งานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 40 ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม-7 เมษายน 2562 บรรดาค่ายรถยนต์ต่างนำเสนอ รถยนต์ไฟฟ้า ค่อนข้างคึกคักกว่าครั้งที่ผ่านๆ มา
การนำเสนอของบรรดาค่ายรถยนต์ มีทั้งเป็นรถต้นแบบ รถยนต์ขายจริง แต่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าจริงๆ 100% หรือที่เรียกกันว่ารถยนต์จากอีวี
ไม่ใช่รถยนต์ไฮบริดที่มีส่วนผสมระหว่างเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันและใช้ไฟฟ้าแบตเตอรี่ รถประเภทนี้จะกลายเป็นรถโบราณในอนาคตอันใกล้นี้
แม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าตอนนี้ ยังจะไม่ใช่รถยนต์ขายดีเหมือนรถยนต์ทั่วไป แต่ก็นับว่าสถานการณ์รถยนต์ไฟฟ้าในบ้านเรา และเป็นเทรนด์สำคัญของยานยนต์ในอนาคตอันใกล้ ปีนี้ดูคึกคักขึ้นมาบ้าง
ประเด็นสำคัญที่มีผลกระทบทำให้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยยังดูเหมือนไปไม่ถึงไหน
ปัจจัยหลักคือเรื่องของราคาและระยะทางในการวิ่ง รวมทั้งความสะดวกในการชาร์จไฟ
สำหรับไฮไลต์รถยนต์ไฟฟ้าในงานมอเตอร์โชว์ปีนี้ พาเหรดมากันหลายเจ้า เริ่มจาก
– อาวดี้ อี-ตรอน เป็นการเปิดตัวยนตรกรรมรถยนต์พลังงานไฟฟ้า อี-ตรอน ต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก รุ่นที่นำมาเปิดตัว คือ อาวดี้ อี-ตรอน 55 ควอทโทร ราคา 5,099,000 บาท ระบบการขับเคลื่อน 4 ล้อ คอวทโทร ไฟฟ้า มีมอเตอร์ไฟฟ้าติดตั้ง 2 ตำแหน่ง ที่ด้านหน้าและด้านหลังเพื่อส่งกำลังไปยังล้อโดยตรง ทำให้เกิดการตอบสนองฉับไว ทั้งการออกตัว หรือว่าการเร่งแซงทำได้รวดเร็ว
ให้กำลังสูงสุด 266 กิโลวัตต์ หรือ 360 แรงม้า และเพิ่มขึ้นเป็น 408 แรงม้าใน บูสต์โหมด การชาร์จไฟ 1 ครั้งมีระยะทางขับได้ 417 กม. พื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านหลัง มีความจุ 660 ลิตร
– มิตซูบิชิ อี-อีโวลูชั่น โชว์ตัวครั้งแรกในงานโตเกียวมอเตอร์โชว์ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว มางานนี้เพื่อสร้างสีสัน ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า มอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัวทำงานร่วมกับชุดแบตเตอรี่ที่ติดตั้งอยู่ใต้ท้องรถ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อควบคุมด้วย ดูอัล มอเตอร์ แอคทีฟ ยอว์ คอนโทรล (Dual Motor Active Yaw Control) สามารถควบคุมแรงบิดในโค้งที่ล้อหลังเพื่อเพิ่มเสถียรภาพการขับขี่
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อในอี-อีโวลูชั่นเป็นเทคโนโลยี (Super All-Wheel Control-S-AWC) ช่วยให้รถครอสโอเวอร์รุ่นนี้มีแฮนดลิ่งแบบเดียวกับรถสปอร์ต ขณะที่คาลิปเปอร์เบรกเป็นระบบไฟฟ้า ไม่ใช่แบบไฮดรอลิกส์เหมือนเบรกทั่วไป
รถครอสโอเวอร์ต้นแบบรุ่นนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI (artificial intelligence) สามารถส่งเสริมศักยภาพและช่วยเหลือผู้ขับขี่ได้ด้วยเซ็นเซอร์หลายตัวที่ช่วยตรวจจับสภาพถนนและการจราจร นอกจากนี้ยังมี
– ฮุนได โคนา หลังจากฮุนไดเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นไอออนิกไปเมื่อปีที่แล้ว ล่าสุดงานนี้เปิดตัวรุ่น โคน่า อิเล็กทริค เพิ่งเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ยุโรปเมื่อไม่นานมานี้
ฮุนได โคน่า อิเล็คทริก มีให้เลือกสองรุ่น แตกต่างกันที่ระยะการขับขี่ รุ่น SEL ให้พลังงานยาว 64 กิโลวัตต์ชั่วโมง ขับได้ระยะไกล 482 กิโลเมตร ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงถึง 395 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร ใช้เวลา 7.6 วินาที
รุ่น SE ใช้แบตเตอรี่ระยะสั้นแบบให้พลังงาน 39.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง ขับได้ระยะทาง 312 กิโลเมตร ให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 395 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร ใช้เวลา 9.7 วินาที เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมือง
รุ่น SEL ราคาเริ่มต้น 2,259,000 บาท และ รุ่น SE ราคา 1,849,000 บาท
