‘นิสสัน ลีฟ’ รถไฟฟ้า100% ราคา1.99ล้าน-แพงมั้ย? : โดย นายพล

ได้ฤกษ์ประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการซะที สำหรับ นิสสัน ลีฟ รถยนต์ไฟฟ้า 100% หลังจากแนะนำให้ความรู้กับตลาดรถยนต์ในบ้านเรามาเป็นปี

จนทำให้เวลาล่วงเลยมาจนถึง นิสสัน ลีฟ เจเนอเรชั่นที่ 2 ขณะที่เจเนอเรชั่นที่ 1 สามารถทำยอดขายไปทั่วโลกจนถึงรุ่นล่าสุดกว่า 3 แสนคันไปแล้ว

นอกจากนี้ นิสสันยังต้องใช้เวลาเจรจากับทางรัฐบาลไทย เพื่อให้การสนับสนุนด้านภาษีรถยนต์นำเข้าประเภทนี้ให้ได้มากที่สุด

แต่ในที่สุดนิสสัน ลีฟ ก็ทำได้แค่เสียภาษีสรรพสามิต 8% ใกล้เคียงกับเทคโนโลยีไฮบริดที่บรรดาค่ายรถขาใหญ่กำลังเร่งนำเสนอรถยนต์ประเภทนี้ ก่อนจะสิ้นอายุขัยหันไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าตามกระแสโลกยานยนต์

Advertisement

ยังไม่รวมสารพัดภาษีที่ต้องเสีย จึงทำให้ราคาเหนือความคาดหมาย กระโดดไปถึง 1.99 ล้านบาท

แต่น่าประหลาด เสียงบริภาษกลับพุ่งเป้าไปที่รัฐบาล ไม่ยอมให้การสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าที่ทั้งประหยัดเชื้อเพลิงและไม่ปล่อยมลพิษให้เต็มที่

นับจากนี้ เมื่อนิสสัน ลีฟ ประกาศราคาและเริ่มรับจองอย่างเป็นทางการ จึงเป็นเหมือนการเริ่มต้นเปิดศักราชการใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจังในบ้านเรา เพราะนิสสันเป็นค่ายรถขนาดใหญ่ ต้องการยอดขายเป็นพันคัน

Advertisement

ดังนั้นการเริ่มขาย หมายความว่าจะต้องมั่นใจว่ามีสถานีชาร์จไฟเพียงพอ ต่อไปนี้ภาครัฐจะต้องเร่งสปีดช่วยเหลือด้านโครงสร้างพื้นฐานการติดตั้งสถานีชาร์จไฟให้เพียงพอ เพราะภาคเอกชนเริ่มเอาจริงแล้ว

สำหรับการใช้งาน นิสสัน ลีฟ หลังจากประกาศราคาและเริ่มรับจอง นิสสันได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ทดลองขับ แม้ระยะเวลาและเส้นทางที่ทดลองขับอาจจะสั้นไป แต่ก็ทำให้ได้รับรู้ถึงความแตกต่างระหว่างรถยนต์สันดาปภายในที่เราใช้กันทั่วไปกับรถยนต์ไฟฟ้า 100% ได้อย่างชัดเจน

รถยนต์ไฟฟ้าจะไม่มีระบบต่างๆ เหมือนรถสันดาปภายในทั่วไป ได้แก่

1.ความเงียบและอัตราเร่งดีกว่ามาก เพราะไม่ใช้การสันดาปภายใน จึงไม่ก่อให้เกิดการเผาไหม้ ทำให้เสียงเงียบกว่ารถยนต์ใช้น้ำมันหลายเท่า บางคนบอกเงียบจนน่ากลัว เพราะรถวิ่งแบบไม่ค่อยมีเสียง แถมอัตราเร่งเป็นไปได้อย่างใจต้องการ เพราะไม่มีขั้นตอนการทดเกียร์ ทำให้ตอบสนองการขับขี่ได้ดี

2.ประหยัดค่าใช้จ่ายและค่าซ่อมบำรุง เพราะไม่มีเครื่องยนต์ ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ดูแลรักษาง่ายขึ้น ไม่ต้องเสียเวลานำรถยนต์เข้าบำรุงรักษาบ่อยๆ จึงต้องมาชั่งน้ำหนักกันดูว่า ราคาคันละ 1.99 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเรื่องนี้แล้วคุ้มค่าหรือไม่

