⦁…หากดู “เกมแก้รัฐธรรมนูญ” ที่ “ฝ่ายค้าน” เล่นเกมรุก มี “รัฐบาล” เป็น “ฝ่ายรับ” แม้จะเริ่มเห็นชัดว่า “ยากเย็นอยู่ไม่น้อย” แต่เพราะดูจากท่าทีของทุกฝ่ายแล้วสะท้อนให้เห็นว่า “เกมนี้เข้มข้นแน่” ที่จะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คือการปะทะกันระหว่าง “อำนาจนิยม” กับ “เสรีนิยม” ซึ่งในโลกยุคเครื่องมือสื่อสารคุณภาพเข้าถึงประชาชนอย่างทั่วถึงเช่นนี้ จะเป็นวาระสำคัญของการ “ให้ความรู้การเมืองกับประชาชน”
⦁…เป็น “นักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน” การจะแสดงท่าทีในทาง “ไม่เห็นด้วยกับสิทธิเท่าเทียมกันของประชาชน” ย่อมมี “บางคน” เท่านั้นที่กล้าพูด ด้วยเพราะองค์ประกอบที่หนุน “อำนาจนิยม” นั้น “พรรคการเมือง” มีบทบาทอยู่ด้วย ดังนั้น ความเป็น “เอกภาพ” ของรัฐบาล ต่อท่าทีแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงน่าจะมีปัญหาอยู่ไม่น้อย
⦁…แน่นอนว่า “กลุ่มที่สืบทอดมาจาก คสช.” และ “พวกสมทบ” ที่ “เสวยวาสนาจากการแต่งตั้ง” ย่อมมั่นคงต่อการสนับสนุน “อำนาจนิยม” เต็มร้อย ด้วยหมายถึง “ประโยชน์ที่ตัวเองจะได้รับ” แต่สำหรับ “พรรคร่วมรัฐบาล” น่าจะแสดงออกไม่ง่ายนัก ที่ชัดเจนคือ “ประชาธิปัตย์” ดูจะต้อง “แตกตัวออกมา” เพื่อรักษา “ศักดิ์ศรีของนักการเมือง” ขณะที่ “พรรคอื่น” ไม่ว่าจะพยายามรักษาผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้องแค่ไหน แต่หากจะให้ออกมา “ต้านเสรีนิยม” น่าจะเป็นเรื่องที่ “ไม่เต็มใจ” นัก อย่างว่าแต่ “ชาติไทย-ภูมิใจไทย” เลย กระทั่ง “บางกลุ่มในพลังประชารัฐ” ก็ต้องนึกถึง ว่า “จะถูกประชาชนมองด้วยสายตาแบบไหน”
⦁…เพราะชัดเจนแล้วว่า “เศรษฐกิจปีหน้า” จะสาหัส ดังนั้นบทบาทของ “สภาผู้แทนราษฎร” ที่ต้องทำหน้าที่ “ตรวจสอบรัฐบาล” น่าจะเน้นที่ชี้ให้เห็น “ความรู้ความสามารถของคณะรัฐมนตรี” ว่ามีมากน้อยแค่ไหนกับการบริหารจัดการประเทศ และประเด็นหนึ่งที่จะต้องหยิบมาพูดถึงคือความเหมาะสมของ “อำนาจนิยม” ใน “โลกเสรี” ซึ่ง 2 ญัตติที่จ่อเข้าสู่วาระสภาผู้แทน คือ “ปัญหาที่เกิดจากการใช้ ม.44” และ “อภิปรายไม่ไว้วางใจ” จะเสนอภาพให้เห็นชัดว่า “รัฐบาลอำนาจนิยม” ส่งผลต่อ “การพัฒนาประเทศ” อย่างไร และแน่นอนว่าจะส่งผลต่อเหตุผลที่จะต้อง “แก้รัฐธรรมนูญ”
⦁…ว่าเฉพาะ “ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ” เที่ยวนี้ หาก “ฝ่ายค้าน” ทำข้อมูลมาดีพอ โดยชี้ให้เห็น “ผลที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจของประเทศ” โดยเปรียบเทียบกับ “ประเทศเพื่อนบ้าน” เพื่อชี้ให้เห็น “ความสามารถที่แตกต่างของผู้นำ” และ “ปัญหาจากอำนาจผูกขาด” โดยวิเคราะห์ถึง “ผลสะเทือนต่อเนื่องที่จะตามมา” เพื่อว่าจะเห็น “ข้อมูล” ที่ส่งผลต่อความรู้สึกของประชาชน รุนแรงเสียยิ่งกว่า “หลักฐานการทุจริต”
⦁…ไม่เพียงคำของ นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ที่ส่งไปถึง “ปารีณา ไกรคุปต์” ที่ว่าด้วย “เล้าไก่ 1,700 ไร่” ว่า “ที่ดินรัฐศักดิ์สิทธิ์นะครับ ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้” เท่านั้น แต่นับจากนี้เรื่องราว “ส.ส.ของคนราชบุรี” ผู้นี้ น่าจะเข้มด้วยสีสันขึ้น ในฐานะ “กรรมาธิการ ป.ป.ช.” ที่มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เป็นประธาน บทที่ถูกวางมาเป็น “ตัวป่วน” เมื่อปะทะกับ “ขาลุยมือเก๋า” งานนี้ “มีได้มีเสีย”
⦁…เหตุการณ์ “ยิงสนั่นฆ่ากันคาบัลลังก์” ที่ “ศาลจันทบุรี” คงเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ของการดูแลความปลอดภัยในศาล อาชีพ “ผู้พิพากษา” มีหน้าที่ “ชี้ถูก ชี้ผิด” ตัดสินลงโทษคน หนีไม่พ้นย่อมต้องการทั้ง “ความพอใจ หรือไม่พอใจ” ให้กับคนที่ได้รับผลกระทบ หากหละหลวมในการป้องกันระวัง ย่อมเป็นเรื่อง “น่าห่วง”
⦁…กำหนดการ พิธีเปิดนิทรรศการ “THE BUDDHAS OF THE PAST” วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2562 ณ ห้องนิทรรศการหมุนเวียน 6 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป 13.00 น. แขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชน ลงทะเบียน 14.00 น. นายอนันต์ ชูโชติ (อดีตอธิบดีกรมศิลปากร) ประธานในพิธีเดินทางมาถึง ณ บริเวณพิธีเปิดงาน 14.10 น. -การแสดง PIANO SOLO โดย ด.ช.มินเมฆ คูภานุมาต -รองศาสตราจารย์ ดร.ฉลองเดช คูภานุมาต กล่าวรายงานการจัดงานนิทรรศการ -ประธานในพิธีกล่าวเปิดงานนิทรรศการ พร้อมรับมอบของที่ระลึกและร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก -รองศาสตราจารย์ ดร.ฉลองเดช คูภานุมาต นำชมผลงานในนิทรรศการ พร้อมด้วยประธาน และแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน 15.00 น. เสร็จสิ้นพิธีเปิดนิทรรศการ