⦁…หลังประกาศ “พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง” อย่างเป็นทางการ ซึ่งเท่ากับหยุดความสงสัยว่า “จะมีเลือกตั้งหรือไม่” ลงไปได้ การบริหารจัดการประเทศคืนบทบาทให้ “นักการเมือง” แต่โดย “กติกาอำนาจ” ที่เขียนขึ้นมาใหม่ ซ่อนไว้ด้วยเหลี่ยมเล่ห์ที่เอื้ออำนาจให้ “คนบางกลุ่ม” แทนที่จะคืนบทบาทให้ “การตัดสินใจของประชาชน” เหมือนที่ผ่านมา แต่ “พอได้โอกาสมาบ้าง” ย่อมดีกว่าสำหรับ “นักการเมือง” ซึ่งที่สุดแล้วทำได้แค่บอกตัวเองว่า “หาทางสู้กันต่อไป”
⦁…ที่ก่ออาการ “งุนงง” ให้เกิดกับผู้ติดตามสถานการณ์การเมือง หลัง “พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง” ประกาศใช้คือ “แถลงการณ์ของสำนักนายกรัฐมนตรี” ที่ออกมาติดๆ ว่าด้วยการอ้างผลงานเรื่อง “รักษาความสงบเรียบร้อย” ของ “รัฐบาลชุดนี้” ด้วยการโยงเป็นคำเตือนถึง “การเลือกตั้ง” ให้ความรู้สึกเหมือน
“ผู้มีอำนาจ” ยังมีความวิตกกังวลบางอย่างที่เกี่ยวกับ “การเลือกตั้ง”
⦁…ในความเป็นไปที่ “พรรคการเมือง” เคลื่อนกันมาระดับหนึ่งแล้ว เมื่อความชัดเจนเกิดขึ้น ย่อมเร่งเร้าให้เกมแรงขึ้น ยุคสมัยที่การผลิตสื่อให้เข้าถึงมวลชน เป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย นับแต่นี้คงจะได้เห็น “คลิปวิดีโอ” ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับ “การช่วงชิงคะแนนนิยม” ออกมาเกร่อใน “สื่อสังคมออนไลน์” หักเหลี่ยมเฉือนคมกันทั้งด้วย “รูปแบบและเนื้อหา” ในทางเปิดเผย “โชว์ความเหนือกว่าของตัวเอง” เพื่อเป็น “ฝ่ายรุก” ประสานกับอีกทางที่จะ “เปิดแผลคู่ต่อสู้” เพื่อต้อนให้ไปอยู่ในมุม “ตั้งรับ” แน่นอน “ดราม่า” ต้องเกิดขึ้นมากมาย
⦁…เพราะสถานการณ์การเมืองของประเทศ ที่บีบบังคับให้ “แพ้ไม่ได้” ทั้ง 2 ฝ่าย ด้วยไม่ใช่แค่เรื่อง “พรรคการเมือง” กับ “พรรคการเมือง” ช่วงชิงความนิยมกันเหมือนที่ผ่านมา แต่เป็น “การต่อสู้เชิงอุดมการณ์” ว่า “ประชาธิปไตย” จะมีโอกาสเกิด และเติบโตในประเทศไทยได้หรือไม่ หรือ “การวางเครือข่าย” ของ “อำนาจนิยม” จะประสบความสำเร็จโดยอยู่ไปได้อย่างยั่งยืน เพราะ “ทางของเกม” ออกไปในรูปนี้ จึงไม่ใช่เฉพาะ “พรรคการเมือง” ที่จะแสดงจุดยืน คนกลุ่มอื่นๆย่อมออกมา “ร่วมขับเคลื่อนอุดมการณ์ของตัวเอง” ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ จะสร้างบรรยากาศของ “การศึกษาการเมืองการปกครองครั้งใหญ่”
⦁…มีเรื่องราวหนึ่งที่มีแนวโน้มสูงว่า ถึงวาระต้อง “พูดกันให้เด็ดขาด” ว่า “ใครคิดอย่างไร” และ “ประชาชนส่วนใหญ่” จะเลือกแบบไหน นั่นคือ “การแก้ปัญหาราคาข้าว” ซึ่ง “เรื้อรัง” และขยายผลกระทบต่อ “เศรษฐกิจ” และ “การเมือง” อย่างรุนแรงตลอดที่ผ่านมา “ราคาข้าว” ถูกใช้ในทุกเรื่อง ทั้งสร้าง “ฐานเสียง” และ “ทำลายกันทางการเมือง” เกิดข้อกล่าวหาเรื่อง “ทุจริต” ที่ลามไปกระทบต่อ “ข้อกังขาเรื่องความยุติธรรม” อันส่งผลใหญ่หลวงต่อการบริหารจัดการประเทศ ด้วยเหตุนี้เอง แรงกดดันที่เรียกร้องให้ทุกพรรค
