เหยี่ยวถลาลม 12มี.ค.62 : อย่าเทียบ‘จอมพล ป.’

จอมพล ป. พิบูลสงคราม ปิ๊งไอเดีย “สืบทอดอำนาจ” ด้วยวิถีทางเลือกตั้งภายหลังเดินทางเยือน 17 ประเทศในโลกศิวิไลซ์เมื่อปี พ.ศ.2498

แม้กว่า 15 ปีที่ “ป. พิบูลสงคราม” ครองอำนาจการเมืองจะมีฐานรากมาจากการปฏิวัติ 2475 แต่ “จอมพล ป.” ก็ไม่เคยคิดเดินตามครรลองประชาธิปไตยแบบตะวันตกอย่างแท้จริง

เพิ่งจะคราวนี้ที่เมื่อกลับมาจากการเยือนประเทศต่างๆ ซึ่งเจริญแล้ว “จอมพล ป.” ถึงกับอนุญาตให้ตั้งพรรคการเมืองได้ พร้อมกันนั้น จอมพล ป.ก็ตั้ง “พรรคเสรีมนังคศิลา” ขึ้นมาแล้วนั่งเป็น “หัวหน้าพรรค” เองอย่างสง่าผ่าเผย

“ป. พิบูลสงคราม” เป็น “ดาวฤกษ์” ไม่ใช่ดาวเคราะห์!

Advertisement

จอมพล ป.เป็นนายทหารระดับมันสมอง ยืนอยู่ในแถวหน้ามาตั้งแต่ชั้นยศยังเล็กๆ มีความเป็นผู้นำ ไม่ใช่หุ่นเชิด ไม่ใช่ตัวตลกที่ผู้คนจะแอบซุบซิบนินทาหยามหยัน

ทั้งเมื่อตัดสินใจ “เปลี่ยน” เส้นทางการครองอำนาจจาก “ปืน” สู่ “เสียงประชาชน” จอมพล ป.ก็ลงมือเล่นเองจริงๆ ไม่ใช่แค่อยากมีอำนาจต่อไป แต่วางตัวแบบแอบๆ ซ่อนๆ

เมื่อบอกว่า จะจัดให้มีการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2500 จอมพล ป.ก็ประกาศว่า “ทหารไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับการเมือง การค้า และการรัฐประหารซึ่งเป็นเรื่องล้าสมัย”

Advertisement

โลกเปลี่ยนไป “จอมพล ป.” ลงสู่สนามรับเลือกตั้งใน กทม. ส่วน “ท่านผู้หญิงละเอียด พิบูลสงคราม” ภริยาก็ลงสมัครที่จังหวัดนครนายก

พรรคเสรีมนังคศิลา กวาดมาได้ถึง 86 ที่นั่ง จาก 160

แม้การเลือกตั้งในปี 2500 จะถูกปลุกปั่นว่า “สกปรกที่สุด” เพื่อเป็น “ชนวน” นำไปสู่การปฏิวัติรัฐประหารในเดือนกันยายน 2500 ตามแผนของ “สายอนุรักษนิยม” ทั้งฝ่ายทหารและพลเรือน

แต่คราวนั้นก็ยังไม่ถึงกับเป็นการเลือกตั้งภายใต้ “ยุทธศาสตร์โกง” อย่างมีแบบแผน และเป็นขบวนการ !

เป็นธรรมเนียมไปแล้วว่า ในการยึดอำนาจการปกครองด้วยกำลังพลรบและกำลังอาวุธทุกครั้ง “ผู้นำรัฐประหาร” จะอ้างว่าเป็น “คนกลาง” มาขจัดความทุจริตฉ้อฉล ความเหลวแหลก และสร้างความสงบเรียบร้อย ขอให้ประชาชนอย่าต่อต้านขัดขืน

“คณะรัฐประหาร” ไม่มีความประสงค์ในอำนาจทางการเมือง

การใช้สำนวนหรือวาทกรรมแตกต่างกันไปตามยุคสมัย

แต่พฤติกรรมเลียนแบบของหัวหน้าคณะรัฐประหารก็ซ้ำๆ ซากๆ

บทเรียนมี-ไม่เรียน-ไม่จำ !?!!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image