สะเทือนใจไปกับข่าวสารการเมือง โดย โคทม อารียา

บางคนคงเพลิดเพลินหรือสะเทือนใจไปกับข่าวอาชญากรรมหรือข่าวบันเทิงที่มีอยู่เต็มหน้าหนังสือพิมพ์หรือข่าวโทรทัศน์ แต่ผมขอเก็บตกข่าวสารการเมืองบางข่าวที่ไม่ปรากฏในสื่อใหญ่มาเล่าสู่กันฟัง ไม่แน่ใจว่าผู้อ่านจะสะทกสะท้อนใจไปกับผมหรือไม่ แต่ก็เอาเถอะ

เพื่อนอาจารย์คนหนึ่งแวะไปที่หมู่บ้านทะลุฟ้าในวันที่ 26 มีนาคม 2564 ก่อนการสลายการชุมนุมที่ หมู่บ้านŽ นี้ ด้วยความปรารถนาที่จะคุยกับหลวงพ่อรูปหนึ่ง ที่เดินมาพร้อมกับไผ่ ดาวดินตั้งแต่โคราชจนถึงข้างทำเนียบรัฐบาล บทสนทนามีโดยย่อดังนี้

คำขึ้นต้น: ขอแสดงความเคารพนับถือพระคุณเจ้าŽ

ตอบ: อย่าเคารพศรัทธาตัวอาตมา จงเคารพคำสอนของพระพุทธเจ้าŽ

Advertisement

ถาม: ทำไมจึงมาเดินกับประชาชนŽ

ตอบ: เพราะเห็นความทุกข์ของประชาชนผู้ถูกกดขี่ เหมือนที่อาตมาถูกกดขี่สมัยที่เป็นฆราวาส อาตมาบวชมาแล้ว 14 พรรษาŽ

ถาม:  ทำไมพระคุณเจ้าไม่จำวัดŽ

Advertisement

ตอบ: พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้จำวัดวาอาราม แต่พระองค์ชี้ไปที่ป่า ไปที่ต้นไม้ ที่ถ้ำ ที่ที่ประชาชนตกทุกข์ได้ยาก พระองค์ทรงสอนให้ไปค้นหาตนเองอยู่ในป่า อยู่ในเขา ให้เห็นตัวตน เห็นแก่นสารของธรรม ให้พบความจริง แล้วจึงค่อยไปโปรดผู้อื่นŽ

ถาม: หลังจากที่อยู่ในป่าแล้วออกมาอยู่ในสังคม พระคุณเจ้าเห็นอะไรบ้างŽ

ตอบ: เห็นว่าสังคมกำลังตกอยู่ในวิบาก พระสงฆ์จำนวนมากติดอยู่ในลาภยศ สรรเสริญ เจริญชีวิตในวัดวาอารามใหญ่โต พระพุทธเจ้าสอนให้ไปช่วยผู้ตกทุกข์ได้ยาก ช่วยให้พวกเขาเห็นธรรม แต่สังคมนี้มีแต่พิธีกรรม พระพุทธเจ้าสอนเรื่องการตั้งคำถามและการใช้หลักกาลามสูตร แต่สังคมไม่ทำตาม นี่คือแรงบันดาลใจให้อาตมาออกมาเดินกับประชาชนŽ

อาจารย์ที่เป็นเพื่อนของผมจึงถือว่า หลวงพ่อพุทธเชฏโฐภิกขุเป็นพุทธทายาทที่พยายามสืบสานหลักธรรม แต่มาถึงวันที่ 28 มีนาคม ท่านก็ถูกจับสึก นับเป็นวันแห่งความอัปยศและตกต่ำวันหนึ่ง

พอมาถึงวันที่ 29 มีนาคม หลังวันเลือกตั้งเทศบาลหนึ่งวัน สื่อต่าง ๆ ก็นำเสนอผลการเลือกตั้งพร้อมการวิเคราะห์ผลพอหอมปากหอมคอ ตำรวจแถลงว่าภาพรวมน่าพอใจ มีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งบางพื้นที่รวม 29 คดี มีความผิดเกี่ยวกับการซื้อเสียง 8 ราย ใน 6 จังหวัด ผมจึงนึกว่าเป็นการเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรม แต่พอมาอ่านใบแถลงของมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย (พีเน็ต) จะได้ภาพตรงกันข้าม โดยมูลนิธิฯมีข้อสังเกต ซึ่งสรุปโดยย่อได้ดังนี้

1. แต่ละเทศบาลมีผู้สมัครน้อย สมัครเป็นนายกเทศมนตรี 2-3 คน เป็นสมาชิกสภาเทศบาล 2-3 ทีม พรรคการเมืองใช้สนามเลือกตั้งท้องถิ่นเพื่อแผ่อิทธิพลทางการเมือง

