เร่งระดม!!บุกถ้ำค้นหาชายต่างชาติ ยังไร้เงาเข้าไปนั่งสมาธิตั้งแต่12สิงหา(คลิป)

คืบหน้ากรณีเกิดเหตุมีผู้พบเห็นนักท่องเที่ยวชาย 1 คน คาดว่าเป็นชาวจีนหรือญี่ปุ่นอายุระหว่าง 50-60 ปี ได้หายเข้าไปในถ้ำทรายทองซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหลายถ้ำในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ม.9 ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมาโดยแจ้งกับชาวบ้านที่อยู่บริเวณปากถ้ำว่าจะเข้าไปนั่งสมาธิราว 2-3 วันแต่เมื่อผ่านไป 1 สัปดาห์กว่าก็ยังไม่ออกจากถ้ำทำให้ชาวบ้านแจ้งเจ้าหน้าที่ร่วมกันค้นหาแต่ยังไม่พบตัวจนถึงปัจจุบันนั้น ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ยังคงระดมกำลังกันเข้าไปค้นหาภายในถ้ำเป็นวันที่ 2 โดยมีการจัดเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครจากหน่วยงานต่างๆ เข้าไปค้นหาภายในถ้ำเป็นชุดๆ ซึ่งการค้นหาเริ่มยากลำบากเนื่องจากเป็นถ้ำที่มีลำธารไหลออกมาคู่กับทางเดินและหินงอกหินย้อยภายในถ้ำโดยระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะเป็นฤดูฝน

ทาง พ.ต.อ.ทรงกฤช ออนตระไคร้ ผกก.สภ.แม่สาย พ.ต.ท.ฉันทฤทธิ์ เหล่าไพโรจน์จารี สารวัตรตำรวจท่องเที่ยว 2 กก.4 บก.ตำรวจท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่อุทยาน ฝ่ายปกครอง อ.แม่สาย และอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ได้ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปสอบถามข้อมูลชาวบ้านพร้อมตรวจสอบร่วมกับฝ่ายต่างๆ ตลอดทั้งวัน โดยในช่วงเช้าทางเจ้าหน้าที่ได้จัดชุด อปพร.ประมาณ 20 คน เริ่มเข้าไปสำรวจก่อนเป็นชุดแรกหลังจากเมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมาได้เข้าไปสำรวจได้ลึกประมาณ 2 กิโลเมตรแล้วพบว่าภายในถ้ำมืดสนิทและน้ำในลำธารยังคงมีระดับสูงขึ้นรวมทั้งสภาพอากาศภายในชื้นด้วยหยดย้ำที่เกาะตามผนัง เจ้าหน้าที่ต้องใช้ไฟส่องสว่างหลังจากเข้าสู่ปากถ้ำเพียงเล็กน้อย

น.ส.ภาวิณี มาเยอะ ชาวบ้าน ม.9 ซึ่งเป็นคนสุดท้ายที่ได้พูดคุยกับชายนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวกล่าวว่านักท่องเที่ยวคนดังกล่าวไม่ได้แจ้งว่าเป็นคนสัญชาติใดแต่รูปพรรณสันฐานคล้ายชาวญี่ปุ่นแต่ก็ใกล้เคียงกับคนจีน สวมเสื้อยืดแขนยาวและกางเกงขายาวโดยจำสีเสื้อและกางเกงไม่ได้ โดยก่อนจะเข้าไปชายคนดังกล่าวได้ขอฝากรถจักรยานที่ปั่นไปให้ช่วยดูจากนั้นได้แบกกระเป๋าเป้สีดำใส่หลังคาดว่าเป็นเสบียงและนำน้ำดื่มอีก 1 แกลลอนใหญ่เข้าไปด้วยเพราะบอกว่าจะต้องอยู่หลายวัน จากนั้นก็ยืนยันว่าไม่เคยพบเห็นชายคนดังกล่าวออกจากถ้ำมาอีกเลย

Advertisement

ในช่วงเช้าชุดสำรวจจาก อปพร.ชุดแรกได้เดินเข้าไปสำรวจได้ลึกประมาณ 1 กิโลเมตร ได้พบทางแยกซ้ายภายในถ้ำซึ่งตามปกติจะมีห้องโถงใหญ่อยู่โดยเรียกกันว่า “ลานพระ” เพราะจะเป็นห้องโถงที่มีองค์พระพุทธรูปอยู่บนเนินเบื้องหน้าที่เหมาะกับการนั่งพักสำหรับผู้ที่เข้าไปในถ้ำลึกหรือเข้าไปกราบไหว้พระพุทธรูป ที่ผ่านมาชาวบ้านหรือนักท่องเที่ยวที่เข้าไปจะแวะไหว้อยู่เสมอ แต่ปรากฎว่าจุดดังกล่าวได้ถูกน้ำจากลำธารเข้าท่วมหมดเพราะอยู่ต่ำจากทางเดินโดยเหลือช่องว่างระหว่างผิวน้ำกับเพดานด้านบนห้องโถงเพียงแค่ประมาณ 1 คืบ ส่วนด้านหน้าทางลงห้องโถงพบมีร่องรอยการเดินลงไปอยู่ด้วย ทั้งนี้ชุดค้นหาจะเข้าไปค้นหาต่อไป

ด้านชาวบ้านที่ชำนาญเส้นทางภายในถ้ำระบุว่าถ้ำดังกล่าวเป็นถ้ำลึกที่เชื่อมต่อไปถึงถ้ำอีกหลายแห่ง โดยบริเวณปากถ้ำก็มีถ้ำอื่นๆ เรียงรายอยู่เต็มจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแต่กรณีของถ้ำทรายทองจะมีความกว้างใหญ่และมีลำธารไหลผ่านออกมาด้วย ทั้งนี้ชาวบ้านที่เคยเข้าไปสำรวจแจ้งว่าถ้ำนี้สามารถเดินทะลุไปถึงชายแดนไทย-เมียนมา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image