ถือว่าเป็นค่ายรถยนต์น้องใหม่มาแรง สำหรับค่าย เอ็มจี ของกลุ่มซีพีผนึกกับยักษ์ใหญ่อย่าง เซี่ยงไฮ้ ออโต
ด้วยความพร้อมทางด้านกำลังทุนและความเชี่ยวชาญของยักษ์ใหญ่จากจีน ส่งผลให้เอ็มจีตั้งราคารถยนต์ได้น่าสนใจ แถมอัดของแจกของแถมอย่างเต็มที่ ทำให้สร้างยอดขายได้ทะลุทะลวง
ล่าสุดเอ็มจีปล่อยหมัดเด็ดอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว MG3 รุ่นไมเนอร์เชนจ์ แต่ไม่ใช่ไมเนอร์เชนจ์ธรรมดา แต่เป็น “บิ๊กไมเนอร์เชนจ์”
MG3 เป็นรถยนต์ 5 ประตู หรือแฮตช์แบ๊ก หลากสีสันสดใส รุ่นที่แล้วมียอดขายถึง 17,000 คัน
การปรับโฉมครั้งนี้เน้นการออกแบบโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ภายใต้แนวคิด บริท ไดนามิค (BRIT DYNAMIC) ทั้งสมรรถนะ การควบคุม การออกแบบ และความปลอดภัย เพื่อให้ขับสนุกยิ่งขึ้น
กระจังหน้าใหม่โดดเด่นขึ้น พร้อมไฟหน้าแบบโปรเจ็กเตอร์ (Projector Headlamp) เติมความสดใสด้วยสีสันแนว บริท ดูโอ้ คัลเลอร์ สไตลิ่ง (Brit Duo Colour Styling) หลังคาซันรูฟ (Sunroof) แบบปรับไฟฟ้า ไฟท้ายแบบแอลอีดี ไลต์ไกด์ (LED Light Guide)
ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ แบบไบ-คัลเลอร์ ขนาด 16 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารออกแบบให้ดูหรูหราสปอร์ต เบาะโดยสารลายโมเดิร์นกราฟิก เบาะที่นั่งหลังสามารถปรับพับแยกส่วนในการเก็บสัมภาระแบบ 60:40
เครื่องยนต์เบนซินแบบ DOHC VTi-TECH ขนาด 1.5 ลิตร ให้พละกำลัง 112 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที ระบบเกียร์อัตโนมัติใหม่
ระบบความปลอดภัยเหมือนกับรถยนต์เอ็มจี รุ่นอื่นๆ ระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย USD (Ultimate Stiffness Design) พร้อมถุงลมนิรภัยคู่หน้า
ระบบซิงโครไนซ์ โพรเทคชั่น ซิสเต็ม (SYNCHRONIZE PROTECTION SYSTEM) 8 ฟังก์ชั่น ทำงานประสานกันเป็นหนึ่งเดียว ประกอบด้วยระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS (Anti-Lock Braking System) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake Force Distribution) ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist) ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
เข้าโค้งอย่างมั่นใจด้วยระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System) ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System) และระบบป้องกันการลื่นไถล เมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน MSR (Motor Control Slide Retainer)
นอกจากนี้ระบบการเชื่อมต่ออัจฉริยะ ไอ-สมาร์ท (i-SMART) มาพร้อมกับการอัพเดตฟังก์ชั่นใหม่บนแผนที่นำทาง สามารถแนะนำร้านอาหาร และที่พัก
เพิ่มความสนุกอีกขั้นกับเสียงเพลงจากศิลปินค่ายต่างๆ ผ่านระบบออนไลน์ รองรับการแสดงผลผ่านหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อไร้สายผ่านบลูทูธ พร้อมช่องเชื่อมต่อยูเอสบี (USB) และยังสามารถรวบรวมข้อมูลที่มีความสำคัญและแจ้งต่อผู้ขับได้ตลอดเวลา เช่น ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง สภาพการทำงานของแบตเตอรี่ ถุงลมนิรภัย และสถานะประตู ผ่านสมาร์ทโฟน พร้อมกับช่วยบอกตำแหน่งรถยนต์และแจ้งเตือนการสตาร์ตเครื่องผิดปกติอาจเกิดจากการโจรกรรม
ยังมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบาย ทั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แผงคอนโซลโมเดิร์นกราฟิก พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ต ควบคุมเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ด้วยปลายนิ้วสัมผัส มาพร้อมกับกุญแจรีโมต
MG3 มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีเหลือง ทิวดอร์ เยลโล่ (Tudor Yellow) สีแดง รูบี้ เรด (Ruby Red) สีฟ้า มารีนา บลู (Marina Blue) สีขาว อาร์กติก ไวท์ (Arctic White) และสีดำ แบล๊ก ไนท์ (Black Knight)
ลูกค้าที่ซื้อ MG3 จะได้รับแพคเกจใช้งานระบบอัจฉริยะไอ-สมาร์ท ฟรี เป็นเวลา 5 ปี และได้รับบริการแพสชั่น เซอร์วิส (Passion Service) รับประกันคุณภาพนาน 4 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง (Roadside Assistance) และการให้คำแนะนำผ่านศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ 1267 (MG Call Centre 1267) รวมไปถึงบริการเช็กระยะนอกสถานที่ (Mobile Services)
สำหรับราคา MG3 เอ็มจี 3 รุ่น C ราคา 519,000 บาท รุ่น D ราคา 549,000 บาท รุ่น X ซันรูฟ ราคา 589,000 บาท และรุ่น V ซันรูฟ ราคา 629,000 บาท
เอ็มจีหมายมั่นปั้นมือว่า ในปีนี้จะกวาดยอดขาย MG 3 ให้ได้ 10,000 คัน
เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหา เพราะเห็นราคาแบบนี้แล้ว ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย
ที่สำคัญระดับซีพีแล้ว ถ้าไม่เจ๋งจริง คงไม่กระโดดเข้ามาสู่ธุรกิจรถยนต์ให้เสียชื่ออย่างแน่นอน