– เอ็มจี แซดเอส อีวี เป็นรถต้นแบบพลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของเอ็มจี มาเผยโฉมในประเทศไทย ก่อนที่จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการภายในปีนี้
เชื่อว่าเมื่อเริ่มจำหน่ายจะทำให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าบ้านเราคึกคักไปอีกสเต็ปอย่างแน่นอน เพราะความเป็นยักษ์ใหญ่ของเอสเอไอซี มอเตอร์ ยักษ์ใหญ่จากประเทศจีนที่เข้ามาผนึกกำลังกับซีพี ยักษ์ใหญ่ในประเทศไทย บุกตลาดรถยนต์ ในนามเอ็มจี
ดังนั้น เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนารถยนต์ของเอ็มจีต้องการยกระดับและขับเคลื่อนธุรกิจยานยนต์ในอนาคตด้วยรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
จึงส่งรถต้นแบบมาเผยโฉมก่อน ให้กำลังสูงสุด 110 กิโลวัตต์ หรือ 150 แรงม้าวิ่งด้วยความเร็วคงที่ไกลสูงสุด 428 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง หรือ 335 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ของยุโรป
ส่วนรูปร่างทุกอย่างจะเหมือน เอ็มจี แซดเอฟทุกอย่าง ติดตั้งระบบการเชื่อมต่ออัจฉริยะในรถยนต์ตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่
รถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นนี้มีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ในเร็วๆ นี้ ก่อนจะทยอยแนะนำสู่ประเทศชั้นนำต่างๆ ทั้ง อังกฤษ เยอรมนี และอีกหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย
– นิสสัน ลีฟ เพิ่งเปิดตัวและเปิดราคาไปเมื่อนานมานี้ ราคาคันละ 1.99 ล้านบาท และยังมีค่าติดตั้งระบบชาร์จไฟฟ้าที่บ้านอีกหลายหมื่นบาท แต่ทางนิสสันคาดว่า หลังจากเริ่มส่งมอบรถยนต์ให้กับลูกค้าได้ในเดือนเมษายนนี้ รับรองได้ว่าคึกคักแน่นอน
อันตวน บาร์เตส ประธาน นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย บอกว่า ลูกค้าที่มาจอง นิสสัน ลีฟ เป็นลูกค้าที่ศึกษาเรื่องรถยนต์ไฟฟ้ามาอย่างดีแล้ว จึงไม่มีคำถามเกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยีมากนัก แต่มาซื้อเพราะชอบความเงียบ ความสะดวกสบายในอนาคตของการใช้รถยนต์ที่ไม่ต้องดูแลเหมือนรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน และดีต่อสิ่งแวดล้อม
– ฟอมม์ เป็นค่ายรถยนต์อีกค่าย แม้ว่าไม่ใช่รายใหญ่ แต่ก็เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ามาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ในงานมอเตอร์โชว์ปีนี้ ชิงจังหวะเปิดตัวรุ่นใหม่ทีเดียว 2 รุ่น ได้แก่ ฟอมม์ วัน คอมแพคต์ เอ็มพีอีวี เหมาะกับลูกค้าที่มีความต้องการใช้รถยนต์ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดในธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เพราะปรับพื้นที่ภายใน โดยถอดเบาะหลังและด้านข้างออก เพื่อใช้บรรทุกสินค้า
และ ฟอมม์ วัน พรีเมียม คอนเซ็ปต์ เป็นรถขนาดกะทัดรัดเช่นกัน แต่จะตกแต่งให้ดูหรูหรา เพื่อจับตลาดลูกค้าอีกกลุ่ม
– ไมน์ เป็นรถยนต์ไฟฟ้าค่ายเล็กๆ อีกค่าย นำรุ่น ไมน์ สปา วัน (MINE SPA1) เป็นรถครอบครัวขนาด 5 ที่นั่ง ผลิตด้วยวัสดุน้ำหนักเบา เสริมความแข็งแรงด้วยอะลูมิเนียมแพลตฟอร์ม อัตราความเร็วสูง 140 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง ใช้แบตเตอรี่ลิเที่ยมไอออนขนาด 30 kWh พร้อมเทคโนโลยี สโตบา (STOBA) ช่วยป้องกันการลัดวงจรจากภายในเซลล์แบตเตอรี่ สาเหตุหลักของการเกิดไฟไหม้ขับเคลื่อนให้วิ่งได้ระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ใช้เวลาชาร์จเพียง 15 นาที ด้วยระบบการชาร์จ แบบ ควิก ชาร์จ และยังรองรับการชาร์จแบบ เอซี นอร์มอล (AC Normal)
เหล่านี้ล้วนเป็นนวัตกรรมไม่ใช่สำหรับอนาคตอีกต่อไป แต่จะเป็นนวัตกรรมยานยนต์สำหรับวันนี้
เพียงแต่ยังมีอุปสรรคด้านราคายังสูงลิ่ว รอวันเพื่อให้รัฐบาลได้เข้ามาช่วยลดภาษีทั้งรถยนต์นำเข้าและรถยนต์ที่ผลิตในประเทศ ได้รับการสนับสนุนด้านภาษีกว่าที่ผ่านมา
อย่าไปจำกัดการสนับสนุนเฉพาะรถยนต์ผลิตในประเทศ เพราะผู้ผลิตรถยนต์แต่ละรายฝีมือการผลิตไม่เท่ากัน
เพียงแต่ไม่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคในบ้านเราได้ เพราะติดอุปสรรคด้านราคา และโดนบรรดาค่ายรถยนต์ขาใหญ่บล็อกเอาไว้ ไม่ให้รถยนต์ไฟฟ้าเกิดขึ้นในประเทศไทยได้อย่างรวดเร็ว