คุณโผงกับคุณจำเรียงเป็นสามีภรรยากัน
แรกๆ ก็รักใคร่กันดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝั่งคุณโผง แต่หลังๆ มานี้ คุณโผงชักจะมีอาการแปลกๆ
ในที่สุด คุณโผงขับไล่คุณจำเรียงไม่ให้อยู่ที่บ้านเดียวกัน แล้วต่อมาลายของคุณโผงก็ออกมาให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้น โดยนำผู้หญิงคนใหม่เข้ามาอยู่ในบ้าน หวังให้แทนที่คุณจำเรียง
คุณจำเรียงไหนเลยจะยินยอมพร้อมใจโดยดี กลับมาบ้านเจอะหน้าเมียใหม่กับคุณโผงอี๋อ๋ออยู่ด้วยกัน จึงมีปากเสียงกัน มีลงไม้ลงมือกันบ้าง
โดยทางฝั่งคุณจำเรียงใช้ไม้ฟาดเอาคุณโผงด้วยความโมโหสุดขีด
คุณโผงได้ที รีบไปหาแพทย์ที่โรงพยาบาล ให้รักษา นำเอาผลการรักษานั้นไปฟ้องศาลขอให้พิพากษาให้หย่ากับคุณจำเรียง
อ้างเหตุว่าโดนคุณจำเรียงทำร้ายร่างกาย เข้ากรณีเป็นเหตุฟ้องหย่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516(3)
“เสร็จแน่มรึง” คุณโผงคิดในใจ
ศาลชั้นต้นพิพากษา ให้คุณโผงและคุณจำเรียงหย่าขาด จากการเป็นสามีภริยากัน
คุณจำเรียงอุทธรณ์คดี
ศาลชั้นอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง!!
คุณโผงฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาว่าคุณจำเรียงทำร้ายร่างกายคุณโผงเป็นการร้ายแรงเป็นเหตุ ฟ้องหย่าได้ตามมาตรา 1516(3) แล้วหรือไม่
ข้อเท็จจริงได้ความว่าคุณจำเรียงทำร้ายคุณโผงเพราะความหึงหวงที่คุณโผงมีภริยาใหม่ แสดงว่าคุณจำเรียงยังรักใคร่คุณโผงอยู่ ส่วนการทำร้ายนั้น ได้ความจากคำพิพากษาศาลชั้นต้นว่า คุณจำเรียงใช้ไม้ตีทำร้ายร่างกายคุณโผง เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษปรับ คุณจำเรียง 1,000 บาท คุณโผงมิได้นำแพทย์ผู้ตรวจบาดแผลมาเบิกความว่า ได้รับบาดเจ็บมากน้อยเพียงใด
การที่ศาลพิพากษาลงโทษปรับคุณจำเรียงเพียง 1,000 บาท แสดงว่าบาดแผลที่ได้รับ
ไม่เป็นอันตรายร้ายแรง
จึงฟังไม่ได้ว่า คุณจำเรียงทำร้ายร่างกายคุณโผง เป็นการร้ายแรง อันเป็นเหตุให้ฟ้องหย่าได้ตาม มาตรา 1516(3)
พิพากษายืน คือ ไม่ให้หย่า
เป็นอันว่า-เหลว!
คุณโผงดิ้นไม่หลุด หนีไม่พ้น
ใครๆ ที่คิดถึงเหตุเดียวกันนี้อยู่ อยากจะใช้เหตุฟ้องหย่าประเด็นนี้ ดูไว้เป็นอุทาหรณ์ละกัน
(เทียบคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4402/2539 )
+++++++++++++++++++++
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 1516 เหตุฟ้องหย่ามีดังต่อไปนี้
(3) สามีหรือภริยา ทำร้ายหรือทรมานร่างกายหรือจิตใจ หรือหมิ่นประมาทหรือเหยียดหยามอีกฝ่ายหนึ่ง หรือบุพการีของอีกฝ่ายหนึ่ง ทั้งนี้ถ้าเป็นการร้ายแรงอีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
โอภาส เพ็งเจริญ [email protected]