สมหมาย ปาริจฉัตต์: สามมิตร ปรองดอง

แกนนำกลุ่มสามมิตรเดินสายพบปะอดีต ส.ส. วุฒิสมาชิก แกนนำกลุ่มพลังการเมืองหลากสี หลายค่าย สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมสืบทอดแนวทางตามโมเดลแม่น้ำห้าสายต่อไปเป็นจุดขาย

ป่าวประกาศด้วยความมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะพ่ายแพ้เลือกตั้งอย่างแน่นอน โดยเฉพาะเวลานี้ คนอีสานก็รัก บิ๊กตู่เหมือนรักทักษิณ เพราะนโยบายดีเช่นกัน

เป้าหมายสำคัญอีกประการหนึ่ง คือเพื่อให้เกิดความปรองดอง สมานฉันท์ ระหว่างทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย ซึ่งล้วนเป็นคนไทยด้วยกัน

จุดขายเรื่องปรองดอง สมานฉันท์ ภายใต้ยุทธวิธีดูดทุกฝ่ายเข้ามาร่วมและตีค่ายพรรคเพื่อไทยให้แตกกระจาย นี่แหละครับ น่าสนใจติดตามว่าจะเป็นจริงหรือไม่ โดยเฉพาะประเด็นการสร้างความสมานฉันท์ ปรองดอง

Advertisement

ความปรองดอง สมานฉันท์ หันหน้าเข้าหามาจับมือร่วมกัน เป็นเหตุผลหนึ่งของการรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 เป็นหนึ่งในเป้าหมายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ประกาศมาตั้งแต่ต้น มีการตั้งกลไก กระบวนการต่างๆ หลายระดับ ดำเนินการเองโดยกองทัพ สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) จนมาถึงสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ทำคลอดมาตรการต่างๆ มากมาย แต่ความเป็นจริงทางปฏิบัติ ไม่สามารถนำไปสู่ความสำเร็จได้

โจทย์ข้อนี้จึงเป็นโจทย์ที่หลายฝ่ายเห็นว่า คสช.สอบตก ความปรองดอง สมานฉันท์ ยังไม่มีแนวโน้มที่จะเป็นจริง

อย่าว่าแต่กลุ่มสามมิตรเลย พรรคใดก็ตามที่เสนอแนวทางนี้เป็นนโยบายต้องตอบคำถามหลักให้ได้ก่อนว่า ทำไม 4 ปีที่ผ่านมา ความปรองดอง สมานฉันท์ถึงไม่คืบหน้าไปถึงไหน

แน่นอน ปัจจัยที่เป็นเงื่อนไข ไม่ได้อยู่ที่ฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง แต่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงทุกฝ่ายก็ตาม แต่ในฐานะเจ้าภาพหลัก คสช. ต้องกลับมาทบทวนอย่างจริงจังว่าเป็นเพราะอะไร สาเหตุเกิดจาก หลักคิด วิธีปฏิบัติของตัวเอง หรือคนอื่น เป็นต้นเหตุสำคัญ

ปรองดอง สมานฉันท์ต้องเป็นไปภายใต้บรรยากาศแห่งเสรีภาพ เสมอภาค ไม่ลักลั่น เอารัดเอาเปรียบ มีความเป็นธรรม การปฏิบัติไม่สองมาตรฐาน เคารพในความเห็นต่างๆ บนพื้นฐานของสันติภาพ ภราดรภาพ และมิตรภาพ

สภาพความเป็นจริงตั้งแต่ปี 2557 และดำรงอยู่จนถึงขณะนี้ ล้วนตรงกันข้ามกับประเด็นเหล่านี้อย่างสิ้นเชิง

ปรองดอง สมานฉันท์ภายใต้บรรยากาศอำนาจนิยม จำกัด ลิดรอน ปิดกั้น จึงเป็นความขัดแย้ง ไปด้วยกันไม่ได้

ความเป็นจริงที่ฝ่ายหนึ่งประกาศหลักการ ความดี ความชั่ว คนดี คนชั่ว อยู่ร่วมกันไม่ได้ ต้องพังพินาศฉิบหายวายป่วงกันไปข้างหนึ่ง สังคมถึงจะสงบสุข ร่มเย็น การให้อภัย ลืมอดีตที่เลวร้าย เป็นไปไม่ได้

ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งก็ประกาศว่า ประชาธิปไตยกับเผด็จการไม่มีทางอยู่ร่วมกันได้ เพราะเป็นขั้วตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง

ประชาธิปไตยเคารพศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ทัดเทียมกัน เผด็จการเอาตัวเองเป็นใหญ่ ไม่เคารพศักดิ์ศรีคนอื่น เชื่อมั่นว่าตัวเองคือความถูกต้อง คนเห็นต่างเป็นพวกสร้างปัญหา บ่อนทำลายสังคม ประชาชนไม่เคยมีความพร้อมที่จะจัดการตนเอง ต้องมีข้าเป็นผู้นำเป็นเวลาเท่านั้นเท่านี้ สังคมถึงจะไปรอดปลอดภัย

พูดความจริงครึ่งเดียว ย้ำแล้วย้ำอีก ให้ทุกฝ่ายยึดกฎหมายเป็นหลัก แต่อีกด้านหนึ่งคือ การบังคับใช้กฎหมายด้วยความไม่เป็นธรรมของคน ซึ่งเป็นต้นเหตุแห่งปัญหาความขัดแย้งเช่นกัน ไม่กล่าวถึงหรือได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง

ฝ่ายเห็นต่าง เคลื่อนไหว เรียกร้อง แสดงออกในเรื่องใด ถูกติดตามจับกุม เล่นงานดำเนินคดี ขณะที่อีกฝ่ายเคลื่อนไหว เชียร์ มอบพวงมาลัย ให้กำลังใจ ได้รับการต้อนรับขับสู้ ไม่ผิดกฎหมายใดๆ ทั้งสิ้น

การดำเนินงานของกลไกอำนาจรัฐ องค์กรอิสระต่อฝ่ายตรงข้ามกับขั้วอำนาจ กระฉับกระเฉง แต่กับคนมีอำนาจตกเป็นผู้ถูกกล่าวหา กลับอืดอาด ล่าช้า เป็นมาอย่างนี้แทบทุกสมัย

ในเมื่อผู้คนยังตกอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมความลักลั่น มีแต่ขาวกับดำเท่านั้น เทาไม่มี สีอื่นไม่มี ความลักลั่น ไม่เป็นธรรม ไม่เท่าเทียมเกิดขึ้นตั้งแต่การเขียน กฎ กติกาหลักที่ใช้บังคับแล้ว ฝ่ายแต่งตั้ง มีบทบาท อำนาจ ทัดเทียมกับฝ่ายเลือกตั้ง ฝ่ายแต่งตั้งมีอำนาจตั้ง คัดเลือกขุมกำลังเข้ามา สนับสนุนตัวเอง ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งต้องต่อสู้ดิ้นรนด้วยความยากลำบาก

ยิ่งเมื่อกลุ่มสามมิตรเลือกเดินแนวทางอยู่กับอีกฝ่ายที่โดดลงมาเป็นตัวละคร เป็นผู้เล่นเสียเอง ไม่ใช่ผู้กำกับหรือคนกลาง แต่เลือกข้าง ความสมานฉันท์จะเกิดขึ้นได้อย่างไร

เพียงแค่ตอบข้อวิจารณ์ของนักการเมืองด้วยกันอย่างคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งทนไม่ไหวกับพฤติกรรมไอ้ตัวดูดพูดตรงๆ ว่า เชื่อหรือไม่ว่าการย้ายพรรคไม่มีผลประโยชน์ ยืนยันว่าไม่ใช่ เพราะ 3 เรื่อง ทั้งเงิน ตำแหน่ง และคดีความ ตนทราบมาว่ามีการเจรจาเรื่องเหล่านี้จริง

เฉพาะเรื่องนี้ประเด็นเดียว แกนนำสามมิตรมีคำอธิบายที่ฟังมีเหตุผล ทำให้ผู้คนยอมรับได้ก่อน ก็ยากเต็มทีแล้ว

ความปรองดองสมานฉันท์ที่ประกาศภายใต้สภาพการณ์ที่เต็มไปด้วยคำถามต่างๆ มากมายจึงไม่ต่างอะไรกับความฝัน เป็นแค่วาทกรรมทำให้การเคลื่อนไหวดูดี มีจุดยืนสวยหรูเท่านั้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image