2. กกต. ไม่รณรงค์ให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการบริหารจัดการท้องถิ่น ไม่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนและองค์กรเอกชน หากมีองค์กรเอกชนที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการเลือกตั้งอย่างเข้มแข็ง คงไม่มีการซื้อเสียงอย่างเปิดเผยและกว้างขวางเช่นนี้

3. มีรายงานว่าในเทศบาลที่มีการแข่งขันสูง เงินซื้อเสียงอาจสูงถึง 2,000 บาทต่อเสียง

4. หัวคะแนนบางคนเดินแจกเงินกลางวันแสก ๆ ตามบ้านเรือน เช่น แจกเงินสด 300 บาทให้กับมือผู้มีสิทธิเลือกตั้ง โดยเฉพาะในคืนหมาหอน จะเพิ่มจำนวนเงินที่แจกเป็นสองเท่า

เราล้วนอยากเห็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เข้มแข็ง ความเข้มแข็งนี้ส่วนหนึ่งจะมาจากการออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งผู้นำโดยสุจริตใจของคนในท้องถิ่นเอง

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม หมอประเวศ วะสีเขียนบทความที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวอิสรา บทความมีชื่อว่า คนฝูงหนึ่งกำลังทำโอกาสให้เป็นวิกฤต : คน 2 คน ไม่ทำให้วิกฤตเป็นโอกาสŽ วลีแรกคุณหมอคงหมายถึงเยาวชนคนหนุ่มสาวที่มีโอกาสจะเปลี่ยนแปลงสังคมการเมือง แต่ด้วยเหตุปัจจัยบางประการ คนหนุ่มสาวอาจจะเสียโอกาสนี้ไป เพราะไม่สร้างความมุ่งมั่นร่วมกัน หากเอารายละเอียดเนื้อหามาเป็นตัวนำ จนเกิด นิติสงครามŽ ขัดแย้งกันจนเคลื่อนต่อไม่ได้

ผู้รู้ได้บอกไว้นานแล้วว่า กระบวนการทำเรื่องใหญ่ให้สำเร็จ ต้องเรียงลำดับการทำเป็นตัวย่อว่า PPPO อย่าเอา O ขึ้นหน้า ที่หลายฝ่ายทะเลาะกันอยู่ในเวลานี้เพราะเอาตัว O ขึ้นหน้า

P คือ purpose หมายถึงความมุ่งมั่น

P คือ principle หมายถึงหลักการ

P คือ participation หมายถึงการมีส่วนร่วม หรือการเรียนรู้ร่วมกันผ่านการปฏิบัติ

O คือ organization หมายถึงการปฏิรูปองค์กร

ถ้าเริ่มด้วยการปฏิรูปองค์กรจะทะเลาะกันใหญ่ ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องการเอา O ไว้ท้ายสุด เมื่อเชื่อถือไว้ใจกันและเกิดปัญญาร่วม O ก็จะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ

บทบาทของผู้นำสำคัญที่สุดในการทำวิกฤตให้เป็นโอกาส หมอประเวศเขียนว่า ผมเคยเขียนเสนอแนะว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และกองทัพ ควรถือเป็นโอกาสประกาศสนับสนุนประชาธิปไตย และยกร่างรัฐธรรมนูญเพื่อสถาปนาระบบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ การนำของพล.อ.ประยุทธ์ และกองทัพในการสร้างประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ จะเป็นทางออกให้ทั้งประเทศและกองทัพเองŽ

ในชื่อของบทความ หมอประเวศระบุว่า คน 2 คน ไม่ทำวิกฤตให้เป็นโอกาส คนหนึ่งนั้นคือประยุทธ์ จันทร์โอชา และกองทัพ ส่วนคนที่ 2 ต้องเดากันเองว่าเป็นใคร ที่สำคัญที่สุดคือประชาชนไทย คน 2 คน จะทำหรือไม่ทำ ประชาชนไทยก็ควรทำ นั่นคือ คนไทยต้องก้าวข้ามความขัดแย้งทุกประเภท มีความมุ่งมั่นร่วมกันที่จะสร้างประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ มีความถูกต้อง เป็นธรรม และงดงาม ถ้าคนไทยมีความมุ่งมั่นร่วมกัน จะทำอะไรก็สำเร็จ

