ค่ายเอ็มจีของจีนตอนนี้บุกตลาดรถยนต์ทั่วโลกเต็มที่ ไม่เฉพาะในเมืองไทย แต่ล่าสุดที่อินเดีย เอ็มจีได้เปิดตัวรถยนต์ประเภทปิกอัพดัดแปลง หรือ พีพีวี โดยการนำเอารถยนต์ปิกอัพไปดัดแปลงเป็นรถยนต์อเนกประสงค์เหมือนในบ้านเราขายดิบขายดีหลายยี่ห้อ เช่น โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์,มิตซูบิชิ ปาเจโรสปอร์ต,อีซูซุ มิวเอ็กซ์,นิสสัน เทอร์รา และ เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์
เอ็มจีเลือกอินเดียเป็นที่แรกกับการเปิดตัวพีพีวี 7 ที่นั่งรุ่นใหม่ ภายใต้ชื่อรุ่น เอ็มจี โกลสเตอร์ (MG Gloster) อย่าง
เป็นทางการ พัฒนามาจาก เอ็มจี เอ็กซ์เทนเดอร์ (MG Extender) รถปิกอัพที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่นักในบ้านเรา เพราะต้องมาเจอคู่แข่งที่แข็งแกร่ง จากค่ายรถญี่ปุ่น
สำหรับ เอ็มจี โกลสเตอร์ ก็คือฝาแฝด แมกซัส ดี90 (Maxus D90) กำลังได้รับการตอบรับอย่างดีจากจีนและออสเตรเลีย ด้วยบุคลิกคล้ายกัน แต่ปรับหน้าตาให้เหมาะกับความเป็นรถยุโรป
ตั้งแต่กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยม ไส้ในเป็นเส้นแนวนอน 3 ชั้น ติดโลโก้ เอ็มจี ออกแบบอยู่ในชุดกันชนหน้าขึ้นรูป พร้อมคิ้วช่วงล่างใต้กันชนหน้า ฝังไฟตัดหมอกหน้าทรงตั้ง เพื่อสะท้อนความดุดัน และไฟหน้าโปรเจ็กเตอร์ แบบแอลอีดี
หลังคาพานอรามิก ซันรูฟ แร็กหลังคา ไฟท้ายแอลอีดีท่อไอเสีย 2 ฝั่ง ล้อลายทูโทนขนาดใหญ่ 19 นิ้ว พร้อมยาง 255/55 R19
จุดเด่นของ เอ็มจี โกลสเตอร์ อยู่ที่โครงแชสซีส์แบบขั้นบันได หรือ แลดเดอร์-เฟรม แชสซีส์ (ladder-frame chassis) จึงทำให้สามารถดีไซน์ขนาดตัวรถใหญ่แบบ 5 ประตู ตัวรถยาว 4,985 มม. กว้าง 1,926 มม. สูง 1,867 มม. ฐานล้อ 2,950 มม. และความจุถังน้ำมัน 75 ลิตร
ดีไซน์ภายในต้องการสะท้อนความหรูหราด้วยแผงคอนโซลสไตล์ยุโรป เพื่อให้อารมณ์รถยนต์เอ็มจี ย่อมาจาก มอร์ริส การาจ แบรนด์ดังจากอังกฤษ โดย เซี่ยงไฮ้ ออโตโมทีฟ ของจีนไปซื้อแบรนด์มาทำตลาด
ติดตั้งมาตรวัดแสดงข้อมูลรถชัดเจนเหมือนรถหรู เบาะนั่งขนาด 7 ที่นั่ง คู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า 12 และ 8 ทิศทาง พร้อมมาตรวัดขนาดใหญ่พร้อมจอแสดงข้อมูลแบบแอลซีดี คอนโซลกลางติดตั้งจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมระบบเชื่อมต่อ เอ็มจี ไอสมาร์ท สามารถฟังเพลงออนไลน์ ระบบนำทางออนไลน์และสั่งงานด้วยเสียงได้ ลำโพงรอบคัน 12 จุด
พร้อมระบบกล้องรอบคัน 360 องศา เชื่อมต่อ แอปเปิลคาร์เเพลย์ และ แอนดรอยด์ออโต ประตูท้ายเปิดไฟฟ้า เพาเวอร์ เทลเกต ขยายความจุด้วยห้องสัมภาระท้าย 412 ลิตร เมื่อพับเบาะตอนสามจะได้พื้นที่ 1,140 ลิตร และพับทั้งเบาะตอนสองกับตอนสาม จะได้พื้นที่มากถึง 1,800 ลิตร นอกจากนี้ยังมีไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร 64 สี หรือ แอมเบียนท์ ไลท์ (ambient light) เหมือนในรถหรูหลายยี่ห้อ
ตลาดอินเดียมีขุมพลังเพียงเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร แต่มีความแรงให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ แบบเทอร์โบคู่ กำลังสูงสุด 218 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิด 480 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,400 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด จาก แซดเอฟ (ZF) ให้แรงดันคอมมอนเรลมากถึง 2,000 บาร์ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD with Terrain Selection 4WD with Terrain Selection) พร้อมระบบล็อกเฟืองท้าย (electronic differential lock – EDL)
และแบบเทอร์โบเดี่ยว กำลังสูงสุด 163 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิด 375 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,400 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด จาก แซดเอฟ ขับเคลื่อนล้อหลัง พร้อมช่วงล่างแบบ 5 ลิงก์ อินเทกรัล ซัสเพนชั่น (Link Integral Suspension)
ระบบความปลอดภัยมาแบบครบครัน ทั้ง ระบบควบคุมและปรับความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control -ACC),ระบบแจ้งเตือนและช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System-LKAS), และระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Autonomous Emergency Brake) เอ็มจี อินเดีย ตั้งราคาจำหน่าย เอ็มจี โกลสเตอร์ คันละประมาณล้านบาทเศษ
เอ็มจี เล็งผลเลิศ หมายมั่นปั้นมือว่า โกลสเตอร์ จะมาไล่บี้ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ไว้ตั้งแต่แรก เพราะมั่นใจว่าสเปกต่างๆ ทั้งมิติตัวถัง สมรรถนะและจำนวนอุปกรณ์ ไม่เป็นรองใครไม่ว่า ฟอร์จูนเนอร์ หรือค่ายไหน
สำหรับตลาดเมืองไทย รอดู เอ็มจี ไทยแลนด์ จะงัดไม้เด็ดเรื่องราคา ถ้ากดลงมาเหลือคันละล้านบาทต้นๆ ราคาต่ำกว่าคู่แข่งรายอื่นมากๆ และได้สเปกมาแบบนี้ เหมือนอย่างที่รถยนต์ เอ็มจี รุ่นอื่นเข้ามาตีตลาดรถญี่ปุ่นในบ้านเราเหมือนตอนนี้
งานนี้ เอ็มจี เอ็กซ์เทนเดอร์ รถปิกอัพที่เคยพลาดท่ารถปิกอัพญี่ปุ่นรุ่นอื่น อาจมีโอกาสได้ล้างตา คาดว่าไม่ช้าไม่นาน เอ็มจี ไทยแลนด์ เปิดแนวรบรถพีพีวีในบ้านเราแน่นอน
