เหยี่ยวถลาลม 8ส.ค.2563 : รักกับชัง

ทําไม “แดง” กับอีกหลายคนจึงยังคงมีความเชื่อว่า “คนชังชาติ” มีอยู่จริง

“ชังชาติ” เป็นวาทะกรรมที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแบ่งแยกทางการเมืองระหว่าง “เขา” กับ “เรา”

ย้อนไปแต่ก่อนนี้ ใครไม่เชื่อฟังไม่ทำตาม จอมพล ป. พิบูลสงคราม ก็ว่าเป็น “ภัยคุกคาม” ของชาติ

แต่ “ป.” ก็ล่มสลายลงด้วย “สฤษดิ์” ที่ใช้กำลังแห่งกองทัพเข้าหักหาญ ไม่ใช่ “พวกชังชาติ” !

Advertisement

สิ้นสฤษดิ์ในปี พ.ศ.2506 “ถนอม-ประภาส” ก็สืบทอดอำนาจต่อจนถึงกาลอวสานในวันที่ 14 ตุลา 2516

นึกว่าจะสิ้นสุดระบอบการเมืองอภิสิทธิ์ชน !

วันที่ 6 ตุลา 2519 กลายเป็นจุดยูเทิร์นทางการเมือง “อำนาจ” หวนคืนสู่อภิสิทธิ์ชนอีกครั้งพร้อมๆ กับ
วาทะกรรมที่ทำลายฝ่ายตรงข้ามว่าเป็นภัยคุกคามของชาติ

Advertisement

“ชาติ” กับอภิสิทธิ์ชนเป็นหนึ่งเดียวกันมาตั้งแต่ยุคจอมพล ป.ใครท้าทายอำนาจรัฐเป็นกบฏ เป็นพวกแบ่งแยกดินแดนและคอมมิวนิสต์

ถัดมาในยุคสฤษดิ์ คำว่า “คอมมิวนิสต์” ก็ยังใช้ได้ดีจนถึงกับนายกรัฐมนตรีสั่ง “ยิงเป้า” นายครอง
จันดาวงศ์ อดีตเสรีไทยอดีต ส.ส.สกลนคร ณ หลักประหาร กลางลานเมืองสว่างแดนดิน ชนิดที่ไม่ได้รู้สึกผิดบาปอับอาย

จากยุคถนอม-ประภาส -14 ตุลา 16 -6 ตุลา 19 ก็ยังใช้คำว่า “คอมมิวนิสต์” ทำลายฝ่ายตรงข้าม กระทั่งมี “นโยบาย 66/23” คอมมิวนิสต์จึงเดินทางถึงบทสุดท้าย

แม้ไม่มีอะไรจะให้ใช้เป็นภัยคุกคามอีกแล้ว “อภิสิทธิ์ชนในกองทัพ” ก็ยังคงช่วงชิงอำนาจกันเอง เช่น เมษาฮาวาย ปี 2524 และกบฏ 9 กันยา 2529

ทักษิณ-เสื้อแดง-ล้มเจ้า-เผาบ้านเผาเมือง เป็นวาทะกรรมที่ผุดขึ้นในยุคหลัง เพื่อยืนยันถึง “ความชอบธรรม” ในการยึดครองอำนาจทางการเมืองภายใต้การค้ำจุนของ “กองทัพ”

ในวันนี้ทักษิณเปลี้ยเต็มทีแล้ว

ยังมี “คนรุ่นใหม่” ขี้สงสัย และปฏิเสธรัฐบาลที่ทหารสนับสนุน

“สีส้ม” ที่สดใสกาววาวจึงได้กลายเป็น “ส้มเน่า”

น้องนุ่งลูกหลานเยาวชนที่ชอบวิจารณ์รัฐบาลก็เป็นพวก “ฟันน้ำนม”

ไม่ว่าใครก็ตามที่คิดจะผลักไส “อภิสิทธิ์ชน” ออกไปจากบัลลังก์แห่งอำนาจทางการเมืองมันผู้นั้นเป็น “พวก
ชังชาติ”

ไม่มีผู้รุกรานให้กองทัพไทยขับไส

ไม่มีใครมาตอกลิ่มให้ประชาชนแตกแยก

นอกจาก “อภิสิทธิ์ชน” ผู้รักชาติ !?!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image