เหยี่ยวถลาลม 25ก.ค.2563 : ที่หนาไม่ผิด-ที่นิดไม่ได้

ก่อนจะมีรัฐประหารในเดือน พ.ค.2557 ฝ่ายบริหารหรือรัฐบาลโดยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม “คิดการใหญ่” เตรียมจะลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย

ให้มี “รถไฟความเร็วสูง”

สภาผู้แทนราษฎรผ่านร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท

ใครจะไปคิดว่าจะถูกดับฝัน !

Advertisement

นายสุพจน์ ไข่มุกด์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแสดงทรรศนะชี้นำด้วยความมั่นใจในระหว่างการไต่สวนนายชัชชาติว่า

“เอาถนนลูกรังให้หมดไปจากประเทศไทยก่อน ทำสิ่งต่างๆ ให้เสร็จก่อนไปคิดถึงระบบความเร็วสูง ความเห็นส่วนตัวผมคิดว่า ความเร็วสูงยังไม่จำเป็นสำหรับประเทศไทย และเงินกู้ 2 ล้านล้านบาทนี่ คุณชัชชาติตายไปเกิดใหม่มารุ่นลูกรุ่นหลานก็ยังใช้หนี้ไม่หมดเลย”

“ชัชชาติ” ไม่ได้เดือดดาลหน้าแดง แต่แววตาหมองเศร้า

Advertisement

จินตนาการอันบรรเจิดสูญสิ้น !

วลีนั้นยังกึกก้องอยู่ในหู

“รถไฟความเร็วสูงยังไม่จำเป็นกับประเทศไทย ควรจะให้ถนนลูกรังหมดไปก่อน”

คำวินิจฉัยชี้ขาดจากศาลรัฐธรรมนูญออกตามนั้น

ยิ่งไปกว่านั้น “ความปรารถนาดี” ที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศด้วย “พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน” ยังถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า “ขัดรัฐธรรมนูญ” ด้วยเหตุที่มี ส.ส.บางคน “กดบัตรลงคะแนน” แทนกัน

“กระบวนการ” ตรา พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านถูกชี้ว่า “ไม่ชอบด้วยกฎหมาย”

หลักการก็คือ ส.ส. 1 คนควรจะมี “1 เสียง”

หลักต่อมาคือ ผู้เป็น ส.ส. ต้องไม่อยู่ในอาณัติหรือถูกครอบงำใดๆ

“มติ” ของสภาผู้แทนราษฎรในการร่าง “พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน” ถูกชี้ว่า “เป็นมติที่ไม่ชอบ”

ผลก็คือ ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ !

6 ปีต่อมา

ในระหว่างที่มีการพิจารณา “ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ พ.ศ.2563” วาระสอง ตั้งแต่มาตรา 31 เป็นต้นไป และวาระสาม เห็นชอบทั้งฉบับนั้น นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ร้องว่า
“มี ส.ส.ในพรรคฝ่ายรัฐบาลกดบัตรลงคะแนนแทนกัน”

เลขาธิการสภาฯยอมรับว่าเป็นความจริง

แต่ พ.ร.บ.งบประมาณปี พ.ศ.2563 ไม่ล้ม และรัฐบาลก็ไม่คว่ำ !

นั่นแค่ 1 ตัวอย่าง

“ความไม่คงเส้นคงวา” ในการวินิจฉัยหรือชี้ขาดข้อพิพาทหรือคดีที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในสังคมไทย
นับเป็นอันตรายแก่ “คณะบุคคล” และ “องค์กร” !?!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image