คุณจำนูญยืมเงินคุณโผง 1 แสนบาท รับเงินไปแล้ว แต่ไม่ได้ทำสัญญากู้ยืมกันไว้หรอก
ต่อมาวันที่ 27 พฤศจิกายน 2535 คุณจำนูญได้ออกเช็คสั่งจ่ายเงิน 1 แสนบาท ลงวันที่ล่วงหน้า เป็นวันที่ 27 มกราคม 2536 เพื่อชำระหนี้ให้แก่คุณโผง โดยในวันออกเช็คนั้น คุณจำนูญได้ทำบันทึกมอบไว้แก่คุณโผงว่า “ได้ออกเช็คนี้เพื่อชำระหนี้ ที่กู้ยืมเงินจากคุณโผงไว้แล้ว”
ทว่าเมื่อถึงกำหนด คุณโผงนำเช็คไปเข้าบัญชีธนาคารปฏิเสธที่จะจ่ายเงิน !!!!
คุณโผงไปฟ้องขอให้ลงโทษคุณจำนูญตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 มาตรา 4
ศาลชั้นต้น พิพากษายกฟ้อง!!
คุณโผงอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน คือยกฟ้อง!!!
คุณโผงฎีกาคดีอีก
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การกระทำใดจะมีมูลความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ มาตรา 4 จะต้องพิจารณาได้ความว่า มีหนี้ที่จะต้องชำระก่อน และหนี้นั้นจะต้องบังคับได้ตามกฎหมาย และได้มีการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ดังกล่าวนั้น
สำหรับกรณีนี้ได้ความว่า คุณจำนูญยืมเงินคุณโผงไป 1 แสนบาท โดยไม่มีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือแต่อย่างใด ต่อมาวันที่ 27 พฤศจิกายน 2535 จึงได้ออกเช็คสั่งจ่ายเงิน 1 แสนบาท ลงวันที่ล่วงหน้าเป็นวันที่ 27 มกราคม 2536 เพื่อชำระหนี้ให้แก่คุณโผง โดยในวันออกเช็คคุณจำนูญได้บันทึกไว้ด้วยว่า “ได้ออกเช็คนี้เพื่อชำระหนี้ ที่กู้ยืมเงินจากคุณโผงไว้แล้ว” คุณโผงมีเฉพาะเอกสารนี้ฉบับเดียวอ้างเป็นหลักฐานว่าคุณจำนูญกู้เงินไป 1 แสนบาท
เห็นได้ว่าบันทึกนี้ ได้ทำขึ้นภายหลังที่ออกเช็คแล้ว แม้จะได้ทำในวันเดียวกันก็ตาม
ถือได้ว่า ขณะที่คุณจำนูญออกเช็คให้คุณโผงนั้น แม้จะฟังว่าคุณจำนูญเป็นหนี้คุณโผงอยู่จริง แต่หนี้นั้นก็ไม่อาจบังคับได้ตามกฎหมาย
การกระทำของคุณจำนูญจึงขาดองค์ประกอบความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 มาตรา 4
การกระทำของคุณจำนูญจึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรคหนึ่ง
ฎีกาของคุณโผงฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน
คือ คุณจำนูญไม่ต้องจ่าย-สบายไป
(เทียบคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7322/2538)
++++++++++++++++++
พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534
มาตรา 4 ผู้ใดออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย โดยมีลักษณะหรือมีการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้
(1) เจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น
(2) ในขณะที่ออกเช็คนั้นไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้
(3) ให้ใช้เงินมีจำนวนสูงกว่าจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ในขณะที่ออกเช็คนั้น
(4) ถอนเงินทั้งหมดหรือแต่บางส่วนออกจากบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินตามเช็คจนจำนวนเงินเหลือไม่เพียงพอที่จะใช้เงินตามเช็คนั้นได้
(5) ห้ามธนาคารมิให้ใช้เงินตามเช็คนั้นโดยเจตนาทุจริต
เมื่อได้มีการยื่นเช็คเพื่อให้ใช้เงินโดยชอบด้วยกฎหมาย ถ้าธนาคารปฏิเสธไม่ใช้เงินตามเช็คนั้น ผู้ออกเช็คมีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกินหกหมื่นบาทหรือจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือทั้งจำทั้งปรับ
โอภาส เพ็งเจริญ [email protected]