มีนโยบายให้ชัดว่าจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร เกิดขึ้นแบบจริงจัง
⦁…เปิดมาก่อนแล้วเป็น “ภูมิใจไทย” ภายใต้การนำของ อนุทิน ชาญวีรกูล กับนโยบาย “เปลี่ยนโครงสร้างผลประโยชน์ในธุรกิจข้าว” กำหนดสัดส่วนชัดว่า กำไร 100 ให้ “ชาวนา 75-พ่อค้า 15 โรงสี 15” มีกระบวนการจัดการให้เป็นไปได้เรียบร้อย ตั้งแต่ “ออกกฎหมายมาบังคับถึงตั้งคณะกรรมการร่วม” เพื่อให้ “ทุกฝ่ายรับรู้ผลประโยชน์ของธุรกิจข้าวอย่างโปร่งใสร่วมกัน”
⦁…หลังจากนี้ “พรรคการเมืองหลักๆ” ที่วางตัวไว้ในโอกาสที่จะเป็น “แกนนำจัดตั้งรัฐบาล” ได้ จะต้องนำเสนอให้ชัดเจนกันว่า “กับผลราคาข้าว” ที่เป็น “ปัญหาเรื้อรัง” จะสร้างความขัดแย้งรุนแรง กลายเป็น “อาวุธทางการเมืองสำคัญ” อย่างที่ว่า ใครจะหาทางออกจากเรื่องนี้อย่างไร จะเป็น “นโยบาย” ที่ทุกพรรคต้องประกาศให้รับรู้
⦁…แสดงความยินดีกับ อภิยุทธ ณ กาฬสินธุ์ ผู้บริหาร โรงแรมรอดีน่า บีช พัทยา ได้รับรางวัล Guest Review Award ประจำปี 2018 จาก Booking.COM ติดอันดับโรงแรมสวย 1 ใน 5 ของพัทยา บริการสะดวกสบายแค่ไหน ต้องไปเยือนสัมผัสด้วยตนเอง ที่โรงแรมรอดีน่า บีช พัทยา
⦁…ชวพน.ขอเรียนเชิญพี่ๆ วพน. 1-12 ทุกท่าน ร่วมงานเสวนา “มองพลังงานโลก…ส่องพลังงานไทย” โดย กวิน ทังสุพานิช, นพดล ปิ่นสุภา, ศ.สุรพล นิติไกรพจน์ และ กิตติ สิงหาปัด ดำเนินรายการ ในวันพฤหัสฯที่ 31 ม.ค. นี้ เวลา 13.00-17.30 น. ณ ห้องราชพฤกษ์ แกรนด์ บอลรูม ชั้น 2 Sport Building สโมสรราชพฤกษ์ / สามารถตอบรับเข้างานโดยแจ้งกลับมาที่ Emailสถาบัน หรือ Group Line แต่ละรุ่น หรือติดต่อน้องแอน 08-9816-4952
ชโลทร
คณะกรรมการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ชั้น 22 อาคาร LED สำนักงานใหญ่ PEA เมื่อเร็วๆ นี้
ยงยุทธ ยุทธวงศ์, นพ.วรศักดิ์ โชติเลอศักดิ์ และ เฌอปราง อารีย์กุล ร่วมเสวนา ภายใต้หัวข้อ “ความสำคัญของการสื่อสารวิทยาศาสตร์” ณ True Incube ชั้น 4 เซ็นเตอร์พอยต์ ออฟ สยามสแควร์ เมื่อเร็วๆ นี้
ร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมนี (GIZ) จัดพิธีปิดโครงการ การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และการบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสำหรับภาคการขนส่งทางบกในภูมิภาคอาเซียน เพื่อรายงานความสำเร็จและถอดบทเรียนที่ได้จากการดำเนินงานด้านการลดการใช้น้ำมันของยานพาหนะและลดการปล่อยมลพิษจากภาคการขนส่ง
