“6 ตุลาคม 2519” ในความทรงจำของสังคมไทยคืออย่างไร
พร่ามัวมาก
คนจำนวนน้อยนิดยังคงมีความเพียรทำให้ “6 ตุลา 2519” ไม่เลือนหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย
แต่ส่วนมากไม่รู้ ไม่สนใจไถ่ถาม ไม่เห็นความสำคัญ
ก่อนจะลงมือสังหารหมู่นิสิตนักศึกษาและประชาชนผู้ชุมนุมในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในตอนเช้าตรู่ของวันที่ 6 ตุลาคม 2519 นั้นต้องมีสัญญาณ
ให้ “ถนอม กิตติขจร” บวชเป็นพระห่มผ้าเหลืองกลับเข้าประเทศ
ยั่วยุ จุดไฟในใจคน !
ให้หนังสือพิมพ์ดาวสยามและสถานีวิทยุยานเกราะปลุกระดม “บิดเบือน” การแสดงละครเวทีของนักศึกษาด้วยการป้ายสีว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ !
ให้ทหารตำรวจจากชายแดนเข้าปิดล้อม “ธรรมศาสตร์” ปลุกปั่นว่าซ่องสุมกำลังคนและอาวุธก่อการ “เปลี่ยนแปลงการปกครอง”
เมื่อเงื่อนไขสุกงอมเต็มกำลังก็มี “ความชอบธรรม”
จุดชนวนแล้วลงมือฆ่า !
เช้าตรู่ 6 ตุลาคม 2519 มวลชนจัดตั้งฝ่ายขวากับตำรวจในเครื่องแบบกรูเข้าธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ พร้อมเสียงร้องตะโกน “ฆ่ามันๆๆๆ”
ยังมีภาพประจักษ์หลักฐานการสังหารหมู่ !
ผู้ชุมนุมถูกฆ่า ถูกจับกุมตีตรวน คนสั่งฆ่ากับมือฆ่า “ลอยนวล”
พลังนักเรียนนักศึกษาที่เพิ่งจะเบ่งบานจบลงด้วยการเข่นฆ่าอย่างโหดร้ายป่าเถื่อนที่สุดในประวัติศาสตร์
แม้จะล่วงมาถึงวันนี้ 44 ปีแล้ว แต่เรื่องราว “6 ตุลา 19” ก็ยังพร่ามัว
“อำนาจรัฐ” ที่มาจากรัฐประหารเรียกร้อง “ให้ลืม” ให้ลบออกจากความทรงจำ อย่าฟื้นฝอยหาตะเข็บ ให้สงบ ให้รู้รักสามัคคี
ส่วนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งก็ไม่แสวงหาความยุติธรรมให้กับคนตายและผู้สูญเสีย
แม้แต่ “ตั้งคำถาม” ยังไม่กล้า
วางเฉย ทนได้ ไม่อยากกล่าวถึง !
ถ้ามีรัฐบาลที่รู้ผิดชอบชั่วดีก็ต้องยอมรับความผิดพลาดและส่งเสริมให้มีการศึกษาค้นคว้ารวบรวมข้อมูลการสังหารหมู่ผู้ชุมนุมในวันที่ 6 ตุลาคม 2519
ให้เป็น “บทเรียน” ให้เรียน และสร้างบรรทัดฐานเพื่อไม่ให้สังคมไทยทำผิดซ้ำ
“6 ตุลา 19” คือประวัติศาสตร์การสังหารหมู่
การเพิกเฉยกับ “การฆ่า” ผู้ชุมนุมทางการเมืองหรือ “คนคิดต่าง” ทำให้ “คนสั่งการ” และ “คนฆ่า” ย่ามใจ
จึงเกิดเหตุการณ์ฆ่าแล้วฆ่าอีก ครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่เคยต้องรับผิด-ติดคุกแม้ใน พ.ศ.นี้ก็เถอะ
เชื่อได้หรือไม่ว่า จะไม่มี “การฆ่า” เกิดขึ้น !?!!