ร่วมกับคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นโครงการด้านวิชาการเพื่อมอบรางวัลให้แก่ผู้ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและธุรกิจประเทศในด้านต่างๆ

ขณะทำกิจกรรมในโครงการ ‘ฟื้นคูพระนคร’

นับเป็นรองผู้ว่าฯ คนใหม่ที่ได้ใจชาวชุมชน คนจนเมือง ไปจนถึงชนชั้นกลางที่ใส่ใจปัญหาสังคม สิ่งแวดล้อม และช่วงเวลานับจากนี้ไป จะกลายเป็นบทพิสูจน์ถึงศักยภาพคนรุ่นใหม่ในทีมชัชชาติที่ชาวบ้านตะโกนรับหน้าศาลาว่าการ กทม.ว่า

“รอมานานแล้ว ผู้ว่าฯในดวงใจ”

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image