ในวงการรถยนต์เป็นที่รู้กันดีว่าค่าย ซูซูกิ จะมีความเชี่ยวชาญเรื่องการผลิตรถยนต์ขนาดเล็ก ไม่ว่าจะรถเก๋ง รถเอสยูวี หรือแม้แต่รถบรรทุกขนาดเล็ก
ซูซูกิผลิตรถยนต์ออกมาแต่ละประเภท จะเห็นได้ว่ามีเสียงตอบรับในระดับหนึ่ง แม้จะไม่ถึงขั้นเป็นรถยนต์ขายดีอันดับ 1 แต่หากย้อนไปดูรถซูซูกิแต่ละรุ่น จะเห็นมีวิ่งอยู่บนถนนไม่น้อยทีเดียว
ล่าสุด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว ซูซูกิ เออร์ติกา (Suzuki ERTIGA) ใหม่ มินิเอ็มพีวี หรือรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดเล็กที่มีพื้นฐานมาจากรถเก๋ง เป็นรถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง เจเนอเรชั่นที่ 2 หลังจากเจเนอร์เรชั่นแรกเปิดตัวเมื่อปี พ.ศ.2555
รูปร่างหน้าตาแม้ไม่ได้สวยหยาดเยิ้ม แต่จะออกแนวพื้นๆ ดูได้นานๆ แต่ถือว่าคุณภาพคับแก้ว ชุดกระจังหน้าโครเมียม และกรอบชุดไฟหน้า โปรเจ็กเตอร์ ให้อารมณ์สปอร์ตมากขึ้น รับกับชุดไฟตัดหมอกทรงกลม ในขณะที่มุมมองด้านข้างรู้สึกได้ถึงความโฉบเฉี่ยวของเส้นสาย ที่มีความสะดุดตาด้วยล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว ก่อนจะเติมความรู้สึกทรงพลังให้สมบูรณ์ด้วยชุดไฟท้ายทรงแนวตั้ง LED แบบ Light Guide
ภายในมีการปรับปรุงให้ดูหรูหราขึ้นจากลายไม้ในจุดต่างๆ เช่น บนคอนโซล และแผงประตู เพิ่มอารมณ์ความสปอร์ตด้วยโทนสีดำ
ที่นั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง แถวที่นั่งตอน 2 สามารถปรับเพิ่มความกว้างด้วยการเลื่อนเดินหน้า-ถอยหลังได้ 240 มม.
พนักพิงเบาะนั่งปรับพับได้แบบ 60:40 และเบาะนั่งแถวที่ 3 มีการออกแบบให้เป็นพื้นที่เก็บของอเนกประสงค์สามารถเปิด-ปิดอิสระแบบ 50:50 ได้อีกด้วย
การเข้าออกที่นั่งทำได้ง่าย พื้นที่ที่นั่งแถว 3 ไม่คับแคบจนเกินไป
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกค่อนข้างหลากหลาย เช่น กุญแจแบบคีย์เลส เอ็นทรี่ (Keyless Entry) ไม่ต้องกดกุญแจปลดล็อก เมื่อพกกุญแจมาถึงรถ สามารถกดปุ่มที่มือจับปลดล็อกได้เลย
มาพร้อมระบบ คีย์เลส พุช สตาร์ต (Keyless Push Start) พวงมาลัยรูปทรง ดี-เชป (D-Shape) จับถนัดมือมากกว่าพวงมาลัยแบบกลม โดยเฉพาะในยามหักเลี้ยว มีปุ่มมัลติฟังค์ชั่นที่ก้านพวงมาลัยด้านซ้าย สำหรับควบคุมเครื่องเสียง สามารถเชื่อมต่อ USB, AUX และรองรับ MP3/WMA ได้ รองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์ผ่านระบบบลูทูธ รับ-วางสายโทรศัพท์ได้ โดยไม่ต้องละมือหรือสายตาไปจากพวงมาลัย
ระบบปรับอากาศมีทั้งตอนหน้าและหลัง มีช่องวางเครื่องดื่มออกแบบให้มีช่องระบายอากาศ ช่วยให้สามารถรักษาอุณหภูมิความเย็นได้นานขึ้น
โครงสร้างตัวถังใหม่ ฮาร์ทเทค (HEARTECT) เป็นเทคโนโลยีเฉพาะของซูซูกิ ช่วยยกระดับสมรรถนะและความปลอดภัยมากขึ้น วัสดุเป็นเหล็กกล้า ไฮ เทนไซล์ (High Tensile) มีความทนทาน แต่มีระบบ NVH ช่วยมอบความนุ่มนวลในการขับขี่ และการดูดซับแรงสั่นสะเทือน
เครื่องยนต์เบนซินใหม่ รหัส K15B แบบ 4 สูบ 6 วาล์ว พิกัด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 105 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด สู่ล้อหน้า ถือได้ว่าเพียงพอสำหรับการบรรทุกแบบเต็มพิกัดแบบ 7 ที่นั่ง และหากต้องเดินทางไกลประเภทขึ้นเขาขึ้นดอย
ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง และด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม คอยล์สปริง มีการปรับเซตมาให้นุ่มนวลขึ้น แต่ยังคงสร้างเสถียรภาพเกาะถนนได้ดีทีเดียว โดยการยึดเกาะจากล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว มาพร้อมยางซีรีส์ 185/65 R15 เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ส่วนระบบความปลอดภัยใหม่ ถือว่าน่าจะเพียงพอ เพราะมีทั้งอย่างระบบ ฮิล โฮลด์ คอนโทรล (Hill Hold Control) สามารถจอดและออกตัวบนเนินได้อย่างนุ่มนวล จากการหน่วงตัวรถด้วยระบบเบรกให้อยู่กับที่ จึงทำให้ไม่ต้องรีบแตะคันเร่ง เพราะกลัวรถไหลถอยหลัง
ขณะที่ระบบความปลอดภัยพื้นฐานก็ยังคงติดตั้งมาให้อย่างครบครัน ทั้งระบบถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า ระบบเบรก ABS ช่วยป้องกันไม่ให้ล้อล็อกขณะเบรกกะทันหัน พร้อมระบบ EBD ช่วยกระจายแรงเบรกได้อย่างสมดุล ระบบ ESP ช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวให้เข้าโค้งได้แม่นยำ รวมทั้งมีจุดยึดเบาะนั่งนิรภัย ไอโซฟิกซ์ (ISOFIX) และ ท็อป เททเทอร์ (Top tether) สำหรับเด็กอีกด้วย
เออร์ติกา ใหม่ มี 4 สี 2 รุ่นให้เลือก ได้แก่ GL เกียร์อัตโนมัติ ราคา 655,000 บาท และรุ่น GX เกียร์อัตโนมัติ ราคา 695,000 บาท
ถือว่าเป็นตัวเลือกรถยนต์อเนกประสงค์ที่น่าใช้อีกรุ่น เพราะทั้งสมรรถนะการขับขี่ การติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ เหมากับการใช้งาน
โดยเฉพาะราคา ถือว่าคุ้มค่าทีเดียว
นายพล