3.ช่วยลดมลภาวะ เพราะไม่มีการเผาไหม้ของเครื่องยนต์

4.ไม่ต้องเสียเวลาเติมน้ำมัน เพราะชาร์จแบตได้ที่บ้าน แม้ว่าราคา 1.99 ล้านบาท ยังไม่รวมค่าติดตั้งอุปกรณ์การชาร์จที่บ้าน อาจต้องควักเพิ่มอีกประมาณ 7-8 หมื่นบาท แต่ก็ไม่ต้องไปต่อคิวเติมน้ำมัน สามารถชาร์จแบตได้ที่บ้านระหว่างนอนหลับ

สำหรับอารมณ์การขับเรียกได้ว่า นุ่มนวลกว่ารถยนต์ทั่วไปมาก ทั้งการทรงตัว การเร่งแซง การเข้าโค้ง การควบคุมพวงมาลัย ล้วนแต่ทำได้เนียนกว่ารถยนต์ทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด

ระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า (e-powertrain) ใหม่ของนิสสัน ลีฟ ใหม่ ทำให้อัตราเร่งทำได้ดี และอีกหนึ่งเทคโนโลยีการขับขี่ที่โดดเด่น คือ อี-เพเดิล (e-Pedal) ช่วยให้ผู้ขับขี่เริ่มขับขี่ เร่งความเร็ว ลดความเร็ว และหยุดรถ ด้วยการใช้คันเร่งเพียงอย่างเดียว โดยการเหยียบหรือผ่อนคันเร่ง เบรกแทบไม่มีบทบาท

ปกติเราจะรู้จักกันแต่เอ็นจิ้นเบรก เมื่อขับรถลงเนินใส่เกียร์ต่ำ จะมีเอ็นจิ้นเบรกคอยดึงตัวรถไว้ไม่ให้ไหลลงไปอย่างรวดเร็ว

แต่ระบบนี้ เมื่อปล่อยคันเร่งทั้งหมดรถจะชะลอและหยุดโดยอัตโนมัติโดยไม่ไหลลงไป แม้จะจอดติดอยู่ขณะลงเนิน นวัตกรรมใหม่นี้นับว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้ขับขี่โดยใช้เพียงคันเร่งเดียวเท่านั้น

และเมื่อเป็นรถยนต์ไฟฟ้ามีพละกำลังสูง ระบบรักษาความปลอดภัยก็ต้องดีด้วย จึงเป็นที่มาของเทคโนโลยี นิสสัน เซฟตี้ ชิลด์ (Nissan Safety Shield) ประกอบด้วยชุดเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยขั้นสูง ได้แก่

เทคโนโลยีช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์ด้านหน้าขณะขับขี่ (Forward Collision Warning) เทคโนโลยีเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Forward Emergency Braking) เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor) พร้อมด้วยเทคโนโลยีเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน (Moving Object Detection) และเทคโนโลยีช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Alert Assist)

การออกแบบภายนอกต้องการสะท้อนความล้ำสมัยสไตล์รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ไฟหน้าทรงบูมเมอแรงการออกแบบด้านหน้าแบบวี-โมชั่น (V-Motion) กระจังหน้าแบบแฟลชมีสีน้ำเงินชัดเจนและคิ้วรถสีน้ำเงินของกันชนด้านหลัง

นิสสัน ลีฟ ใหม่ มีระบบพวงมาลัยไฟฟ้าที่มีเสถียรภาพมากขึ้น เพิ่มความมั่นใจให้ผู้ขับขี่ โดยเฉพาะการขับขี่บนทางด่วน รวมทั้งตอบสนองต่อสภาพพื้นผิวถนนดีขึ้น เนื่องจากการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ใหม่ ระบบควบคุมทำงานเชื่อมต่อกับเซ็นเซอร์วัดองศาการเลี้ยวของพวงมาลัย และระบบกันสะเทือนแบบทอร์สชั่น บาร์ (Torsion Bar) มีอัตราการยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น 10%

ชุดยางซับแรงกระแทกใช้วัสดุยูรีเธนสำหรับระบบกันสะเทือนหลัง ได้ถูกแทนที่ด้วยวัสดุใหม่ผลิตจากยางช่วยลดแรงกระแทก และแรงสั่นสะเทือน เมื่อต้องขับขี่บนสภาพถนนขรุขระ ลีฟ ใหม่ ยังมาพร้อมเทคโนโลยีควบคุมการขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Ride Control) เพื่อช่วยให้มอเตอร์ไฟฟ้าทำงานแม่นยำมากขึ้นในการสร้างแรงบิดที่เหมาะสมเมื่อเข้าโค้ง

