คุณจำนูญออกเช็คลงวันที่ 1 สิงหาคม 2529 ให้คุณโผงเพื่อชำระหนี้เงินกู้ 125,000 บาท
เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2529 คุณโผงนำเช็คไปเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงิน แต่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน
คุณโผงจึงนำเช็คมาหาคุณจำนูญ
คุณจำนูญว่า “ขอคุณโผงอย่าได้วู่วามไปเลยเอาอย่างนี้ละกัน ฉันจะแก้ไขวันที่ออกเช็ค ลงวันที่ออกเช็คใหม่ เมื่อถึงวันนั้น ค่อยเอาไปเรียกเก็บเงิน ถ้าเรียกเก็บไม่ได้ค่อยมาว่าฉัน หรือจะไปฟ้องเอาฉันเข้าคุกก็ได้”
คุณจำนูญแก้ไขวันเดือนปีในเช็คเป็นวันที่ 31 ธันวาคม 2531 แล้วมอบเช็คให้คุณโผงไป
ครั้นวันที่ 4 มกราคม 2532 คุณโผงนำเช็คนั้นไปเรียกเก็บเงินครั้งที่ 2 แต่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินเช่นเดิม
คุณโผงจึงไปฟ้องคดี ขอให้ลงโทษคุณจำนูญตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 มาตรา 3
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า คุณจำนูญมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ มาตรา 3 ให้จำคุก
คุณจำนูญอุทธรณ์
ศาลชั้นอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
คุณโผงฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค เกิดขึ้นเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค
คดีนี้ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2529 คุณโผงจะต้องฟ้องคดีภายในสามเดือนนับแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินครั้งแรก
การที่คุณจำนูญแก้ไขวันเดือนปีในเช็คเป็นวันที่ 31 ธันวาคม 2531 แล้วมอบให้คุณโผงไปเรียกเก็บเงินอีกครั้ง และธนาคารตามเช็คคงปฏิเสธการจ่ายเงินเช่นเดิมนั้น จะถือว่าคุณจำนูญกระทำผิดครั้งใหม่ไม่ได้
คุณโผงมาฟ้องคดีเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2532 จึงเกิน 3 เดือนนับแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คครั้งแรก ฟ้องของคุณโผงขาดอายุความแล้ว ปัญหาข้ออื่นจึงไม่จำต้องวินิจฉัย
พิพากษายืน
นั่นคือ ยกฟ้อง!
(เทียบคำพิพากษาฎีกาที่ 984/2535)
++++++++++++++
พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534
มาตรา 4 ผู้ใดออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายโดยมีลักษณะหรือมีการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้
(1)-(5)
เมื่อได้มีการยื่นเช็คเพื่อให้ใช้เงินโดยชอบด้วยกฎหมาย ถ้าธนาคารปฏิเสธไม่ใช้เงินตามเช็คนั้น ผู้ออกเช็คมีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกินหกหมื่นบาทหรือจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือทั้งปรับทั้งจำ
มาตรา 5 ความผิดตามมาตรา 4 เป็นความผิดอันยอมความได้
โอภาส เพ็งเจริญ [email protected]