เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2561 ความคืบหน้าคดีร้ายก่อนเหตุใช้ขวดเหล้าขาวตีหน้าหญิงสาววัย 16 ปี แล้วลากไปข่มขืนที่ท่อระบายน้ำใต้สะพานนเรศวร อ.เมือง จ.พิษณุโลก ต่อมาคนหาปลามาช่วยเหลือ แต่คนร้าย ทราบชื่อภายหลัง “ไอ้หมึก” หลบหนีไปตามท่อระบายน้ำ ใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ประปาเทศบาลนครพิษณุโลกร่วมกันตามล่าตัว ล่าสุด จับกุมตัวได้แล้วเมื่อเวลา 03.00น. ที่ผ่านมา
สำหรับคดีนี้เกิดขึ้น เมื่อเวลา 20.30น. วันที่ 16 มิถุนายน 2561 โดย ร.ต.อ.สาลี ดวงอุประ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายข่มขืนหญิงสาว และมีพลเมืองดี ช่วยเหลือ ที่บริเวณใต้สะพานลอยนเรศวร หน้าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร จึงรุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ใพบ นายสัญญา หล่อเนาวรัตน์ อายุ 30 ปี และภรรยา กำลังช่วยเหลือ น.ส.เอ (นามสมมุติ)ที่ถูกคนร้ายข่มขืน บริเวณปากท่อระบายน้ำ ซึ่งน.ส.เอ มีสภาพศีรษะแตก และ ฟันหัก เนื่องจากถูกของแข็งตีใบหน้าจนได้รับบาดเจ็บ
จากการสอบสวนเบื้องต้น นางสาวเอ (นามสมมุติ) ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ มานั่งเล่นบริเวณริมน้ำหน้าวัดใหญ่ จากนั้นมีคนร้ายเป็นชาย ทราบชื่อภายหลัง คือ นายสมชาย เย็นจิตร หรือ หมึก อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41/6 หมู่ที่ 3 ต.ป่าเซา อ.เมืองอุตรดิตถ์ จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งกำลังเมามาย มาพูดหลอกล่อตนเอง และพยายามข่มขืน แต่ตนเดินหนีมาบริเวณใต้สะพาน จากนั้นถูกนายหมึกทำร้ายร โดยใช้ขวดเหล้าขาวตีที่ศีรษะตนเองได้รับบาดเจ็บ แล้วลากตนไปที่ท่อทะบายน้ำใต้สะพาน แล้วบีบคอไม่ให้พูด พร้อมถอดกางเกงเพื่อข่มขืน ขณะนี้ตนเห็นคนหาปลาผ่านมา จึงร้องข้อความช่วยเหลือ ทำให้นายหมึก ตกใจรีบวิ่งหนีเข้าไปในท่อระบายน้ำ
นายสัญญา คนหาปลา เล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนมาหาปลาตามปกติ เห็นชายหญิงกำลังมีเพศสัมพันธ์กันบริเวณปากท่อระบายน้ำ ตอนแรกคิดว่าเป็นสาวบริการ จากนั้นได้ยินเสียงผู้หญิงร้องขอให้ความช่วยเหลือ จึงส่องไฟพร้อมตะโกนว่ามีอะไรกัน ทำให้ผู้ชายวิ่งหนีเข้าไปในท่อระบายน้ำโดยไม่สวมกางเกง ตนจึงเข้าช่วยเหลือผู้หญิง โดยพบกางเกงของผู้ก่อเหตุ ภายในมีบัตรประจำตัวประชาชนด้วย จึงเก็บไว้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวน.ส. เอ ส่งโรงพยาบาลพุทธชินราชทันที ขณะที่แจ้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ อีก 1 ชุด ไปเฝ้าปากท่อระบายน้ำนานกว่า 30 นาที ระหว่างนั้นนายสมชายโผล่ออกมาจากท่อระบายน้ำเมื่อพบตำรวจ จึงวิ่งหลบหนีย้อนเข้าไปในท่อระบายน้ำอีกครั้ง
ต่อมา พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ ผบก.ภ.จว.จังหวัดพิษณุโลก เดินทางตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งหาตัวคนร้ายโดยเร็วที่สุด ก่อนประสานเจ้าหน้าที่ประปาเทศบาลนครพิษณุโลก นำเครื่องออกซิเจน เข้าไปดูนายสมชายตามท่อระบายน้ำตามทิศทางของท่อ ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง แต่ไม่พบ โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจเฝ้าปากท่อระบายน้ำ
กระทั่งเวลา 03.00น. วันที่ 17 มิถุนายน ร.ต.อ.วิรัตน์ โมสกุล รอง สวป.สภ.เมืองพิษณุโลก กับพวกรับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 พิษณุโลก ได้รับแจ้งว่ามีพลเมืองดีพบผู้ต้องสงสัยคาดวาเป็นคนร้ายวิ่งจากท็อปแลนด์พลาซ่าไปทางตึกร้างฝั่งตรงข้าม จึงไล่ติดตามเพื่อตรวจสอบ พบผู้ต้องสงสัยวิ่งลงไปในแม่น้ำน่านหน้าโรงเรียนเฉลิมขวัญสตรีก่อนว่ายน้ำข้ามฝั่งไปฝั่งตะวันตกด้านหน้าโรงแรมวังจันทร์ริเวอร์วิว จึงร่วมกันจับกุมตัว พบคือ นายสมชาย เย็นจิตร หรือ หมึก ผู้ต้องหาคดีข่มขืน น.ส.เอ (นามสมมติ) 
จากการสอบสวนนายสมชายให้การว่า ตั้งแต่เย็นตนดื่มสุราขาวมาแล้วมาพบ น.ส.เอนั่งอยู่คนเดียวบริเวณษริมตลิ่งหน้าวัดใหญ่ช่วงหัวค่ำ จึงขอซื้อบริการในราคา 150 บาทซึ่งน.ส.เอ(นามสมมติ)ตกลง จึงไปพาไปที่ปากท่อระบายน้ำ หลังมีเพศสัมพันธ์ตนไม่สำเร็จความใคร่ จึงขอเงินคืน แต่ น.ส.เอ ไม่ยินยอมจึงชกไป 3 ที น.ส.เอ จึงร้องให้คนช่วย ตนตกใจจึงหลบหนีไปตามท่อระบายน้ำ ก่อนไปขึ้นท่อเหล็กระบายน้ำบริเวณหน้าท็อปแลนด์พลาซ่า แล้ววิ่งข้ามมาทางตึกร้าง และ ถนนกลางโรงเรียนเฉลิมขวัญสตรีแล้วลงแม่น้ำน่าน เพื่อว่ายข้ามฝั่งแต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ดังกล่าว
เบื้องต้น ตำรวจยังไม่เชื่อคำให้การ เพราะนายสมชายเคยมีประวัติถูกจับกุมในคดีข่มขืนเด็กอายุ 13 ปี ที่อุตรดิตถ์ แล้วถูกส่งตัวมาจำคุกที่เรือนจำกลางพิษณุโลกเมื่อปี 2551 ก่อพ้นโทษออกมาเมื่อปี 2556 จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