ช่องเสียบสายชาร์จไฟบริเวณด้านหน้ารถได้รับการออกแบบใหม่เพื่อให้สะดวกมากขึ้น สามารถเสียบสายชาร์จโดยไม่ต้องก้มตัวลงมาเหมือนรุ่นก่อน ด้วยหลักการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ของนิสสัน แสดงให้เห็นว่าช่องเสียบสายชาร์จไฟใหม่ถูกติดตั้งในระดับ 45 องศา ทำให้ผู้ใช้งานที่มีระดับความสูงต่างกันสามารถเสียบสายชาร์จไฟได้สะดวก

การออกแบบภายใน หรูหราแต่เรียบง่าย ตะเข็บการเย็บสีฟ้าสัญลักษณ์ของรถยนต์ไฟฟ้าทั้งบริเวณเบาะนั่ง ด้านข้างประตู ที่วางแขน และพวงมาลัย รวมทั้งการใช้โทนสีน้ำเงินกับปุ่มสตาร์ตและเกียร์ ให้ความรู้สึกล้ำสมัย

หน้าจอแสดงข้อมูลและสวิตช์ควบคุมต่างๆ ผสมผสานระหว่างมาตรวัดความเร็วแบบอนาล็อกกับหน้าจอแสดงผลแบบมัลติ-อินฟอร์เมชั่น (multi-information) ด้านซ้าย หน้าจอสีแบบทิน-ฟิล์ม ทรานซิสเตอร์ (Thin-film Transistor-TFT) ขนาด 7 นิ้ว บอกปริมาณกำลังไฟฟ้า สามารถเลือกแสดงข้อมูลตามต้องการ

นิสสัน ลีฟ ใหม่ มีวางจำหน่ายในสีแบบทูโทนภายใต้ตัวถังสีขาว บริลเลียนท์ ไวท์ เพิร์ล (Brilliant White Pearl) และด้านบนหลังคาสีดำ ซุปเปอร์ แบล๊ก (Super Black)

ความยาวตัวรถ 4,480 มม. กว้าง 1,790 มม. สูง 1,540 มม. ฐานล้อ 2,700 มม. ความกว้างระหว่างล้อ คู่หน้า 1,530 มม. คู่หลัง 1,545 มม. ความสูงจากพื้นรถ 150 มม. สัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ 0.28 ยางรถยนต์ 215/50R17 91V พื้นที่เก็บสัมภาระ 435 ลิตร ความจุ 5 ที่นั่งผู้โดยสาร น้ำหนักสุทธิของรถ 1,523 กก.

แบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออน มอเตอร์ไฟฟ้า รหัส EM57 กำลังขับสูงสุด 110 กิโลวัตต์ (150 ps) ที่ความเร็ว 3,283~9,795 รอบ/นาที (1 กิโลวัตต์ (kW) = 1.34 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร (32.6 kgfm)/ ที่ 0~3,283 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0 ถึง 100 กม./ชม. ภายใน 7.9 วินาที

ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ 311 กม. (NEDC) การชาร์จแบบปกติ ใช้เวลาชาร์จประมาณ 12 ชม. (3.6 กิโลวัตต์) หรือ 6 ชม. (6.6 กิโลวัตต์) เวลาในการชาร์จ จากระดับแจ้งเตือนถึง 80% การชาร์จแบบเร็ว 40 นาที

ลูกค้าจองนิสสัน ลีฟ ใหม่ วันนี้จะได้รับมอบประมาณเดือนเมษายนปี พ.ศ.2562 พร้อมรับประกันรถยนต์เป็นเวลา 3 ปี หรือ 100,000 กม. รับประกันระบบไฟฟ้ารถยนต์เป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กม. และรับประกันการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่เป็นเวลา 8 ปี หรือ 160,000 กม.

นิสสัน ลีฟ ถือเป็นผู้บุกเบิกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในบ้านเรา แม้จะยังมีราคาสูง แต่อีกไม่นานรถยนต์ประเภทนี้จะกลายเป็นสิ่งคุ้นเคย มาแทนที่รถสันดาปภายใน ที่กำลังจะกลายเป็นอดีตในระยะเวลาไม่นานนี้

นายพล

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image