ย้อนไปนั่งดูยูทูบ เมื่อ 1 กรกฎาคม 2558 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรัฐประหารและนายกรัฐมนตรี บ่นยิ่งกว่าหมีกินผึ้ง ตำหนิโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือที่เรียกกันว่า “30 บาทรักษาทุกโรค” ด้วยท่วงท่าดุดัน ด้วยสำนวนมันปากดังต่อไปนี้
“รัฐบาล (เก่า) ไม่ใส่ใจในเรื่องงบสาธารณสุข มันไม่พอ เพราะรัฐบาล (เก่า) ไปทำรักษาทุกโรคไงเล่า มันเป็นไปได้มั้ยเล่า มันเป็นโครงการประชานิยม แต่เรามีความพร้อมหรือยัง ทุกโรคไหวมั้ยเล่า โรงบาลก็จะเจ๊ง เจ๊งทำอะไรไม่ได้ทั้งหมด ผมถามว่า ประเทศไทยพร้อมมั้ยล่ะ เค้ามีกัน 190 กว่าประเทศ ยังไม่ทำเลย ทำกี่ประเทศแบบนี้ รัฐบาลใครทำมาละ มันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง มันบิดเบือน แล้วก็มาเรียกร้องๆ ผมล้ม
ได้มั้ยละ วันนี้ก็เป็นภาระอยู่อย่างนี้ วันหน้าอีกไม่กี่ปีโรงบาลจะเจ๊งทั้งหมด ก็ชื่นชมเข้าไปคนที่คิดอันนี้ขึ้นมา”
ในเวลานั้น ได้แต่ปลงด้วยความหดหู่ใจที่ได้ยินได้ฟังทรรศนะอันกว้างไกลยิ่งใหญ่ไพศาลของผู้นำประเทศ
การลงทุนด้านสาธารณสุขเป็น “ภาระ” (ไม่ใช่เพื่อปัจจุบันและอนาคต)
ประเทศไทยไม่พร้อม!
แต่ในปีเดียวกัน และปีถัดๆ มา รัฐบาลประยุทธ์ทุ่มงบมหาศาลซื้อเรือดำน้ำและรถถังมือสอง
ไม่มีใครปริปากวิพากษ์วิจารณ์ด้วยอารมณ์อันฉุนเฉียวเกรี้ยวกราด ตำหนิว่า ไม่มีความจำเป็น ประเทศชาติจะเจ๊ง!
จากวันนั้น กรกฎาคม 2558-กันยายน 2562 ล่วงผ่านไปกว่า 4 ปี
วันนี้ที่ มหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ก่อนการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 74 จะเริ่มขึ้น
มีการประชุมระดับสูงว่าด้วย “หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” หรือยูเอชซี
นายกรัฐมนตรีไทยแถลงว่าอย่างนี้
“ความสำเร็จด้านสาธารณสุขของไทยมีพื้นฐานมาจากระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ครอบคลุมประชากรเกือบหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ การลงทุนด้านสุขภาพเป็นการลงทุน ทั้งเพื่อปัจจุบันและอนาคต ประชาชนที่มีสุขภาพดีจะเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน”
เป็นนายกรัฐมนตรีคนเดิม
พล.อ.ประยุทธ์มีท่วงท่าปลาบปลื้มมากที่นานาประเทศชื่นชมไทย ยกให้เป็น 1 ในประเทศที่ก้าวเดินนำล้ำหน้าในด้าน “หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า”
ต้องขอบคุณ “คนคิด” กับ “คนทำ” ที่เริ่มโครงการนี้มาตั้งแต่ปี 2545 หรือไม่ !?!!
