ส.ว.บางคน “กล้า” ถึงกับอวดอ้างว่า การให้มี “ส.ส.ร.” ยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่เป็น “การทรยศ” ต่อ 16.8 ล้านเสียงที่มี “ประชามติ” เห็นชอบกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้
“ทรยศ” คำนี้ช่างชวนให้ทรมานหัวใจนัก
“รัฐประหาร” ไม่ยิ่งกว่าการทรยศหักหลังหรือ
เป็น “ข้าราชการ” ใช้กำลังอาวุธเข้าล้มล้างการปกครอง ฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง โทษถึง “ประหารชีวิต”
“ที่มา” ของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผิดตั้งแต่ต้น “250 ส.ว.” เป็น “ผล” ของต้นไม้พิษมี “ความชอบธรรม”
ตรงไหน
ยังมี “ส.ว.” บางคนอ้างว่าแทนที่จะสิ้นเปลืองงบประมาณ 2 หมื่นล้านไปกับการร่างรัฐธรรมนูญและทำประชามติใหม่ ควรจะเอาเงินนั้นไปซื้อวัคซีนโควิด-19 ดีกว่า
ตอนทหารจะซื้อ “เรือดำน้ำ” ไม่เห็นมี “ส.ว.” กล้าออกมาขวางแม้แต่คนเดียว !
ยิ่งเลอะกันใหญ่เมื่อบางคนออกมาขู่ว่า จะชงเรื่องแก้รัฐธรรมนูญไปให้ “ศาลรัฐธรรมนูญ” กับ “ป.ป.ช.”
การแตะต้องรัฐธรรมนูญฉบับที่ “ดีไซน์มาเพื่อพวกเรา” อาจถูกกล่าวหาว่า “ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข” ตามมาตรา 49 ทั้งยังอาจถูก “ป.ป.ช.” ฟ้องให้ยุบพรรค ตัดสิทธิการเมือง 10 ปี
อาจารย์พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต แห่งนิด้าได้ยินได้ฟังแล้วยัง “ไม่ทน” จนต้องบอกว่า ดูแล้ว ส.ว.ดิ้นรนอย่างหนัก หยิบยกข้ออ้างสารพัด ใช้เหตุผลที่มีนัยยะดูถูกประชาชน กล่าวร้ายผู้อื่น บางคนหนักมากถึงกับแสดงความ “ไร้วุฒิภาวะ” จนน่าเอือมระอา ทั้งหมดเป็นไปเพื่อรักษาสถานภาพ อำนาจ และผลประโยชน์จากความมีอภิสิทธิ์
“นั่นคือ เป็นหลักฐานตอกย้ำว่า รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องใคร่ครวญอย่างหนักว่า ควรจะมี ส.ว.อีกต่อไป
หรือไม่”
รัฐธรรมนูญที่ดีคือกติกาที่บัญญัติการแบ่งสันปันส่วนอำนาจอย่างยุติธรรม มีการตรวจสอบและถ่วงดุล ไม่ซุกซ่อนความขี้ฉ้อเกื้อกูลประโยชน์แก่หมู่พวกคณะใด
จะฝ่ายแพ้หรือฝ่ายชนะก็มีวาระแน่นอน และมีการเปลี่ยนผ่านอย่างสันติ !
การอวดอ้าง “ประชามติ” 16.8 ล้านเสียงเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับรัฐธรรมนูญฉบับที่เรียกว่า
“ดีไซน์มาเพื่อพวกเรา” มีข้อกังขาค้างคาใจมาตลอดคือ ในวันนั้น คนที่เห็นต่าง ออกมาคัดค้าน ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ที่รณรงค์ โหวตโน ถูกจับกุมดำเนินคดีนับร้อยคน
“รัฐธรรมนูญ” คืออะไร ทำไมจะแก้ไข หรือเขียนใหม่ไม่ได้
รัฐธรรมนูญถือกำเนิดขึ้นจาก “2475”
หากไม่มี “วันนั้น” สิ่งที่เรียกว่า “รัฐธรรมนูญ” ก็ไม่มีในวันนี้ !?!!
