เหยี่ยวถลาลม : คนที่ไม่เอาไหน

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงด้วยชัยชนะของฝ่ายสัมพันธมิตร การเลือกตั้งของอังกฤษในปี ค.ศ.1945 พรรคอนุรักษนิยมเชื่อมั่นว่า “วินสตัน เชอร์ชิล” วีรบุรุษสงครามจะชนะแบเบอร์

แต่การใช้วิจารณญาณของคนอังกฤษส่งผลให้การเลือกตั้งพลิกล็อกช็อกไปทั้งโลก

พรรคอนุรักษนิยมแพ้เลือกตั้ง “วินสตัน เชอร์ชิล” ต้องก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ “ผู้นำฝ่ายค้าน” ตั้งแต่ปี 1945-1951

ไม่เห็นว่ากองทัพอันเกรียงไกรกับทหารที่เคยอยู่ในบังคับบัญชาของ “วินสตัน เชอร์ชิล” จะออกอาการกร่างใส่ฝ่ายตรงข้ามของนายเก่า

Advertisement

นั่นคือ ความมีอารยธรรม !

ต่างกับที่ “ไม่มีอารยธรรม” ที่ใครมีพวก มีปืน มีคนประจบสอพลอ ก็จะรู้สึกพองตัว คับอกคับพุง !

ทั้งๆ ที่มี “หน้าที่” แต่พอถามอะไรเข้าหน่อยก็ได้แต่โย้ไปโย้มา พลิกพลิ้วชิวหา ทำตัวไม่รู้อะไรสักอย่าง

Advertisement

คุณหมอรายงานว่า ผู้ป่วยติดโควิด-19 มาจากบ่อนการพนันใน กทม.ยังไม่ทันได้คิด ได้ตรอง ได้สืบสวนทวนความ ก็โต้ว่า “ไม่มีบ่อน” ใครว่ามีก็ให้บอกมา

ส่วน “คุณตำรวจ” มีหน้าที่โดยตรง กลับบอกว่า นายบ่อนเป็นพวกขาใหญ่ อ้างผู้ใหญ่ จับไปก็ไม่มีหลักฐาน

ยิ่งนายกรัฐมนตรีไม่มีทีท่าว่าจะกล้าตำหนิติเตียนการทำหน้าที่ของ “กองกำลัง” ทหารที่ดูแลตามแนวชายแดนที่มีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมาย

โควิด-19 ระบาดรอบสองนี้ทำให้เดือดร้อนกันไปทั่วประเทศ

ต้นเหตุเกิดจาก “ส่วยแรงงานต่างด้าว” กับ “ส่วยบ่อนการพนัน”

เกี่ยวข้องกับภารกิจของใคร ทำไมไม่ยอมรับความจริง สำรวจจุดอ่อนข้อบกพร่องแล้วปรับปรุงแก้ไขอย่างผู้มีอารยะ

“คนไม่เอาไหน” มักจะชี้นิ้วชี้หน้ากล่าวหา แต่ผู้อื่น คิดแต่จะเข้าข้างตัวเอง คนพวกนี้จ้างให้ไปทำอะไรก็มักจะทำชุ่ยๆ ทำให้ผ่านๆไป ชีวิตใครต้องเข้าไปเกี่ยวข้องพัวพันคนพวกนี้ก็จะพบแต่ความยุ่งเหยิง

ในทางการเมือง คนพวกนี้จะเป็น “ภาระทางภาษี” ไม่เหมาะที่จะว่าจ้างให้ทำหน้าที่บริหารประเทศ

แต่ประเทศเรามี “กติกา” ที่ปิดทางคนเก่ง-เปิดช่องให้คนกร่างมีอำนาจ

ต่างกับประเทศที่มีอารยธรรม คนที่เป็น “ผู้นำ” ต้องได้อำนาจมาโดยชอบ มิใช่ฉ้อฉล !?!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image