ที่จริงแล้วผู้นำไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่องไม่ต้องเก่งกล้าสามารถทุกทาง
คุณสมบัติที่ผู้นำจะต้องมี คือ ทัศนคติที่ดีกับการนำที่มีวิสัยทัศน์
ผู้นำก็เหมือนกับผู้คนทั่วไปที่เกิดจากครรภ์มารดาเดียว เจริญวัยในครอบครัวหนึ่ง การรับรู้และประสบการณ์จึงมีข้อจำกัดเช่นเดียวกับคนอื่นๆ
พอโตขึ้นก็เลือกเรียนรักที่ชอบหรือที่ชะตากรรมผลักไส ไม่มีใครสามารถที่จะเรียนรู้ได้ทุกเรื่องหรือวิเศษไปเสียทุกด้าน จึงไม่จำเป็นต้องโอ้อวดในด้านที่ไม่ถนัด
ไม่รู้เรื่องเศรษฐกิจก็สงบปากสงบคำแล้วเปิดใจรับฟังผู้เชี่ยวชาญจะเข้าท่ากว่า
ไม่ได้ร่ำเรียนเชี่ยวชาญมาทางด้านวิทยาศาสตร์กายภาพของสมองจาก “ฮาร์วาร์ด” เหมือนกับ “คุณหนูดี” วนิษา เรซ ทั้งยังไม่เคยอ่านไม่เคยศึกษาเรื่องสมองอย่างลึกซึ้ง จะไปล่วงรู้ได้อย่างไรว่า เซลล์สมองมีจำนวนเท่าไหร่
ไม่รู้เรื่องวิทยาศาสตร์ ไม่ได้เรียนแพทย์ ก็อย่าสะเออะอวดหางอึ่ง
ไม่ใช่ครู ไม่ใช่ผู้รู้ เจอหน้าครูก็ขอโน้มตัวต่ำโค้งคำนับขอความรู้ ท่วงท่าจะงามสง่าขึ้น
“ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ควรจะต้องเข้าใจว่า ตัวเองเรียนมาด้านการทหาร
เอาความรู้อะไรไปอวดโอ่ต่อหน้าครูเล็กครูใหญ่และอภิมหาคุณครู ในวันครู ที่ห้องประชุมคุรุสภา ว่า “ทุกอย่างมันอยู่ในหัวผม สมองมีอยู่ 84,000 เซลล์ ไม่มีคอมพิวเตอร์ไหนเก่งเท่าสมองเรา อย่าให้มันใช้งาน
ไม่ครบ บางคนใช้ข้างเดียว หรือใช้แค่ข้างหน้า ข้างหลัง หรือข้างๆ มันมีคนละหน้าที่อยู่แล้ว ใช้ให้ครบ
ไม่งั้นสมองก็จะฝ่อหมด”
เมื่อระดับนายกรัฐมนตรีพูดออกไปว่า “เซลล์สมองมนุษย์มี 8.4 หมื่นเซลล์” หลายคนก็ทนไม่ได้กับที่ข้อมูลผิดๆ จะถูกแพร่ออกไป ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ แห่งคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงสวนเอาว่า สมองคนมีเซลล์มากมายมหาศาลถึง 1 แสนล้านเซลล์
“วอยซ์ออนไลน์” ค้นข้อมูล ดร.ซูซานนา เฮอร์คิวลาโน-ฮูเซล นักประสาทวิทยา มายืนยันว่า แม้แต่เซลล์สมองแมลงสาบ ยังมีถึง 1 ล้านเซลล์, หนู มี 75 ล้านเซลล์, แมว มี 1,000 ล้านเซลล์, สมองชิมแปนซี มี 7,000 ล้านเซลล์ และช้าง มี 2,300 ล้านเซลล์
ถ้าเชื่อตามที่ “ประยุทธ์” วอนสอนครูก็เท่ากับว่า หัวสมองคนไทยจะแย่กว่าแมลงสาบ !?!!
