เหยี่ยวถลาลม 5พ.ย.2562 : คนดีที่ต้องลี้ภัย

ใครที่รู้จัก พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ จริงๆ จะต้องยอมรับว่า เป็นตำรวจที่ดีมีอุดมการณ์และเป็นคนกล้าหาญที่หาได้ยากคนหนึ่งในประเทศ

เช่นนั้นก็จะเกิดคำถามว่า “เป็นคนกล้าหาญ” แล้วทำไมจึงไปขอลี้ภัยอยู่ในออสเตรเลีย

การหนีอาจเป็นความฉลาด !

หลังจาก “ปวีณ พงศ์สิรินทร์” รับหน้าที่เป็น หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮีนจา เมื่อปี 2558 ภายใต้รัฐบาล คสช.ก็ใช้เวลาราว 5 เดือนรวบรวมพยานหลักฐานสอบปากคำพยานเป็นสำนวนหนากว่า
2 แสนหน้ากระดาษ พอถึงเดือนตุลาคมก็มีคำสั่งให้ยุติสอบสวนพร้อมกับมีคำสั่งย้าย “ปวีณ” จากรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ไป “ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้”

Advertisement

ถึงวันที่ 5 เดือนพฤศจิกายน 2558 พล.ต.ต.ปวีณก็ยื่นใบลาออกและให้สัมภาษณ์ว่า

“ผมไม่อยากเอาชีวิตมาทิ้งเหมือน พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ที่ท่านเก่งมากและยังชำนาญพื้นที่ด้วย แต่สุดท้ายก็ต้องมาถูกยิงตายก่อนเกษียณราชการไม่นาน ทั้งๆ ที่ท่านเคยขอย้ายออกจากพื้นที่ ยิ่งตัวผมด้วยแล้วยิ่งเสี่ยงมาก ทำคดีค้ามนุษย์โรฮีนจามากับมือ ทำไมผมจะไม่รู้ว่าอะไรเป็นยังไง”

แต่ก่อนจะ “หนี” พล.ต.ต.ปวีณก็ยังพอมีเวลาจึงประกาศว่าจะยังคงทำงานร่วมกับคณะอัยการสูงสุดอีกระยะหนึ่งเพื่อให้คดีที่ถือเป็นประวัติศาสตร์ครั้งนี้มีความสมบูรณ์

Advertisement

คดีค้ามนุษย์โรฮีนจา กลายเป็นคดีประวัติศาสตร์จริงๆ

ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 62 คน ยกฟ้อง 40 คน

กระทั่งสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อถึงชั้นศาลอุทธรณ์ ศาลแก้โทษให้จำคุก 76 คน ยกฟ้อง 26 คน

พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตเตรียมทหาร 16 รุ่นที่มีบทบาทสำคัญในปฏิบัติการรัฐประหาร 22 พ.ค.2557 อดีต ผอ.กอ.รมน. และอดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกเจ้าของสำนวน “คุณตำรวจ ผมไม่ใช่ตะเกียงขาดน้ำมันนะ ผมมีพรรคมีพวก” ถูกเพิ่มโทษจำคุกจาก 27 ปี เป็นจำคุก 82 ปี

นับเป็นคดีประวัติศาสตร์ที่ต้องปรบมือให้กับกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ ตั้งแต่ชั้นสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ชั้นฟ้องร้องกับการว่าความของอัยการ และในชั้นพิจารณาตัดสินของศาล

เพียงแต่น่าเศร้าก็ตรงที่ เส้นทางราชการตำรวจของ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ต้องปิดฉากลง ทั้งๆ ที่ในเวลานั้นนายกรัฐมนตรีมี “ม.44” อยู่ในมือ !?!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image