พวงมาลัยรถยนต์ นอกจากทำหน้าที่ควบคุมรถ และยังเป็นอุปกรณ์ทำหน้าที่แจ้งเตือนปัญหาหรืออาการผิดปกติของรถได้ด้วย ยานยนต์ “มติชน” มีข้อแนะนำ พวงมาลัยจะช่วยบอกถึงอาการผิดปกติอะไรของรถอย่างไรได้บ้าง
-พวงมาลัยสั่น ขณะรถวิ่งปกติพวงมาลัยจะต้องนิ่ง แต่หากพบว่าพวงมาลัยสั่นๆ ต้านกับมือของเรา แสดงว่ารถมีสิ่งผิดปกติ เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ลูกหมากมีอาการหลวมคลอนค่อนข้างมาก ยางบวมผิดรูป หรือล้อแม็กคด อีกลักษณะหนึ่งคือรู้สึกว่าพวงมาลัยสั่นเวลาเหยียบเบรก เป็นไปได้ว่าจานดิสก์เบรกอาจจะคด ทำให้หน้าสัมผัสกับผ้าเบรกไม่สม่ำเสมอ หากมีอาการดังกล่าว ควรเข้าตรวจเช็กโดยด่วน
-พวงมาลัยหนัก ส่วนใหญ่ที่พบคือ ยางอ่อนมากหรือยางรั่ว ถ้าสังเกตอาการได้เร็วก็จะดี จะได้มีเวลาหาร้านปะเปลี่ยนยาง แต่ถ้ารู้เอาตอนยางอ่อนหรือแบนมากคงลำบากหน่อย ถ้าเปลี่ยนยางเองได้ก็ดีไป หรืออีกสาเหตุคือ ปั๊มพวงมาลัยเพาเวอร์รั่วหรือเสีย อาการแบบนี้ลองเข้าปั๊มเติมลมยางก่อนก็ดี
-พวงมาลัยไม่ตรง ขณะขับ ขณะที่เราขับรถในทางตรงในถนนค่อนข้างเรียบ หากลองปล่อยมือจากพวงมาลัยทั้ง 2 มือ ปกติพวงมาลัยจะอยู่ในลักษณะค่อนข้างตรง และรถจะวิ่งตรงไปได้สักระยะหนึ่ง แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพื้นผิวถนนด้วย แต่ถ้าศูนย์ล้อผิดปกติหรือที่รถกินซ้ายหรือกินขวา เมื่อเราปล่อยมือ รถจะเบนหน้าไปทางซ้ายหรือ
ขวาทันที แต่ขอเตือนว่าหากจะทดสอบอาการนี้ ควรระมัดระวัง ทำในถนนรถน้อย ถนนค่อนข้างเรียบ ถ้าไม่ชำนาญควรทดสอบในจังหวะไม่มีรถวิ่งร่วมเส้นทาง แต่ถ้าจะให้ดี เข้าศูนย์ไปตั้งศูนย์ล้อและพวงมาลัยใหม่จะดีกว่า
-พวงมาลัยไม่ตรง ขณะจอด เวลาจอดรถ หากจอดในลักษณะล้อหน้าตรง ปกติโลโก้บนแป้นพวงมาลัยต้องอยู่ในลักษณะตั้งเป็นแนวตรงพอดี แต่หากพบพวงมาลัยเอียงไปทางใดทางหนึ่ง อาจเป็นไปได้ว่าศูนย์ล้อผิดปกติ ช่วงล่างในส่วนของลูกหมากค่อนข้างหลวม อาจต้องสังเกตเรื่องของเสียงร่วมด้วย ถ้าเป็นรถเก๋งอายุมาก เป็นไปได้ว่าแกนพวงมาลัยเริ่มสึก หรือถ้าเป็นรถกระบะ เป็นไปได้ว่ากระปุกพวงมาลัยเริ่มหลวม อาจถึงเวลาเปลี่ยนพวงมาลัย
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวเป็นเพียงการสันนิษฐานเบื้องต้น ในการใช้งานจริงต้องสังเกตอาการต่างๆ ร่วมด้วย สำหรับผู้ไม่มีประสบการณ์ หรือสันนิษฐานไม่ถูกว่ารถมีอะไรผิดปกติ ให้สังเกตอาการของพวงมาลัยก็พอ หากรู้สึกว่าสั่น หนัก ไม่ตรง ให้นำรถไปให้ช่างช่วยตรวจเช็กให้ดีกว่า
ช่างเซียน