รายงานข่าวจาก อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ผู้จัดงานอาเซียน ซัสเทนเนเบิล เอ็นเนอร์จี้ วีก (ASEAN SUSTAINABLE ENERGY WEEK-ASE 2020) งานแสดงเทคโนโลยีและการประชุมด้านพลังงานครบวงจรใหญ่ที่สุดในอาเซียน ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) จัดสัมมนาทางออนไลน์ ครั้งที่ 2 (ASE Webinar Series #2) ขึ้นในหัวข้อ ผลกระทบของโรคระบาดโควิด-19 ต่อกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าในตลาดในภูมิภาคเอเชีย (Impactof Covid-19 Outbreak on Electric Vehicle Market in Asia)
อัลเลน ทอม อับราฮัม ผู้ช่วยบรรณาธิการ บลูมเบิร์กเอ็นอีเอฟ กล่าวว่า แม้ว่ายอดการจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้าในหลายประเทศ เช่น จีน ญี่ปุ่น อินเดีย จะลดลง แต่กลับเพิ่มขึ้นในบางตลาด เช่น เกาหลีใต้ อเมริกา และในยุโรปบางประเทศ โควิดจะส่งผลกระทบด้านลบในระยะสั้นต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ทำให้ยอดขายลดลง แต่ระยะยาวการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าจะกลับมาเพิ่มขึ้น สาเหตุหลักไม่ใช่เพียงแค่ปัจจัยเรื่องการผันแปรของราคาน้ำมันในตลาดโลก แต่เป็นผลจากนโยบายของรัฐบาลแต่ละประเทศยังคงให้ความสำคัญต่อความยั่งยืน และยังคงอุดหนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่มีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม นอกจากนี้ราคาแบตเตอรี่สำหรับใช้ขับเคลื่อนในกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้ามีราคาลดลงอย่างต่อเนื่อง จะกระตุ้นการเติบโตธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าแต่ละประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้าแบบ 2 ล้อ ยานยนต์ไฟฟ้าใช้สำหรับเชิงพาณิชย์และยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อบริการสาธารณะ ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่าหลังจากปี 2563 ได้รับผลกระทบโควิด สัดส่วนการจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้าในตลาดโลกจะกลับมาเพิ่มขึ้น และมีสัดส่วนถึง 58% ในปี 2583 และสัดส่วนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 31% ในปี 2583 นอกจากนี้ยังศึกษาพบว่าภูมิภาคที่จะเติบโตของการใช้ยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นชัดเจนคือ อาเซียน โดยเฉพาะเวียดนาม อินโดนีเซีย ไทย และฟิลิปปินส์
นางสาวซ่อนกลิ่น พลอยมี ผู้อำนวยการกองพัฒนาและเชื่อมโยงการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ กล่าวว่า แม้จะมีการระบาดของโรคโควิด-19 รัฐบาลไทยจะยังคงให้การส่งเสริมการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าและอุตสาหกรรมต่อเนื่องได้สิทธิพิเศษทางภาษีสูงสุดถึง 8 ปี ปัจจุบันมีโครงการขอเข้ามาลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้ากับบีโอไอแล้วกว่า 30 โครงการ ส่วนใหญ่เดินหน้าแล้ว และมีจะเริ่มดำเนินการในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ยังคงเป้าหมายเดิมไม่เปลี่ยนแผนจากเดิมแม้จะมีโควิด
นายกฤษฎา อุตตโมทย์ อุปนายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) กล่าวว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าจะเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่จะมาแรงหลังวิกฤตโควิด เพราะแม้โควิดจะส่งผลให้ราคาน้ำมันลดลง แต่คนเริ่มตระหนักถึงความสำคัญในการปรับตัวสู่อนาคต ภายใต้ชีวิตวิถีใหม่ต้องใส่ใจเรื่องอากาศ สิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนมากขึ้น รัฐบาลไทยตั้งเป้าหมายใช้ยานยนต์ไฟฟ้า 250,000 คัน รถเมล์ไฟฟ้า 3,000 คัน และจักรยานยนต์ไฟฟ้า 53,000 คันในปี 2568 หากเป็นช่วงเวลาปกติคงได้เห็นการเดินหน้าของโครงการยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ แต่สถานการณ์โควิด-19 ทำให้เกิดหยุดชะงักชั่วคราว อาจเห็นความล่าช้าการลงทุนบ้าง แต่สมาคมยังคงมองว่าหากมีมาตรการสนับสนุนผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเป็นรูปธรรม จะเห็นการเติบโตของอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องหลังจากนี้ เพราะประเทศต่างๆ ทั่วโลกจะยังดำเนินตามแผนในการลดการปล่อยคาร์บอนฯ และลดฝุ่นพีเอ็ม 2.5 รวมไปถึงแผนปฏิบัติการลดก๊าซเรือนกระจก
ทั้งนี้ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ กำหนดจัดกิจกรรม เอเอสอี เว็บบินาร์ ซีรีส์ เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมในงาน อีเลกทริก วีฮิเคิล เอเชีย และ อินเตอร์เนชั่นแนล อีเลกทริก วีฮิเคิล เทคโนโลยี คอนเฟอเรนซ์ แอนด์ เอ็กซิบิชั่น (ไออีวีเทค 2020) ครั้งที่ 5 จัดขึ้นพร้อมกับงาน อาเซียน ซัสเทนเนเบิล เอ็นเนอร์จี้ วีก (ASE 2020) วันพุธที่ 16 ถึงวันศุกร์ที่ 18 กันยายน 2563 ณ ไบเทค บางนา
