การกล่าวย้อนไปถึงปี ค.ศ.1918 หรือ พ.ศ.2461 นั้นอาจจะนานเกินไป ไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่ในความทรงจำอีกต่อไปเพราะคนรุ่นนั้นล่วงหน้าไปกันหมดแล้ว
ที่เหลืออยู่จึงถูกเรียกว่า “ประวัติศาสตร์”
แต่ประวัติศาสตร์มีเรื่องราวมากมายให้น่าศึกษาเสมอ
หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 สิ้นสุดลง ประวัติศาสตร์ได้บันทึกเอาไว้ว่า สงครามคร่าชีวิตผู้คนไปไม่น้อยกว่า 16 ล้านคน
แต่ควันสงครามไม่ทันจางหาย “ไข้หวัดใหญ่” ที่ต่อมาถูกเรียกว่า “ไข้หวัดใหญ่สเปน” ระบาดหนักในยุโรป อเมริกา กระทั่งลุกลามกระจายไปทั่วโลก ชั่วเวลาเพียง 18 เดือน ประชากรโลก 1 ใน 3 ติดเชื้อ และมีผู้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 50 ล้านคน
มาถึงปี ค.ศ.2019 จนล่วงเข้า 2020 ในวันที่วิทยาศาสตร์ก้าวหน้าล้ำเลิศ ไม่มีใครคาดคิดว่า “ภัย” จากการเจ็บไข้ได้ป่วยประจำฤดูกาลคล้าย “ไข้หวัด” ธรรมดาๆ จะหวนย้อนกลับมาเขย่าโลกอีกครั้ง
“โควิด-19” บุกโจมตีแพร่เชื้อทั่วโลกแล้วเกือบ 1 ล้านคน เสียชีวิตทะลุ 3 หมื่น !
ยังไม่มียารักษา ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน
ถามว่า เมื่อ 100 ปีก่อนนี้ ยามที่ผู้คนในโลกต้องเผชิญกับภัยจากธรรมชาติที่เรียกว่า “ไข้หวัดใหญ่สเปน” เคยมีคำแนะนำหรือคำเตือนต่างๆ กันอย่างไร
ไม่ต่างไปจากวันนี้ ที่ให้ปิดปากปิดจมูกด้วยผ้าหรือหน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงไปอยู่ในที่อับหรือที่คนรวมตัวกันแออัด ไม่ไอ ไม่จาม ไม่สั่งมูกหรือน้ำลายในที่สาธารณะ หมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ กับหลีกเลี่ยงสัมผัสหรือร่วมกิจกรรมกับผู้ป่วย
คนทั้งโลกจะต้องรื้อฟื้น “ความทรงจำ” กับต้อง “ปัดฝุ่น” แนวปฏิบัติเก่าๆ ขึ้นมาประพฤติ นับตั้งแต่การกิน การอยู่ที่สะอาด ถูกสุขอนามัยเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง ของผู้เป็นที่รักที่ห่วงใย คนใกล้ชิด และเพื่อนมนุษย์
วันนี้เหมือนหนังเก่ากลับมาฉายใหม่ แต่เป็นเวอร์ชั่นปรับปรุงที่มีชื่อว่า “ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่” หรือ
“โควิด-19” ระบาดลามไปทั่วโลกแล้ว 180 ประเทศ พร้อมกำลังสอนผู้คนด้วย “ความเจ็บ” และ “ความตาย”
ไม่มีข้อยกเว้นคนรวย คนจน นอนอยู่ในคฤหาสน์หรูหรือใต้สะพานลอย ป้ายรถประจำทาง สถานีรถไฟฟ้า
ไม่เลือกสถานะว่าใหญ่เล็ก ไม่แบ่งชนชั้น ไม่เลือกหน้าตาและอาชีพ
โลกจะเปลี่ยนไปเมื่อตัวเองเปลี่ยน !?!!
