สวัสดีครับ ตลาดหุ้นไทยต้นเดือนตุลาคม 2561 ผันผวนแรง ซึ่งเป็นไปตามที่คาดที่วิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นไทยไปเมื่อปลายเดือน ก.ย.2561 ที่ผ่านมา ว่า “Valuation” ของตลาดหุ้นไทย “ไม่ถูก” เมื่อมีโอกาสเขียนบทความลงใน คอลัมน์ “คิดเห็นแชร์” อีกครั้ง ก็ขอทำการวิเคราะห์แนวโน้มตลาดหุ้นไทยภายหลังการพักฐานเกือบ 100 จุด เมื่อต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา และข้อมูลการคาดการณ์ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไตรมาสที่ 3 ของฝ่ายวิจัย บล. เคจีไอ (ประเทศ) มาฝากกันครับ
ขณะที่เขียนบทความนี้ ดัชนี SET index
ฟื้นตัวกลับขึ้นมายืนบริเวณ 1,700 จุดได้อีกครั้ง หลังจากพักฐานลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 1,674 จุด
ทำให้ Valuation หุ้นไทยลดความแพงลงไปได้บ้าง นักลงทุนโดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันถือ
เป็นโอกาสเข้าซื้อสะสมอีกครั้ง อย่างไรก็ดี ผมประเมินแนวต้านสำคัญ SET index จะอยู่ที่ 1,740 จุด มี
P/E ปี 2561 เท่ากับ 16.1 เท่า และหากคำนวณหา Earnings yield gap หรือส่วนต่างของ Earnings yield (ส่วนกลับของ P/E) เทียบกับอัตราผลตอบแทนจากพันธบัตรรัฐบาล (Bond yield) อายุ 5 ปี
ส่วนต่างดังกล่าวจะต่ำเพียง 3.8% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 4.5% เท่ากับว่า ณ ระดับแนวต้าน 1,740 จุด หุ้นไทยจะเริ่มกลับมา “ไม่ถูก” เมื่อเทียบกับการลงทุนในพันธบัตร นั่นเอง
ประเมินว่า ดัชนี SET index ขณะนี้ หากไม่มีปัจจัยลบจากภายนอกเข้ามาเพิ่ม มีโอกาสจะฟื้นตัวขึ้นในระยะสั้นได้บ้าง แต่จะเริ่มผันผวนเมื่อเข้าใกล้แนวต้านดังกล่าว โดยสรุปคือ ภาวะตลาดหุ้นไทยยังเป็นการแกว่งตัวในกรอบ ซึ่งยังไม่มีสัญญาณ
ขาขึ้นหรือขาลง ที่ชัดเจน กลยุทธ์การลงทุนที่
เหมาะสมขณะนี้ อาจแบ่งออกได้เป็น
1) “ซื้อสะสมเมื่อราคาอ่อนตัว” สำหรับหุ้นขนาดใหญ่ (Big Cap) ที่คาดจะได้อานิสงส์เศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวรวมทั้งความคาดหวังเรื่องการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2562
2) “ซื้อเก็งกำไร” สำหรับหุ้นรายตัวที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3 จะออกมาดีและ 3) “หลีกเลี่ยง หรือระมัดระวังการลงทุน” ในหุ้นกลุ่มที่แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3 จะอ่อนแอ
ขณะที่เขียนบทความนี้ หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์เริ่มทยอยรายงานงบการเงิน เมื่อเสร็จสิ้นแล้วก็จะเริ่มเข้าสู่การทยอยรายงานผลประกอบการของภาคเศรษฐกิจจริง หรือที่เรียกว่า Real sector ซึ่งฝ่ายวิจัยทยอยคาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 3 ไปประมาณ 1 ใน 3 ของจำนวนหุ้นที่ออกบทวิเคราะห์แล้วครับ (ผมแนะนำให้ติดตามบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของฝ่ายวิจัยที่กำลังทยอยคาดการณ์ผลประกอบการหุ้นรายตัวอยู่ในขณะนี้)
โดยสรุปแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มดังนี้
1) หุ้นกลุ่มที่คาดการณ์ว่าผลประกอบการไตรมาส 3 จะออกมาเติบโตหรือฟื้นตัว : ได้แก่
กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี (แต่หากวิเคราะห์
รายตัวจะพบว่า หุ้นในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีที่คาดผลการดำเนินงานจะออกมาเติบโตนั้น จะเป็น PTTEP
และหุ้นกลุ่มปิโตรเคมีอย่าง PTTGC และ IVL ขณะที่ผลการดำเนินงานของหุ้นกลุ่ม
โรงกลั่น อาทิ SPRC, TOP, IRPC นั้น ฝ่ายวิจัยคาดว่าจะออกมาชะลอตัวลง), และกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (ได้อานิสงส์ค่าเงินบาทอ่อนและ
เข้าสู่ไฮซีซั่นของธุรกิจ)
2) หุ้นกลุ่มที่คาดการณ์ว่าผลประกอบการไตรมาส 3 จะออกมาอ่อนแอหรือชะลอตัวลง :
ได้แก่ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง (แม้ในภาพรวมความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น จากการลงทุน
ภาครัฐ และการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ แต่คาดผลการดำเนินงานรวมของกลุ่มถูกถ่วงด้วยหุ้น SCC ที่คาดว่าผลการดำเนินงานจะชะลอตัวลง), หุ้นกลุ่มค้าปลีก (คาดอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม หรือ Same-store Sales Growth ในภาพรวมยังทรงตัวหรือเติบโตเล็กน้อยในไตรมาส 3 แต่คาดจะฟื้นตัวขึ้นในไตรมาส 4), หุ้นกลุ่มสื่อสาร (ฝ่ายวิจัยประเมินผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ทรงตัว แต่คาดจะฟื้นตัวขึ้นในไตรมาส 4) สาเหตุที่ผมเน้นเรื่องของแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3 เนื่องจากเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่จะทำการประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2562 โดยเฉพาะข้อมูลจากการประชุมนักวิเคราะห์หลังการรายงานงบการเงิน ซึ่งจะทำให้นักวิเคราะห์ทำการปรับปรุงประมาณการปี 2562 และจะทำให้ได้ข้อมูลสำคัญที่จะนำมาใช้ประเมินมูลค่าเหมาะสมของบริษัท
จดทะเบียนต่างๆ รวมถึง Valuation ของ SET index ด้วย
จากข้อมูลขณะนี้ผมยังมีมุมมองที่เป็นบวก
ต่อแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 3 ว่าจะเติบโตเมื่อเทียบกับช่วง
เดียวกันปีก่อน และคาดจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นใน 4Q61-1Q62 ที่คาดว่าความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้งจะช่วยหนุนภาพรวมของความเชื่อมั่นของทั้งผู้บริโภคและการลงทุนเอกชน
ดังนั้นแม้ Valuation ของ SET index ขณะนี้จะยัง “ไม่ถูก” แต่ด้วยความคาดหวังในด้านบวกดังกล่าว มีโอกาสที่จะทำให้ SET index ยังคงแกว่งตัวขึ้นได้ในช่วงปลายปีนี้จนถึงต้นปี 2562 … สำหรับการพบกันในคอลัมน์ “คิดเห็นแชร์” ครั้งถัดไปผมคาดว่าน่าจะได้ข้อมูลงบการเงินไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียนครบถ้วน และน่าจะเริ่มมีมุมมองต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนต่างๆ ในปี 2562
สุโชติ ถิรวรรณรัตน์
KGI