หมอประเวศกล่าวถึงการก้าวข้ามความขัดแย้งทุกประเภท ทำให้ผมนึกถึงความขัดแย้งถึงตายในชายแดนใต้ที่ยืดเยื้อมาประมาณ 17 ปี กับ 3 เดือนแล้ว จะพอเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์หรือไม่หนอ มีการพูดคุยที่เป็นทางการระหว่างตัวแทนรัฐบาลกับตัวแทนขบวนการที่ต่อสู้กับรัฐบาลมากว่า 8 ปีแล้ว ช่วงนี้มีข่าวว่าจะคุยกันในเรื่องเนื้อหาสาระ โดยเข้าใจว่าได้ผ่านขั้นตอนของ P ตัวแรกคือการสร้างความมุ่งมั่นร่วมกัน และ P ตัวที่สองคือเรื่องหลักการไปบ้างแล้ว กำลังเข้าสู่ขั้นตอนการมีส่วนร่วม และดูเหมือนว่าทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายขบวนการฯ ต่างก็พูดถึงการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมในพื้นที่มาโดยตลอด มาบัดนี้ คณะพูดคุยทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะก้าวไปสู่การเจรจาในเนื้อหาสาระสองประการคือ 1) ความปลอดภัย 2) ทางออกทางการเมืองและการมีส่วนร่วมทางการเมือง

สำหรับภาคประชาสังคมในพื้นที่ เนื่องจากประชากรมุสลิมมีกว่า 85% องค์กรภาคประชาสังคมส่วนใหญ่เป็นองค์กรของมุสลิม มีบ้างที่เป็นองค์กรพุทธ-มุสลิม ส่วนที่เป็นองค์กรพุทธยังเป็นส่วนน้อย องค์กรพุทธองค์กรหนึ่งสนใจเรื่องการสร้างสันติภาพเป็นพิเศษและมีชื่อเรียกว่า กลุ่มถักทอสันติภาพ หรือ กทส.Ž กทส. ไม่อ้างว่าเป็นตัวแทนชาวพุทธ หากพยายามเปิดพื้นที่การประสานและการพูดคุยโดยเฉพาะในหมู่ชาวพุทธ และบางครั้งรวมไปถึงมุสลิมด้วย

กทส. มีโอกาสรวบรวมความเห็นและความปรารถนาของชาวพุทธและทำเป็นรายงานเสนอคณะพูดคุยฝ่ายรัฐบาลชุดปัจจุบันมาแล้วสองครั้ง คือในวันที่ 11 กันยายน 2563 และวันที่ 24 มีนาคม 2564 ข้อเสนอในครั้งที่สองสรุปย่อได้ดังนี้

ชาวพุทธส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการพูดคุยสันติภาพ และอยากให้บรรลุผลที่เป็นรูปธรรมโดยเร็ว

ชาวพุทธอยากทำมาหากินอย่างสงบสุข และอยากให้ยุติความรุนแรง และให้การพูดคุยบรรลุข้อตกลงหยุดยิงทั่วไป

ในขณะที่ยังไม่มีการหยุดยิงทั่วไป ชาวพุทธขอให้หยุดทำร้ายผู้บริสุทธิ์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้ด้วยอาวุธ

ชาวพุทธส่วนใหญ่อยากคงบทบาทหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในปัจจุบันไว้ แต่ถ้าจะมีการเพิ่มบทบาทหน้าที่ของ อปท. ในลักษณะการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ก็ควรให้ชาวพุทธมีส่วนร่วมในการบริหาร อปท. ตามสมควร

ชาวพุทธรักความเป็นธรรมและอยากเห็นการปฏิบัติที่เท่าเทียมกันระหว่างชาวพุทธและมุสลิม

อยากให้ชาวพุทธใน จชต. สามัคคีกัน และช่วยเหลือเกื้อกูลกัน

ชาวพุทธอยากฟื้นฟูความสัมพันธ์อันดีระหว่างชาวพุทธและมุสลิมใน จชต.

ชาวพุทธใน จชต. อยากบอกสังคมไทยว่า สถานการณ์ใน จชต. ดีขึ้นมากแล้ว และอยากให้มาช่วยลงทุนหรือมาท่องเที่ยวใน จชต.

ในช่วงเวลานี้ สภาประชาสังคมชายแดนใต้ซึ่งรวมองค์กรภาคประชาสังคมในพื้นที่กว่า 30 องค์กรกำลังสำรวจความคิดเห็นของสมาชิกและกลุ่มเป้าหมายขององค์กร ว่ามีข้อเสนออะไรบ้างในเรื่องความปลอดภัยและทางออกทางการเมือง ซึ่งคาดว่าจะนำเสนอรายงานต่อคณะพูดคุยฝ่ายรัฐบาลในปลายเดือนเมษายน โดยทั้งรายงานของ กทส. และของสภาประชาสังคมฯ จะได้นำเสนอต่อคณะพูดคุยฝ่ายขบวนการฯผ่านช่องทางที่เหมาะสมต่อไป

ถ้าตกลงกันได้ในเรื่องการหยุดยิงทั่วไปและการถ่ายโอนอำนาจสู่ท้องถิ่น ความทุกข์ยากที่มีมานานของผู้คนในชายแดนใต้จะได้ทุเลาลง เมื่อถึงตอนนั้น ผมจะเป็นคนหนึ่งที่สะเทือนใจและดีใจไปกับพวกเขาด้วย

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image