ตลาดรถกระบะบ้านเราเรียกได้ว่า ไม่เคยได้พักรบ ไม่ว่าจะช่วงเวลา “ไฮซีซั่น” หรือ “โลว์ซีซั่น”
ด้วยปัจจัยเกื้อหนุนทางด้านภาษี ผลพวงจากนโยบายให้ไทยเป็นฐานการผลิตรถกระบะที่สำคัญของโลกในอดีต
ส่งผลให้ผู้เล่นในตลาดรถกระบะบ้านเรามีให้เลือกหลายค่าย
หลักๆ ที่แข่งขันกันสูสีมาตลอด คงหนีไม่พ้นค่าย โตโยต้า และ อีซูซุ แต่มาระยะหลังค่ายอื่นๆ ต่างพยายามเบียดแย่ง เพื่อช่งส่วนแบ่งตลาดไล่ขึ้นมา
แต่ยอดขายเดือนล่าสุด ก็ยังคงเป็นค่ายโตโยต้ายังคงนำอยู่
แม้ว่าก่อนหน้านี้เมื่อเปิดตัว โตโยต้า รีโว่ ใหม่ๆ หลังจาก รุ่นวีโก้ เลิกผลิตไป แรกๆ ออกอาการไม่ค่อยสู้ดี แกว่งอยู่พักนึง เพราะอาจมองว่าไม่แตกต่างจากรุ่นเดิมมากนัก
แต่มาตอนหลังได้แรงอัดฉีดดี ทั้งโปรโมชั่น ตกแต่งพิเศษ เพิ่มอุปกรณ์ จึงทำให้เริ่มกระชุ่มกระชวยขึ้นมา
ล่าสุด บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ส่ง “ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นปรับปรุงใหม่” ใส่ทีเด็ดใหม่คือ เกียร์ 6 จังหวะ ที่มีอัตราทดต่ำ เพื่อประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ทั้งในรุ่นเกียร์ธรรมดาและรุ่นเกียร์อัตโนมัติ
จะมีเฉพาะในเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร ขับเคลื่อน 2 ล้อ แต่ในรุ่น 2.8 ลิตรจะยังคงเป็นรุ่นเดิม
รุ่นปรับปรุงใหม่นี้ มาพร้อมกับระบบ ซีเควนเชียล ชิฟท์ (Sequential Shift) โตโยต้ายืนยันว่าเป็นเจ้าเดียวในประเทศไทย
ล่าสุดเมื่อวันที่ 1-2 พฤศจิกายน 2561 โตโยต้าได้จัดกิจกรรมทดสอบ เส้นทางขอนแก่น-พิษณุโลก ระยะทางประมาณ 400 กิโลเมตร
เป็นการทดสอบบนหลากหลายสภาวะถนน ทั้งทางตรงเรียบ แบบขับในเมือง เพื่อทดสอบอัตราเร่งขณะออกตัว
ที่โดดเด่นเห็นได้ชัดอีกอย่างคือ ความสะดวกสบายเมื่อใช้งานเกียร์ 6 จังหวะใหม่ ทำให้ส่งถ่ายกำลังได้อย่างต่อเนื่องดีขึ้น จากเดิมมี 5 เกียร์
ช่วงการขับในพื้นที่เนินเขา สะท้อนให้เห็นถึงสมรรถนะของเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง และระบบเบรก มีประสิทธิภาพดีขึ้นกว่าเดิมเยอะ
สำหรับการทรงตัวและการควบคุมรถ ถือว่าพวงมาลัยแม่นยำมากขึ้น เห็นได้ชัดในเส้นทางการขับรูปแบบคดเคี้ยว ทางโค้ง ความเงียบในห้องโดยสาร ความนุ่มนวลของช่วงล่าง สะท้อนให้รู้สึกได้ว่า รุ่นเกียร์ 6 จังหวะ ถือเป็นการอัพเกรด รถกระบะสำหรับขนสินค้า หรือแม้แต่ขนคน ได้ชัดเจนมาก
มีให้เลือกทั้งแบบ เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะใหม่ ในรุ่นเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร ขับเคลื่อน 2 ล้อ พร้อมระบบซีเควนเชียล ชิฟท์ แรงบิดสูงในรอบต่ำ และเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะใหม่ ในรุ่นเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร ขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกเว้นรุ่นช่วงล้อสั้น
ทั้งรุ่นนี้จะชูเรื่องความประหยัดน้ำมัน แม้บรรทุกหนัก ด้วยขุมพลัง จีดี เอฟฟิเชียนท์ บูสท์ (GD Efficient Boost)
การออกมาเติมเต็มกลุ่มรถกระบะของโตโยต้าในรุ่นเกียร์ 6 จังหวะ ครั้งนี้ได้ซอยย่อยเป็น 4 รุ่นย่อยใหม่ ได้แก่ รุ่นมาตรฐาน 2.4 J แค็บและแชสซีส์ เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 2 ล้อ รุ่นมาตรฐาน 2.4J เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 2 ล้อ รุ่นสมาร์ทแค็บ 2.4J Plus เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 2 ล้อ รุ่นดับเบิลแค็บ 2.4J Plus เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 2 ล้อ
รหัสเครื่องยนต์รุ่นนี้ใช้รหัส 2GD-FTV(High) ความจุกระบอกสูบ 2393 ซีซี กำลังสูงสุด 110 กิโลวัตต์ (150 แรงม้า) ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด เกียร์ธรรมดา 343 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400-2,800 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,000 รอบต่อนาที
ส่วนราคา รุ่นมาตรฐาน 2.4 แค็บและแชสซีส์ เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 2 ล้อ 583,000 บาท รุ่นมาตรฐาน 2.4J เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 2 ล้อ 619,000 บาท สมาร์ทแค็บ 2.4J Plus เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 2 ล้อ 699,000 บาท ดับเบิลแค็บ 2.4J Plus เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 2 ล้อ 740,000 บาท
รุ่นเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะใหม่ ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ รุ่นมาตรฐาน 2.4J แค็บและแชสซีส์ เกียร์ธรรมดา ขับเคลื่อน 2 ล้อ 528,000 บาท รุ่นมาตรฐาน 2.4J เกียร์ธรรมดา ขับเคลื่อน 2 ล้อ 564,000 บาท สมาร์ทแค็บ 2.4J เกียร์ธรรมดา ขับเคลื่อน 2 ล้อ 584,000 บาท สมาร์ทแค็บ 2.4J Plus เกียร์ธรรมดา ขับเคลื่อน 2 ล้อ 650,000 บาท สมาร์ทแค็บ 2.4E เกียร์ธรรมดา ขับเคลื่อน 2 ล้อ 690,000 บาท ดับเบิลแค็บ 2.4J Plus เกียร์ธรรมดา ขับเคลื่อน 2 ล้อ 690,000 บาท ดับเบิลแค็บ 2.4E เกียร์ธรรมดา ขับเคลื่อน 2 ล้อ 784,000 บาท
ถือเป็นการเติมเต็มกลุ่มรถกระบะของโตโยต้า เพื่อเจาะตลาดให้ชัดเจนขึ้น พุ่งเป้าไปที่กลุ่มรถกระบะทางเรียบที่ต้องการขนคนขนของเดินทางไกลได้อย่างสะดวกสบายขึ้น
นายพล
