แม้ว่าในปัจจุบัน บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด จะมุ่งหน้าไปสู่รถยนต์ประเภทปลั๊กอินไฮบริดเพิ่มขึ้น หรือรถเบนซ์รุ่นใหม่ที่มีตัว e ตามท้ายทั้งหลาย
แต่สำหรับรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซล เน้นในเรื่องความประหยัด ทรงพลังและทนทาน ของค่ายเบนซ์ ก็ยังคงมีให้เลือกอยู่หลายรุ่น โดยเฉพาะดาวเด่นอย่างรุ่น อี 220 ดี สปอร์ต (E 220 d Sport)
E 220 d Sport รุ่นล่าสุดเป็นรุ่นประกอบในประเทศ ดีไซน์ภายนอก กระจังหน้าสีเงินเสริมโครเมียม พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ปลายท่อไอเสียเสริมโครเมียม 2 ท่อ ล้ออัลลอยแบบ 5 ก้าน ขนาด 18 นิ้ว สี ทรีมโมไลท์ เกรย์ (tremolite grey) ไฟหน้าแบบ แอลอีดี ไฮ เพอร์ฟอร์แมนซ์ (LED High Performance) ไฟ เดย์ไทม์ สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน แบบแอลอีดี ไฟเบอร์-ออพติก กระจกมองข้างด้านผู้ขับขี่และกระจกส่องหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ
ดีไซน์ภายใน ยังคงเน้นความหรูหราและความสะดวกสบายสไตล์รถเบนซ์ ด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง อาร์ติโก เบาะคู่หน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำสำหรับตำแหน่งที่นั่งพวงมาลัย และกระจกมองข้าง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนัง แนปป้า เป็นพวงมาลัยนิรภัยพร้อมเพาเวอร์ปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า ปรับน้ำหนักตามความเร็วรถ
มีปุ่มควบคุมแบบสัมผัส (Touch Control button) แผงหน้าปัดแบบ อนาล็อก ระบบออดิโอ 20 จีพีเอส พร้อมจอแสดงผลขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมเพิ่มสุนทรียภาพในการโดยสารด้วยระบบไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารปรับได้ถึง 64 สี
ระบบความปลอดภัย และเทคโนโลยี มาพร้อมกับระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ (PRE-SAFE system) มาแบบอัดแน่น ได้แก่ โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP (Electronic Stability Program) ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock Braking System) ระบบเบรก อแดพทีฟ เบรก พร้อมฟังก์ชั่น โฮลด์ และฮิลล์-สตาร์ต แอสซิสต์ สำหรับการออกตัวบนทางลาด
มีระบบรักษาความเร็ว (cruise control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC) ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST) เซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด (PARKTRONIC) ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Parking Pilot including Active Parking Assist) และกล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยรถ
รวมถึงระบบปรับรูปแบบการขับขี่ ไดนามิก ซีเลกต์ (DYNAMIC SELECT) ปรับช่วงล่างได้ตามต้องการ
นอกจากนี้ ทางเบนซ์ยังได้เติมระบบพิเศษสำหรับ รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาสทุกรุ่น ยังมาพร้อมกับบริการ เมอร์เซเดส มี คอนเน็กต์ (Mercedes me connect) มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ อาทิ เมอร์เซเดส-เบนซ์ อีเมอร์เจนซี่ คอล ซิสเทม (Mercedes-Benz emergency call system) บริการช่วยเหลือจากสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือในขณะที่คุณได้รับอุบัติเหตุ รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์จะทำการติดต่อไปยังศูนย์บริการฉุกเฉิน จะช่วยประสานงานด้านความปลอดภัย เพื่อช่วยเหลือให้คุณได้รับความปลอดภัยสูงสุด
ระบบวิเคราะห์สภาพรถยนต์ (Telediagnostics) ด้วยบริการรีโมต รีทรีฟวัล ออฟ วีฮิเคิล สเตตัส (Remote Retrieval of Vehicle Status) คอยรายงานสถานะของรถยนต์ไปยัง เมอร์เซเดส มี และด้วยบริการ Telediagnostics คอยส่งข้อมูลและสถานะของรถยนต์ไปยังศูนย์บริการที่เลือกไว้ เมื่อตรวจพบความเสียหายเพื่อให้ได้รับการซ่อมบำรุงที่รวดเร็วและแม่นยำที่สุด
มีระบบตั้งค่ารถยนต์ (Pre-installation for Vehicle Set-up) และระบบสตาร์ตเครื่องยนต์พร้อมเปิดระบบปรับอากาศภายในห้องโดยสารด้วยโทรศัพท์มือถือ (Remote Engine Start for Pre-entry Climate Control)
มีระบบ รีโมต ดอร์ ล็อก/อันล็อก (Remote Door Lock/Unlock) ช่วยให้ล็อกรถได้จากทุกที่ทั่วโลก มีระบบ พรี-เอ็นทรี่ ไคลเมท คอนโทรล (Pre-entry Climate Control) สามารถสั่งเปิดระบบเครื่องปรับอากาศทางไกลได้ก่อนจะถึงตัวรถ ช่วยให้คุณสตาร์ตและออกเดินทางไปกับความเย็นสบาย และหากต้องเดินทางไปยังสถานที่แปลกใหม่ ไม่ต้องกังวลเรื่องตำแหน่งที่จอดรถอีกต่อไปด้วยระบบ พาร์ค วีฮิเคิล โลเคชั่น (Parked Vehicle Locator) ช่วยแสดงตำแหน่งของรถยนต์ภายในรัศมี 1.5 กิโลเมตร เพื่อให้ค้นหารถยนต์ที่จอดไว้ได้ อย่างง่ายดาย รวมไปถึงวีฮิเคิล แทรคเกอร์ (Vehicle Tracker) ระบบติดตามตำแหน่งรถยนต์ผ่านจีพีเอส และยังมีระบบจีโอเฟนซิ่ง ฟังก์ชั่นช่วยจำกัดพื้นที่การขับขี่ เพื่อให้มั่นใจได้ว่ารถยนต์จะปลอดภัยและอยู่ในการควบคุมของเรา
รวมทั้งระบบวีฮิเคิล สเตตัส (Vehicle status) บอกสถานะความพร้อมของอะไหล่รถยนต์ และคอยประสานงานแจ้งเตือนทั้งทางลูกค้าและโชว์รูม
สำหรับ E 220 d Sport รุ่นประกอบในประเทศ ราคา 3,399,000 บาท ถือว่าเป็นรถยนต์ที่ค่อนข้างสมบูรณ์ในเรื่องสมรรถนะการขับขี่ การเกาะถนน ความประหยัด หรือแม้แต่ความหรูหรา มาแบบเต็มพิกัดตามสไตล์ เมอร์เซเดส-เบนซ์
นายพล